28 พฤศจิกายน 2560 : นายปรีชา รุธิรพงษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ SCBLIFE กล่าวว่า “การจ่ายภาษีถือเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน แต่เราสามารถวางแผนการลดหย่อนภาษีให้เกิดผลสูงสุด ด้วยการใช้สิทธิ์ลดหย่อนต่างๆ
“ประกันชีวิต เป็นหนึ่งในทางเลือกที่มีดีมากกว่าการหักลดหย่อนภาษี อีกทั้งยังเป็นการคุ้มครองความเสี่ยง ในอนาคตอีกด้วย SCBLIFE จึงส่งเสริมให้คนไทยมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการทำประกันชีวิตอย่างแท้จริง โดยสามารถเลือกให้ตรงกับวัตถุประสงค์ และซื้อประกันชีวิตได้ตรงตามความต้องการของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นเพื่อรองรับค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสุขภาพ เพื่อการออม หรือเพื่อเป็นรายรับหลังเกษียณ ควบคู่ไปกับได้ใช้ประโยชน์ทางด้านภาษี
กล่าวคือ (1) ค่าเบี้ยประกันชีวิตแบบทั่วไป ตามกรมธรรม์ประกันชีวิตที่มีความคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีตามจำนวนที่จ่ายจริงได้สูงสุด 100,000 บาท (2) ค่าเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ ที่นอกจากจะช่วยให้มีรายรับหลังเกษียณอย่างต่อเนื่องแล้ว ยังสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้เพิ่มอีก 200,000 บาท หรือไม่เกินร้อยละ 15 ของรายได้ ซึ่งเมื่อรวมกับเงินที่ส่งเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จข้าราชการบำนาญ กองทุนสงเคราะครูโรงเรียนเอกชน และกองทุน RMF แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท
รวมถึง (3) ค่าเบี้ยประกันสุขภาพ ที่กำลังรอการประกาศอย่างเป็นทางการจากกรมสรรพากรก็สามารถนำไปหักลดหย่อนได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงได้สูงสุด 15,000 บาท ซึ่งเมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท ตามนโยบายของภาครัฐที่มุ่งส่งเสริมการเตรียมพร้อมเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลซึ่งมีแนวโน้มที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปี
สำหรับเทศกาลลดหย่อนภาษีปีนี้ SCBLIFE ได้จัดทำเครื่องมือช่วยวางแผนภาษี “SCBLIFE Tax Plan” ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน เพียงเข้าไปที่ www.scblife.co.th ใช้เวลาเพียง 3 นาที จะทราบผลทันทีว่า ได้ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากค่าลดหย่อนต่างๆ อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยแล้วหรือยัง ทำให้สามารถวางแผนจัดการภาษีด้วยตนเองได้อย่างมืออาชีพ และสามารถวางแผนการลดหย่อนภาษีให้เกิดผลประโยชน์สูงสุด
นอกจากนี้ SCBLIFE ยังได้คัดสรร 4 แบบประกันเด่นที่เหมาะสม และสามารถหักลดหย่อนภาษีได้ เพื่อให้ลูกค้าเลือกซื้อประกันชีวิตได้ตรงตามความต้องการ และสามารถเลือกปรับค่าเบี้ยประกันภัยให้เหมาะสมกับงบประมาณของตน พร้อมประโยชน์ทางภาษีที่จะได้รับอย่างเต็มความคุ้มค่า ได้แก่
1) แบบประกัน Life Save 25/15 ออมง่าย
ประกันแบบนี้เหมาะกับคนวัยทำงาน อายุ 25-30 ปี ที่ยังไม่มีภาระทางการเงินมากนัก แต่ต้องการวางแผนเก็บเงินควบคู่กับวางแผนภาษี โดยจ่ายค่าเบี้ยฯ เริ่มต้นเพียงเดือนละไม่ถึงพันบาท ชำระเป็นเวลา 15 ปี พร้อมใช้สิทธิ์หักลดหย่อนภาษีสูงสุด 100,000 บาทในปีที่ชำระเบี้ย* แต่รับความคุ้มครองสูงตั้งแต่ปีแรกเป็นต้นไปอีก 25 ปี ในระหว่างนี้ก็รับเงินคืน 1% ของทุนประกันทุกปี ตั้งแต่ปีที่ 1-24 เมื่อสิ้นปีที่ 25 รับเงินสิ้นสุดสัญญาอีก 150% ของทุนประกัน รวมผลตอบแทนตลอดอายุสัญญาเป็น 174% ของทุนประกัน
2) แบบประกัน Life Save 70/70 ออมอุ่นใจ
แบบประกันที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการวางแผนด้านสุขภาพระยะยาวพร้อมวางแผนรับเงินก้อนโตเมื่อเข้าสู่วัยเกษียณ โดยสามารถเลือกเพิ่มความคุ้มครองสุขภาพได้นานถึงอายุ 70 ปี (เบี้ยสัญญาเพิ่มเติม) พร้อมใช้สิทธิ์หักลดหย่อนภาษีสูงสุด 15,000 บาทสำหรับเบี้ยสัญญาเพิ่มเติม ซึ่งเมื่อรวมกับเบี้ยสัญญาหลักที่คุ้มครองชีวิตแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท* ในระหว่างอายุสัญญามีเงินคืนสูงถึงปีละ 20% ของทุนประกันของค่าเบี้ยสัญญาหลัก ตั้งแต่ปีที่ 1 – อายุครบ 69 ปี และรับเงินก้อนคืนสูงถึง 200% ของทุนประกันเมื่ออายุครบ 70 ปี
3) แบบประกัน Life Protect 90/20
อีกทางเลือกที่ดีเพื่อสร้างหลักประกันในอนาคตให้กับครอบครัว โดยเริ่มออมสบายๆ เริ่มต้นค่าเบี้ยประกันภัยแค่หลักพันบาทต่อเดือน ชำระเป็นเวลา 20 ปี พร้อมใช้สิทธิ์หักลดหย่อนภาษีสูงสุด 100,000 บาทในปีที่ชำระเบี้ย* และแม้ผู้เอาประกันภัยต้องจากไปก่อนจ่ายเบี้ยประกันภัยครบ ทายาทของผู้เอาประกันภัยที่เป็นผู้รับประโยชน์ก็จะได้รับเงินเต็ม 100% ของทุนประกัน
4) แบบประกัน Life Retire 90/60 บำนาญมั่นใจ
ประกันชีวิตแบบบำนาญที่ให้ทั้งความคุ้มครองชีวิตพร้อมเงินบำนาญหลังเกษียณ เมื่อสมัครเอาประกันก็ไม่ต้องตรวจและตอบคำถามสุขภาพ เมื่อครบปีที่จ่ายเบี้ยประกันภัยก็สามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 200,000 บาท (และหากไม่มีค่าเบี้ยประกันชีวิตแบบทั่วไป จะสามารถนำมาหักลดหย่อนได้ถึง 300,000 บาท*) และเมื่อครบ 60 ปีก็เริ่มรับเงินบำนาญที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องแบบขั้นบันไดไปจนอายุ 90 ปี (* ภายใต้เงื่อนไขกรมสรรพากร)