กรุงเทพฯ 15 พฤศจิกายน 2560 : นายวิเชาวน์ รักพงษ์ไพโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) ด้านการพาณิชย์ กล่าวว่า กลุ่มทรู มีรายได้จากการให้บริการโดยรวมเพิ่มขึ้นเป็น 24.5 พันล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นผลจากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่องของทรูมูฟ เอช ซึ่งมีรายได้จากบริการนอนวอยซ์และฐานลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้นทั้งในกลุ่มลูกค้าระบบรายเดือนและเติมเงิน ซึ่งผลักดันให้ EBITDA ของกลุ่ม เติบโตประมาณร้อยละ 39.0 จากช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนหน้า เป็น 8.9 พันล้านบาท ในขณะที่ EBITDA Margin ยังคงแข็งแกร่งที่ประมาณร้อยละ 36.5
ในไตรมาส 3 ปี 2560 กลุ่มทรู รายงานผลขาดทุนจำนวน 691 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับผลขาดทุนจำนวน 2.5 พันล้านบาท ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า อันเป็นผลจากกำไรการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากมาตรการควบคุมค่าใช้จ่ายให้ผลลัพธ์ที่ดีและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
ทั้งนี้ รายได้จากบริการนอนวอยซ์ของ ทรูมูฟ เอช ยังคงเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความต้องการใช้งานดาต้าที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อโครงข่ายประสิทธิภาพสูงสุดของกลุ่มทรู ในขณะเดียวกัน ธุรกิจ บรอดแบนด์ของกลุ่ม ยังคงรักษาการเติบโตที่แข็งแกร่งด้วยจำนวนผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้นสูงต่อเนื่อง ส่งผลให้รายได้เพิ่มขึ้นในอัตราเลขสองหลักเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า นอกจากนี้ แพลตฟอร์มดิจิทัล ของกลุ่ม ซึ่งรวมถึงบริการ IoT และ TrueID มีศักยภาพสูงในการสร้างรายได้ให้กลุ่มทรูเติบโตแข็งแกร่งและต่อเนื่อง สอดคล้องกับการขับเคลื่อนประเทศเข้าสู่ไทยแลนด์ 4.0
นายอติรุฒม์ โตทวีแสนสุข กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) ด้านปฏิบัติการ กล่าวว่า “กลุ่มทรู ยังคงเดินหน้ายกระดับ คุณภาพทั้งโครงข่ายการใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย และแพลตฟอร์มดิจิทัลที่แข็งแกร่งของกลุ่ม เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการที่คุ้มค่าและตรงใจลูกค้า จนได้รับการยอมรับจากองค์กรชั้นนำต่างๆ มอบรางวัล อันทรงเกียรติหลากหลายรางวัล โดยล่าสุด ทรูออนไลน์ได้รับรางวัลสุดยอดแบรนด์แห่งปีจากงาน World Branding Award 2017 ณ พระราชวังเคนซินตัน กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในฐานะผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต บรอดแบนด์จากประเทศไทยเพียงรายเดียวที่ได้รับรางวัลในปีนี้
ปัจจุบัน ทรูมูฟ เอช มีฐานลูกค้ารวมเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็น 26.7 ล้านราย ณ สิ้นไตรมาส 3 ทั้งนี้ รายได้จากบริการนอนวอยซ์ของทรูมูฟ เอช ยังคงเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 22.2 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนหน้า อันเป็นผลจากการเติบโตทั้งในกลุ่มลูกค้าระบบรายเดือนและเติมเงิน สิ่งเหล่านี้ ผลักดันให้รายได้จากการให้บริการของ ทรูมูฟ เอช เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.3 จากปีก่อนหน้า เป็น 17.1 พันล้านบาท ในไตรมาส 3 ปี 2560 ในขณะที่ รายได้จากการให้บริการของผู้ประกอบการใหญ่รายอื่นในอุตสาหกรรมมีจำนวนรวมกันเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า
ทางด้านอินเทอร์เน็ตของทรูออนไลน์ ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 3 ปี 2560 ด้วยฐานผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้นเป็น 3.0 ล้านราย และรายได้ที่เติบโตประมาณร้อยละ 15 จากปีก่อนหน้า สำหรับทรูวิชั่นส์ มีสมาชิกสิ้นไตรมาส 3 ปี 2560 จำนวน 4.0 ล้านครัวเรือน นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังสามารถรับชมคอนเทนต์คุณภาพเหล่านี้ผ่านแพลตฟอร์มที่หลากหลายของกลุ่มทรู โดยเฉพาะแอพพลิเคชั่น TrueID สิ่งเหล่านี้ ช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน สร้างความผูกพันของลูกค้าต่อกลุ่มทรู และส่งผลให้เพิ่มการสมัครใช้บริการหลากหลายอื่นๆ ภายใต้กลุ่มทรูอีกด้วย