25 กันยายน 2560 : นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT (ทอท.) เปิดเผยว่า จัดกิจกรรมการประชาสัมพันธ์ การใช้ประโยชน์ที่ดินของ ทอท.ที่มีโอกาสพัฒนาเชิงพาณิชย์ โดยเชิญผู้ประกอบการเข้าร่วมงาน เพื่อรับฟังข้อมูล ตำแหน่ง ที่ตั้งของที่ดิน รวมถึงระเบียบ ข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการใช้ประโยชน์ที่ดินของ ทอท.รวมทั้งจัดบูธแสดงที่ดินพร้อมจัดเจ้าหน้าที่เพื่อตอบข้อซักถาม หากมีผู้ประกอบการสนใจที่จะลงทุนธุรกิจร่วมกับ ทอท.สามารถนำเสนอรูปแบบธุรกิจให้กับ ทอท.ได้ในภายหลัง โดยในปี 61 ทอท.จะเดินหน้าดำเนินการในการพัฒนารายได้เชิงพาณิชย์ ให้เป็นไปตามเป้าหมาย
ทั้งนี้ ที่ราชพัสดุที่มีศักยภาพในการพัฒนาในท่าอากาศยาน 4 แห่ง ประกอบด้วย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่ดินแปลง Airport Business Area เนื้อที่รวม 682 ไร่ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ จำนวน 2 แปลง เนื้อที่รวม 1.6 ไร่ ท่าอากาศยานหาดใหญ่ จำนวน 4 แปลง เนื้อที่รวม 613 ไร่ และท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย จำนวน 5 แปลง และที่ดินแปลงย่อย รวม 7 จุด เนื้อที่รวม 742 ไร่ และในส่วนที่ดินของ ทอท.ที่ซื้อมาจากราษฎรที่ได้รับผลกระทบทางเสียง
จากการดำเนินงาน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีจำนวน 4 แห่ง แบ่งเป็นที่ดินในเขตลาดกระบัง 3 แห่ง และ ที่ดินติดถนนทางเข้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิด้านถนนบางนา – ตราด อีก 1 แห่ง รวมเป็นที่ดินประมาณ 105 ไร่
“ทอท.เชื่อว่าการจัดกิจกรรมครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ทั้งกับ ทอท.ทางด้านโอกาสในการพัฒนารายได้ สำหรับผู้ประกอบการก็เป็นโอกาสในการขยายธุรกิจ และยิ่งไปกว่านั้นเป็นการส่งเสริมรายได้ให้กับชุมชน และสังคมโดยรอบท่าอากาศยาน เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ชุมชนและสังคม อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจท้องถิ่นที่จะส่งผลให้เกิดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ในระดับประเทศต่อไป” นายนิตินัย กล่าว
สำหรับในปี 2560 ทอท.ได้มีแผนแม่บทการพัฒนาท่าอากาศยานวงเงินประมาณ 2.2 แสนล้านบาท เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของ ท่าอากาศยานในความรับผิดชอบของ ทอท.6 แห่งให้รองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 185 ล้านคนในปี 68 ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มมีการดำเนินการไปบางส่วนแล้ว
ทางด้านบทบาทเชิงพาณิชย์ ทอท.มีนโยบายพัฒนารายได้เกี่ยวกับกิจการการบิน (Aeronautical Revenue) และรายได้ไม่เกี่ยวกับกิจการการบิน (Non-Aeronautical Revenue) ให้อยู่ในสัดส่วนร้อยละ 50 : 50 เพื่อสร้างความสมดุลของรายได้ และลดผลกระทบจากรายได้ Aero ที่มีความผันผวนมากกว่ารายได้ Non-Aero ซึ่ง ทอท. จะดำเนินการให้เป็นไปตามเป้าหมายได้ภายในปี 63
โดยแบ่งเป็นการพัฒนารายได้จากธุรกิจในอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยาน และการพัฒนารายได้ภายนอกอาคารผู้โดยสาร ซึ่ง ทอท.วางแผนที่จะใช้ประโยชน์ที่ดินทั้งในส่วนที่เป็นที่ราชพัสดุ และที่ดินรวมทั้งสิ่งปลูกสร้างที่ ทอท.ซื้อมาจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบทางเสียงในพื้นที่ NEF มากกว่า 40 จากการดำเนินงานของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมา ทอท.ได้มีการศึกษาวิเคราะห์ กำหนดระเบียบ ข้อบังคับ วิธีการ รวมทั้งประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดทำแผนงานโครงการในการนำพื้นที่ที่ว่างเปล่ามาใช้ประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพ และขณะนี้แผนการดำเนินงานต่างๆ ได้มีความชัดเจน ได้แก่ การแก้ไขข้อตกลงการใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานภูมิภาค
มีการกำหนดกิจกรรมที่เกี่ยวกับหรือเกี่ยวเนื่องกับกิจการ ท่าอากาศยานเพื่อให้เกิดความชัดเจนในการที่ ทอท.จะดำเนินกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ได้แก่ โรงแรม การขนส่งและ โลจิสติกส์ สำนักงานและศูนย์ธุรกิจ ร้านค้าและศูนย์การค้า การท่องเที่ยวและนันทนาการ การประชุมสัมมนา และนิทรรศการ ที่พักอาศัย การกีฬา การรักษาพยาบาล ขณะนี้มีความชัดเจนเกี่ยวกับค่าตอบแทน ในการใช้ประโยชน์ที่ราชพัสดุ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้ว