3 พฤศจิกายน 2560 : นายจีรพันธ์ อัศวะธนกุล นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ส่งผลทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ สร้างความเสียหายให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเป็นจำนวนมาก
สมาคมประกันวินาศภัยไทย ในฐานะผู้บริหารโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปี 2560 โดยมีบริษัทประกันภัย จำนวน 24 บริษัท ร่วมรับประกันภัยในโครงการดังกล่าว ได้ดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนประกันภัยข้าวนาปี ปี 2560 ให้กับเกษตรกรที่ได้รับความเสียหายจากภัยน้ำท่วมในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว รวม 2 ครั้ง (ข้อมูล ณ วันที่ 2 พ.ย. 2560) เป็นจำนวนเงินค่าสินไหมทดแทนทั้งสิ้น 431,281,762.39 บาท ครอบคลุมพื้นที่ 342,287.11 ไร่ ใน 28 จังหวัด และมีเกษตรกรได้รับค่าสินไหมทดแทนแล้วจำนวน 38,045 ราย
โดยจังหวัดที่ได้รับค่าสินไหมทดแทนสูงสุด ได้แก่ จังหวัดสกลนคร 99,757,938.68 บาท รองลงมา จังหวัดนครสวรรค์ 71,709,687.47 บาท จังหวัดมหาสารคาม 58,337,708.38 บาท จังหวัดร้อยเอ็ด 49,703,641.40 บาท จังหวัดนครราชสีมา 38,756,830.76 บาท และพื้นที่อื่น ๆ รวม 113,015,955.70 บาท ตามลำดับ ซึ่งได้มีการโอนเงินค่าสินไหมทดแทนให้กับเกษตรกรผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีรายละเอียดการจ่ายค่าสินไหมทดแทนรวมทั้ง 2 ครั้ง ดังนี้
การจ่ายค่าสินไหมทดแทน ครั้งที่ 1 จำนวนเงินทั้งสิ้น 224,863,816.04 บาท มีพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายรวม 178,463.34 ไร่ มีเกษตรกรได้รับความเสียหายจำนวน 22,423 ราย โดยจังหวัดที่ได้รับค่าสินไหมทดแทนสูงสุด ได้แก่ 1.) จังหวัดมหาสารคาม 56,277,991.51 บาท 2.) จังหวัดร้อยเอ็ด 46,585,915.28 บาท 3.) จังหวัดสกลนคร 43,685,299.51 บาท 4.) จังหวัดนครพนม 24,626,499.53 บาท 5.) จังหวัดนครราชสีมา 23,226,043.81 บาท และจังหวัดอื่น ๆ รวม 30,462,066.40 บาท ตามลำดับ
การจ่ายค่าสินไหมทดแทน ครั้งที่ 2 จำนวนเงินทั้งสิ้น 206,417,946.35 บาท มีพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายรวม 163,823.77 ไร่ มีเกษตรกรได้รับความเสียหายจำนวน 16,065 ราย โดยจังหวัดที่ได้รับค่าสินไหมทดแทนสูงสุด ได้แก่ 1.) นครสวรรค์ 70,501,582.96 บาท 2.) สกลนคร 56,072,639.17 บาท 3.) นครราชสีมา 15,530,786.95 บาท 4.) นครพนม 13,996,697.29 บาท 5.) ชัยภูมิ 12,622,092.70 บาท และจังหวัดอื่น ๆ รวม 37,694,147.28 บาท ตามลำดับ
ทั้งนี้สมาคมฯ ยังได้ติดตามข้อมูลการทำประกันภัยข้าวนาปี กับ ธ.ก.ส. และเชื่อมข้อมูลการขึ้นทะเบียนเกษตรกรและรายงานข้อมูลความเสียหายรายแปลงในพื้นที่ที่รัฐประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ กับกรมส่งเสริมการเกษตรเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง เพื่อดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับเกษตรกรที่ได้รับความเสียหายจากภัยน้ำท่วมโดยเร็ว เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวมีทุนรอนในการประกอบอาชีพได้ต่อไป
ล่าสุด สมาคมฯ ได้มอบคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะพร้อมอุปกรณ์ จำนวน 2 ชุด มูลค่า 63,344 บาท ให้แก่ นายเจริญ พิมพ์ขาล หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิตสำนักงานเกษตรอำเภอลำสนธิ จังหวัดลพบุรี เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของสำนักงานเกษตรจังหวัดลพบุรี ในการขึ้นทะเบียนเกษตรกร และบันทึกข้อมูลความเสียหายเพื่อประโยชน์ในโครงการประกันภัยข้าวนาปีไปเมื่อเร็วๆ นี้
อนึ่ง ผลการดำเนินงานโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปี 2560 สมาคมฯ ได้รับรายงานข้อมูลการรับประกันภัยทุกภาค ยกเว้นภาคใต้ที่จะสิ้นสุดการรับประกันภัย ในวันที่ 15 ธันวาคม 2560 ปรากฏว่า มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการจำนวน 1.58 ล้านราย มีพื้นที่เอาประกันภัย จำนวน 23.7 ล้านไร่ มีเบี้ยประกันภัยรับสุทธิ 2,137 ล้านบาท โดยเกษตรกรที่ทำประกันภัยข้าวนาปี จะได้รับความคุ้มครองความเสียหายจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ วงเงินความคุ้มครอง 1,260 บาทต่อไร่ ทั้งหมด 6 ภัย ได้แก่ น้ำท่วมหรือฝนตกหนัก ภัยแล้ง ฝนแล้งหรือฝนทิ้งช่วง ลมพายุหรือพายุไต้ฝุ่น ภัยอากาศหนาวหรือน้ำค้างแข็ง ลูกเห็บและไฟไหม้
โดยจะต้องอยู่ในพื้นที่ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ สำหรับกรณีเกิดความเสียหายจากภัยศัตรูพืชและโรคระบาด วงเงินความคุ้มครอง 630 บาทต่อไร่ ซึ่งเกษตรกรสามารถตรวจสอบสถานะการประกันภัย และสถานะการจ่ายค่าสินไหมทดแทนได้ง่ายและรวดเร็ว จากระบบออนไลน์เคลมแอพพลิเคชั่น “มะลิ” ผ่านโทรศัพท์มือถือได้ที่ rice.tgia.org ตลอด 24 ชั่วโมง หรือสอบถามสายด่วนประกันภัยข้าวนาปี สมาคมประกันวินาศภัยไทย โทร. 061 404-4422 
