5 พฤศจิกายน 2560 : เมื่อพูดถึงการดำเนินธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นประเภทใดก็ตามมักจะมาควบคู่กับคำว่าการลงทุน ทั้งการลงทุนด้วยเงิน แรงงาน การลงทุนทางวัตถุดิบ เครื่องมือ เครื่องจักร การค้นคว้า วิจัย ระบบ และอื่นๆ อีกมากมาย แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ขับเคลื่อนด้วยปัจจัยหลัก คือ เงิน แต่ในความเป็นจริงแล้วยังมีอีกหนึ่งการลงทุน ที่ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญต่อการพัฒนาขององค์กร และเงินก็ไม่สามารถซื้อสิ่งเหล่านี้มาเติมเต็มให้กับธุรกิจเราได้ นั่นก็คือ การลงทุนทางปัญญาให้กับเหล่าบุคลากรภายในบริษัท หรือองค์กร
สำหรับชาวญี่ปุ่นแล้วเชื่อว่าสินทรัพย์ที่ทรงค่ามากที่สุด ไม่ใช่เงินทอง หรือความเจริญทางวัตถุที่นำมาโอ้อวดกัน แต่คือ “ปัญญา” หรือ “ภูมิปัญญา” ที่อยู่ในตัวแต่ละบุคคลเสียมากกว่า ซึ่งผลลัพธ์ที่ทำให้เราเห็นเด่นชัดก็คือ ความสำเร็จ และความเจริญก้าวหน้าทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลอย่างทุกวันนี้ ดังนั้นแล้วการลงทุนทางปัญญาถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า อีกทั้งยังเป็นการลงทุนที่มีพลังมหาศาล และที่สำคัญทุนทางปัญญายังเป็นทุนที่ยั่งยืน และสามารถนำมาใช้ได้อย่างไม่มีวันจบสิ้นหากรู้จักนำมาใช้อย่างถูกวิธี
บริษัท ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง จำกัด ผู้นำด้านสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในประเทศไทย และผู้ให้ บริการสินเชื่อบุคคลซัมมิท แคปปิตอล เป็นอีกหนึ่งองค์กรที่มุ่งให้ความสำคัญต่อเรื่องการพัฒนาบุคลากรของบริษัทฯ เป็นอย่างมาก เพราะเชื่อว่าการให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นทั้งในหมู่พนักงานด้วยกันเอง และการสร้างความเชื่อมั่นต่อลูกค้า จะนำมาซึ่งความสำเร็จขององค์กรอย่างยั่งยืนได้ในที่สุด
นายวิชิต พยุหนาวีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง จำกัด กล่าวว่า “เป้าหมายในการทำให้ ซัมมิท แคปปิตอล ก้าวขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยให้ได้นั้น เรามีการพัฒนา และปรับปรุงองค์กรอยู่หลายด้านด้วยกัน แต่ด้านที่เราให้ความสำคัญมากที่สุดคือการมุ่งพัฒนาบุคลากรภายในองค์กร เพราะพนักงานทุกๆคน คือส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งไหน หน้าที่ไหน ล้วนมีความสำคัญต่อบริษัททั้งสิ้น จึงพยายามพัฒนาและจัดฝึกอบรมบุคลากรของเราอย่างต่อเนื่อง และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ณ ตอนนี้ ก็คือ พนักงานมีการนำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในการทำงาน ส่งผลให้ผลประกอบการของเราเป็นไปตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ และพนักงานในองค์กรยังสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย”
โดยตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน – กันยายน 2560 หรือภายในระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา ซัมมิท แคปปิตอล มีการจัดฝึกอบรมให้กับบุคลากรในองค์กรเพื่อพัฒนาความสามารถในการปฏิบัติงานไปแล้วถึง 52 หลักสูตร ด้วยกัน ทั้งการจัดการฝึกอบรมภายในบริษัท และจัดส่งพนักงานไปเข้ารับการฝึกอบรมยังสถาบันภายนอก ซึ่งมีพนักงานในองค์กรทั้งในส่วน front office เช่นทีมขาย และในส่วน back office หรือฝ่ายสนับสนุนต่างๆ และระดับผู้บริหาร เข้าร่วมการอบรมทั้งสิ้นกว่า 807 คน หรือประมาณ 70% ของพนักงานทั้งหมดในช่วงเวลาดังกล่าว
โครงการอบรมที่มีผลลัพธ์น่าพึงพอใจมากที่สุดคือ โครงการที่ทางซัมมิท แคปปิตอลได้ทุ่มเทงบประมาณและทรัพยากรบุคคลในการอบรมเรื่อง ระบบ Summit Smart System เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ซึ่งได้ดำเนินการจัดการฝึกอบรมให้กับพนักงานขายทั่วประเทศ และพบว่าพนักงานขาย 100% สามารถให้บริการแก้ลูกค้าผ่านระบบ Summit Smart System ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมเสริมสร้างทักษะความรู้ความสามารถสำหรับฝ่ายสนับสนุนให้ระบบหลังบ้านทำงานควบคู่กันไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดอีกด้วย
สำหรับระดับผู้บริหารที่ถือเป็นผู้นำทัพ ในการนำพาบริษัทก้าวข้ามทุกการเปลี่ยนแปลง ปัญหา และความ ท้าทายในการดำเนินธุรกิจในขณะนี้ทั้งจากปัจจัยภายในและภายนอกองค์กร ถือเป็นกลุ่มคนที่มีความสำคัญมากต่อองค์กร ซึ่งที่ผ่านมาคณะผู้บริหารของทาง ซัมมิท แคปปิตอล ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการเข้าร่วมกิจกรรมฝึกอบรม และสัมมนา ถึง 100% และเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมสร้างความรู้ความสามารถ และเปิดรับการเรียนรู้ใหม่ๆ เพื่อนำมาใช้ในการบริหารหน่วยงานที่รับผิดชอบอย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับองค์กรและหุ้นส่วนทางธุรกิจ
กิจกรรมสัมมนาผู้บริหารประจำปี “2017 Annual management Team Synergy” และโครงการพัฒนาผู้นำอย่างยั่งยืน หรือ “Leading at the Speed of Trust” คือ 2 โครงการที่คณะผู้บริหารของ ซัมมิท แคปปิตอล ได้เข้าร่วมอบรมล่าสุด และทั้ง 2 โครงการก็เป็นโครงการที่มีการจัดอบรมมาอย่างต่อเนื่อง โดยจากการติดตามผล พบว่ากิจกรรมอมรมและสัมมนาดังกล่าวช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการทำงานของทีมบริหาร ขยายกรอบแนวคิด และต่อยอดความรู้ในการดำเนินธุรกิจ ท่ามกลางสภาพการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน และสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตลอดเวลา
ในยุคแห่งการแข่งขันทางธุรกิจที่เข้มข้น แต่ละบริษัท แต่ละองค์กร ต่างพากันงัดทุกกลยุทธ์ ไม้เด็ด ลงมาใช้ในสนามแห่งการแข่งขันนี้ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การตลาด ความร่วมมือ เทคโนโลยีและอีกหลายด้าน แต่ท้ายที่สุดแล้วคงปฏิเสธไม่ได้ว่า การลงทุนทางปัญญาเพื่อพัฒนาบุคลากรในองค์กรจะเป็นการเสริมสร้างมูลค่าให้กับบุคลากรภายในองค์กรและกลายเป็นส่วนผสมของความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจ ที่นำพาให้องค์กรสามารถรับมือกับทุกๆ การแข่งขัน รวมถึงการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นตามมาได้อย่างยั่งยืนแน่นอน