WELCOME TO SEQUEL ONLINE (ซีเคว้ล ออนไลน์)
วันอังคาร ที่ 26 พฤศจิกายน 2567 ติดต่อเรา
‘ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล’ โชว์ความสำเร็จกองทุนหุ้นเวียดนามคึกคัก… ปิดยอดขาย 1,485 ล้านบาทตามเป้า ##

17 ตุลาคม 2560 : นายจุมพล สายมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จำกัด เปิดเผยว่า ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิลประสบความสำเร็จในการเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี- พรินซิเพิล เวียดนาม อิควิตี้ หรือ CIMB-Principal Vietnam Equity Fund (CIMB-PRINCIPAL VNEQ) เมื่อวันที่ 2-11 ตุลาคมที่ผ่านมา

ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนที่จองซื้อหน่วยลงทุนในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้สามารถปิดการจองซื้อหน่วยลงทุนที่ 1,485 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนว่านักลงทุนมีความเชื่อมั่นในศักยภาพการบริหารจัดการกองทุนของซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิลและภาพรวมเศรษฐกิจประเทศเวียดนามที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในอนาคต

คุณจุมพล สายมาลา

สำหรับกองทุน CIMB-PRINCIPAL VNEQ มีจุดเด่นที่เป็นกองทุนกองแรกที่เข้าลงทุนโดยตรงในตลาดหุ้นเวียดนาม โดยกองทุนมีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารทุนของบริษัทที่จดทะเบียน หรือมีธุรกิจหลักในประเทศเวียดนามที่เชื่อว่ามีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต รวมถึงสามารถลงทุนในกองทุนรวม ETF ตราสารทุนต่างประเทศ รวมเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน

ทั้งนี้ เศรษฐกิจเวียดนามมีแนวโน้มเติบโตได้ดี จากพื้นฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง การเมืองที่มีเสถียรภาพ แหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และรายได้ต่อหัวของประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์เวียดนามมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปัจจัยบวกโดดเด่น เช่น การเติบโตของ GDP ของเวียดนามในปี 2560-2565 ที่คาดว่าจะขยายตัวอย่างรวดเร็วประมาณ 6% ต่อปี (ข้อมูลจาก Bloomberg Consensus และ IMF ข้อมูล ณ มิถุนายน 2560)

โดยเวียดนามเป็นหนึ่งใน 16 ประเทศ จากทั้งหมดกว่า 200 ประเทศ ที่ IMF คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะเติบโตเกินกว่า 6% ต่อปีในช่วง 5 ปีนับจากนี้ การที่เวียดนามเข้าร่วมเป็นสมาชิก WTO เมื่อปี 2550 ได้ดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ (FDI) เข้ามาตั้งฐานการผลิตสินค้า รวมถึงการทำข้อตกลงทางการค้า (FTAs) กับกลุ่มประเทศอื่นๆ ส่งผลดีต่อการยกระดับประเทศเป็นผู้ผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่ม

ในขณะที่แนวโน้มการเพิ่มขึ้นของชนชั้นกลางและการขยายตัวของสังคมเมือง ถือเป็นปัจจัยบวกต่อการเพิ่มอัตราการบริโภคภาคประชาชนและการลงทุนของภาคเอกชนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในขณะที่มีปัจจัยเสริมด้านการลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนาม เช่น การปรับลดข้อจำกัดการถือครองหุ้นของต่างชาติหรือ Foreign Ownership Limit (FOL) ในหลักทรัพย์บางกลุ่ม ทำให้ชาวต่างชาติสามารถถือครองหุ้นในสัดส่วนไม่เกิน 49% ของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมด

ตลาดหลักทรัพย์เวียดนามยังมีค่า P/E อยู่ที่ประมาณ 14 เท่า ที่ถือว่ายังต่ำกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเดียวกัน และโอกาสที่ตลาดหุ้นเวียดนามจะถูกย้ายไปคำนวณใน MSCI Emerging Market ภายในปี 2563 ซึ่งล้วนแต่เป็นปัจจัยบวกที่ทำให้เศรษฐกิจและตลาดหุ้นเวียดนามมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง logo เล็ก (ปิดท้ายข่าว)

การเงิน ดูทั้งหมด



COPYRIGHT © 2016 SEQUEL ONLINE. ALL RIGHTS RESERVED.
FOLLOW UP