26 กันยายน 2560 : นายวิวัฒน์ ปิยะวิโรจน์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยสมายล์ คาดว่า รายได้ปีนี้จะเติบโต 10% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนมาเป็น 1.5-1.7 หมื่นล้านบาท คิดเป็นประมาณ 10% ของรายได้บมจ.การบินไทย (THAI) ที่คาดว่าปีนี้จะทำได้ 1.5 แสนล้านบาทไตรมาส 4 ปี 2560
เนื่องจากแนวโน้มผลประกอบการปรับตัวดีขึ้น โดยอัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) อยู่ที่ราว 80% ดีขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และดีขึ้นจากไตรมาส 3 ปี 2560 ที่อยู่ในระดับกว่า 70% เนื่องจากไตรมาสสุดท้ายเป็นช่วงไฮซีซั่นและคาดว่าจะดีต่อเนื่องไปถึงปีหน้า เพราะรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเพิ่มการให้บริการแบบเช่าเหมาลำมากขึ้น เพราะเห็นถึงความต้องการมากทั้งในผู้โดยสารจากประเทศจีนและอินเดีย แม้ว่าปีนี้ยังมีรายได้ไม่มากนัก แต่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วน 5-10% ในช่วง 2-3 ปีจากนี้
ขณะที่ในไตรมาส 4 ปีนี้ สายการบินไทยสมายล์จะเปิดจุดบินใหม่ ได้แก่ กรุงเทพ-เกาสง และ กรุงเทพ-หลวงพระบาง จะเริ่มทำการบินในวันที่ 1 ต.ค.นี้ โดยคาดว่าทั้งสองเส้นทางนี้จะมีปริมาณผู้โดยสารได้อีกมาก ประเมิน Cabin Factor เกือบเต็ม 100%
สำหรับเส้นทางกรุงเทพ-เกาสง จะทำการบินวันละ 1 เที่ยว ราคาเริ่มต้นที่ 4,680 บาท/เที่ยว ทั้งนี้มั่นใจว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากไทยไปไต้หวันมากขึ้นจากที่ไต้หวันให้ฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวไทย ส่วนเส้นทางกรุงเทพ-หลวงพระบาง บินตรง 4 วัน/สัปดาห์ ในวันจันทร์, พุธ ,ศุกร์ และ อาทิตย์ ราคาเริ่มต้นที่ 2,600 บาท/เที่ยว ซึ่งเส้นทางนี้ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวยุโรป ซึ่งสายการบินไทยสมายล์จะเชื่อมต่อเครื่องกับสายการบินไทย ซึ่งเป็นบริษัทแม่ และคนไทยก็ให้ความสนใจด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ ไทยสมายล์จะเปิดเส้นทางที่ใช้ฐานการบินในเมืองอื่น ได้แก่ ภูเก็ต-กวางโจว เริ่มบินเดือน ต.ค.นี้ หรือตารางบินฤดูหนาว และจะเพิ่มเส้นทาง ภูเก็ต-เซี่ยงไฮ้ โดยอยู่ระหว่างขออนุญาตทางการจีน ส่วนอีกเส้นทางที่กำลังศึกษาอยู่ คือ เชียงใหม่-ไทเป คาดว่าน่าจะทำการบินได้ต้นปีหน้า รวมทั้งจะทำการบินไปเมืองพาราณสีและพุทธคายาของอินเดียในตารางบินฤดูหนาวนี้ด้วย
โดยการให้บริการเส้นทางบิน 2 เส้นนี้ การบินไทยจะนำเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของระบบการขาย และการทำการตลาดของการบินไทย ซึ่งรูปแบบธุรกิจลักษณะนี้ จะเกิดขึ้นในอีกหลายเส้นทางบินของการบินไทยและไทยสมายล์ ทั้งในประเทศ และระหว่างประเทศ โดยความร่วมมือในการดำเนินธุรกิจดังกล่าวนี้จะทำให้เกิดความสะดวกสบายแก่ผู้โดยสารที่ต้องเดินทางระหว่างเมืองต่างๆ ยิ่งไปกว่านั้นจะนำไปสู่การสร้างรายได้และการเติบโตให้กับทั้งสองสายการบินอย่างยั่งยืน
นายวิวัฒน์ กล่าวว่า สายการบินไทยสมายล์ยังไม่มีแผนเพิ่มเครื่องบินใหม่ โดยปัจจุบันมีจำนวนเครื่องบินแอร์บัส A320 จำนวน 20 ลำ อายุเฉลี่ย 4-5 ปี ซึ่งไทยสมายล์จะเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เครื่องบินให้ดีกว่านี้ จากปัจจุบันบินกว่า 9 ชม./ลำ/วัน จะเพิ่มเป็น 10-11 ชม./ลำ/วัน
ปัจจุบัน สายการบินไทยสมายล์ให้บริการ 10 จุดบินในประเทศ ได้แก่ เชียงใหม่ ภูเก็ต ขอนแก่น เชียงราย หาดใหญ่ อุบลราชธานีอุดรธานี สุราษฎร์ธานี นราธิวาส และกระบี่ โดยตั้งแต่วันนี้จนถึง 20 ต.ค.นี้ได้จัดโปรโมชั่นให้คนที่อยู่ต่างจังหวัดเดินทางมากราบพระบรมศพ และร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในราคาเริ่มต้น 1,260 บาทไปกลับเดินทางได้จนถึง 30 ต.ค.
ส่วนเส้นทางบินต่างประเทศ มี 16 จุดบิน ได้แก่ เสียมราฐ, ปีนัง, ฉางซา, ฉงชิ่ง, เจิ้งโจว, คยา, พาราณสี, ชัยปุระ, ลัคเนา, ย่างกุ้ง, พนมเปญ, กัวลาลัมเปอร์,เวียงจันทน์, มัณฑะเลย์ และ 2 เส้นทางใหม่ เกาสง และ หลวงพระบาง