17 พฤศจิกายน 2560 : นางสาวศุภิชชา ชัยพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทซีคอนโฮม ผู้บุกเบิกธุรกิจรับสร้างบ้านรายแรกของไทย เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เดินหน้าทำการตลาดภายใต้แนวคิด ‘Seacon Home First Class Experience’ เพื่อมอบประสบการณ์การสร้างบ้านระดับ ‘เฟิร์ส คลาส’ ซึ่งถือเป็นการปรับกลยุทธ์การสื่อสารครั้งใหญ่ของกลุ่มซีคอน โฮม ตลอด 10 เดือนที่ผ่านมา เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับตัวของพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน
ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายตั้งแต่ มกราคม – ตุลาคม 2560 ได้รวม 213 หลัง รวมมูลค่า 1,041 ล้านบาท แบ่งเป็น ซีคอน โฮม 46 หลัง มูลค่ารวม 426 ล้านบาท, คอมแพคโฮม 100 หลัง มูลค่ารวม 462 ล้านบาท และบัดเจท โฮม 67 หลัง มูลค่ารวม 153 ล้านบาท ทั้งนี้ ความสำเร็จครั้งสำคัญตลอด 10 เดือนที่ผ่านมา มาจาก 2 งานยักษ์ระดับประเทศ งานแรกคือ งาน Home Builder Expo & Materials 2017 ที่จัดขึ้นในเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายได้สูงกว่าเป้าถึง 30% ภายใน 4 วัน รวม 32 หลัง มูลค่าเกือบ 200 ล้านบาท แบ่งเป็น ซีคอน โฮม 8 หลัง มูลค่ารวม 89 ล้านบาท คอมแพคโฮมและบัดเจทโฮมรวมกันที่ 24 หลัง มูลค่ารวม 106 ล้านบาท
และความสำเร็จล่าสุดจากงานบ้านและสวนแฟร์ที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถทำยอดขายได้ทะลุเป้าหมาย 100 ล้านบาทที่ตั้งไว้ เพราะสามารถทำยอดได้มากถึง 136 ล้านบาท แบ่งเป็น ซีคอน โฮม 5 หลัง มูลค่ารวม 51 ล้านบาท, คอมแพคโฮม 14 หลัง มูลค่ารวม 63 ล้านบาท และบัดเจท โฮม 8 หลัง มูลค่ารวม 22 ล้านบาท โดยบริษัทฯ คาดการณ์ว่าในปี 2560 จะสามารถสร้างยอดขายรวมได้ตามเป้าที่ 1,300 ล้านบาท
สำหรับการปรับโฉมศูนย์บริการโฉมใหม่ในครั้งนี้ กลุ่มบริษัทซีคอนโฮม ได้นำร่องการปรับโฉมที่สำนักงานใหญ่สี่พระยาเป็นแห่งแรก เพื่อรองรับลูกค้าทุกกลุ่มไลฟ์สไตล์และช่วงวัย “”ศูนย์บริการโฉมใหม่ถูกปรับให้ดูทันสมัย สวยงาม ปรับฟังก์ชั่นพื้นที่ใช้สอยให้เหมาะสมกับการใช้งาน และสามารถเติมเต็มไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในแต่ละกลุ่มได้อย่างลงตัวยิ่งขึ้น โดยออกแบบในสไตล์ Loft ผสมผสานกับ Modern Style เพื่อต้อนรับลูกค้า 2 กลุ่ม ที่เป็นเป้าหมายหลักของซีคอน โฮม กลุ่มแรก คือ กลุ่มลูกค้าเดิมที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป มีความเชื่อมั่นในชื่อเสียงที่ดีของบริษัทฯ ต้องการบ้านที่ดูดี ภูมิฐาน เหมาะสมฐานะ
ส่วนอีกกลุ่มคือกลุ่ม Gen Y ซึ่งชื่นชอบความทันสมัย โฉบเฉี่ยว ซึ่งโฉมใหม่ของสำนักงานขายที่ศูนย์สี่พระยา จะมีมุมต้อนรับลูกค้าทั้ง 2 สไตล์ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกถึงความสะดวกสบายเมื่อมาติดต่อกับเรา และเราก็วางแผนที่จะทยอยปรับปรุงให้ครบทุกศูนย์ทั้งใน กทม. และต่างจังหวัด ภายในต้นปี 2562″” นางสาวศุภิชชา อธิบายถึงรูปแบบการปรับโฉม
นางสาวศุภิชชา กล่าวแสดงมุมมองต่อประเด็นดังกล่าวว่า “ในปี 2560 กำลังซื้อเริ่มกลับมาอย่างชัดเจนพิจารณาจากยอดขายที่ได้จากบ้านหลังใหญ่เพิ่มขึ้นมาจากปีที่ผ่านมาค่อนข้างมาก อีกส่วนหนึ่งมาจากกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีที่ดินจึงตัดสินใจสร้างบ้านเพิ่มขึ้นด้วย หากวิเคราะห์ถึงพฤติกรรมผู้บริโภคจะพบว่า ผู้บริโภคมีความรู้เกี่ยวกับการสร้างบ้าน การเลือกใช้วัสดุ กรรมวิธีการก่อสร้างมากขึ้น สรรหาสิ่งที่ตรงกับความต้องการของตัวเองมากที่สุด จากการเปรียบเทียบหลายๆ บริษัทฯ ก่อนที่ตัดสินใจเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน
ด้านราคาวัสดุในปี 2560 จากสำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า เมื่อเทียบกับช่วง 9 เดือน (ม.ค. – ก.ย.) ในปีที่ ผ่านมา พบว่า มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยรวมเฉลี่ยที่ 1.4% โดยหมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก ราคาสูงขึ้นถึงร้อยละ 8.2 หมวดไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ สูงขึ้นร้อยละ 3.3 หมวดผลิตภัณฑ์คอนกรีต สูงขึ้นร้อยละ 0.3 นั่นทำให้ซีคอน โฮม เราต้องมีการปรับราคาบ้านซีคอนโฮมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากต้นทุนการสร้างบ้านเพิ่มสูงขึ้น
ส่วนเรื่องนวัตกรรมการพัฒนาวัสดุ ฝ่ายออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ศึกษาข้อมูลสรรหาวัสดุที่เหมาะสมนำมาใช้กับบ้านซีคอน โฮม อาทิ การพัฒนาแบบบ้านแทนคุณ บ้านที่ตอบโจทย์สังคมผู้สูงอายุ โดยเลือกผลิตภัณฑ์ Elder Care Solution ของทาง SCG ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตมาเพื่อผู้สูงอายุเท่านั้น หรือเทคโนโลยี Active Airflow ของทาง SCG ที่นำเข้ามาใช้กับบ้านซีคอน เพื่อให้บ้านเรากลายเป็นบ้านเย็น สามารถประหยัดพลังงาน ลดการใช้แอร์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเทคโนโลยีใหม่ในช่วงที่ผ่านมา และเป็น option ให้ลูกค้าเลือกเพิ่มเติมเข้าไปในบ้าน ด้านการแข่งขันของธุรกิจรับสร้างบ้านในปี 2561 นั้น คาดว่าจะมีการแข่งขันเพิ่มขึ้นแน่นอน โดยการแข่งขันจะเน้นไปที่การให้บริการหลังการขาย การบริการที่ครบวงจร การเสนอขายแบบบ้านผ่านเทคโนโลยีใหม่ๆ เป็นหลัก