19 ตุลาคม 2560 : นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึง แผนงานของเคทีซีในช่วงสิ้นปีนี้ ยังคงเดินหน้าพัฒนาโมเดลธุรกิจที่แตกต่างและเป็นรูปธรรม โดยมีเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือช่วยขับเคลื่อนธุรกิจ เพื่อให้เคทีซีเป็นผู้นำในวงการบัตรเครดิตที่สามารถให้บริการด้านดิจิทัลได้มีประสิทธิภาพสูงสุดและตอบโจทย์ความต้องการของสมาชิกผู้ใช้งานได้ครอบคลุมที่สุด อาทิ การเปิดตัวโมบายแอพพลิเคชัน TapKTC ที่ใช้ง่าย เสถียร และปลอดภัย การพัฒนาระบบล็อคอินด้วยเทคโนโลยีการสแกนม่านตา (Iris) ตามมาตรฐานซัมซุง พาส (Samsung Pass)
ซึ่งเคทีซีเป็นสถาบันการเงินรายแรก และรายเดียวของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และที่ 3 ของโลกที่เริ่มใช้เทคโนโลยีนี้ รวมถึงการพัฒนาฟีเจอร์ E-Coupon บนโมบายแอ็พ TapKTC เพื่อเป็นเครื่องมือการแลกคะแนนสะสมบนมือถือ ซึ่งถือเป็นเจ้าแรกในวงการบัตรเครดิตไทย และเคทีซีจะไม่หยุดนิ่ง เราจะยังคงนำเสนอสิ่งใหม่ๆ เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดี (CX-Customer Experience) และเหนือความคาดหมายให้แก่สมาชิกอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนเปิดตัวแคมเปญการตลาดยิ่งใหญ่โค้งสุดท้ายของปี เพื่อเป็นของขวัญและขอบคุณสมาชิก โดยเคทีซีมั่นใจว่าจะสามารถคงเป้าอัตราการเติบโตกำไรของปี 2560 เป็นไปตามที่ได้ประมาณการไว้
สำหรับผลงาน 9 (ม.ค.-ก.ย.60 )เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ ยังคงสามารถเติบโตด้านรายได้และขยายฐานการทำกำไรจากยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรที่เติบโตขึ้น 28% เท่ากับ 2,365 ล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้น 9.17 บาท
ส่วนไตรมาส 3/2560 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 846.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันของปี 2559 เป็นผลจากความสามารถในการสร้างรายได้จากธุรกิจหลัก การจัดการค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ดี ตลอดจนประสิทธิภาพในการติดตามหนี้
ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2560 บริษัทฯ มีพอร์ตลูกหนี้การค้ารวมเท่ากับ 68,670 ล้านบาท เติบโต 10% จากไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา ฐานสมาชิกทั้งสิ้น 3.1 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้น 8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นบัตรเครดิต 2,220,970 บัตร ยอดลูกหนี้บัตรเครดิตรวม 44,218 ล้านบาท และสินเชื่อบุคคล 849,335 บัญชี ยอดลูกหนี้สินเชื่อบุคคลรวม 24,019 ล้านบาท ลูกหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิด
รายได้ (NPL) รวมอยู่ที่ 1.46% ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 1.86% โดย NPL บัตรเครดิตอยู่ที่ 1.20% และ NPL สินเชื่อบุคคลอยู่ที่ 0.82%
บริษัทฯ มีรายได้รวมไตรมาส 3/2560 เท่ากับ 14,421 ล้านบาท เติบโตจากรายได้ดอกเบี้ยของบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลที่ 6% และ 19% ตามลำดับ รวมถึงหนี้สูญได้รับคืนเพิ่มขึ้น 19% และจากรายได้ค่าธรรมเนียม (ไม่รวมค่าธรรมเนียมในการใช้วงเงิน) ที่เพิ่มขึ้น 11%
นอกจากนี้ การใช้จ่ายผ่านบัตรในช่วงแปดเดือนเติบโตที่ 6.9% เพิ่มสูงขึ้นกว่าอุตสาหกรรมที่เติบโต 3.8% เป็นผลมาจากการจัดกิจกรรมการตลาดต่อเนื่อง และครอบคลุมทุกหมวดการใช้จ่ายหลัก ทำให้ไตรมาส 3/2560 บริษัทฯ มีอัตราเติบโตของปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรอยู่ที่ 7.6%