กรุงเทพฯ 21 กันยายน 2560 : บล.เออีซี (AECS) ลุยขับเคลื่อนธุรกิจโบรกเกอร์ ดึง “สมบัติ นราวุฒิชัย” นั่งแท่นประธานกรรมการบริหาร เตรียมเพิ่มช่องทางขยายฐานลูกค้ากลุ่มสถาบัน -รายย่อยเพิ่ม พร้อมอัดโปรดักส์ใหม่ๆ ซัพเพอร์ตความต้องการลูกค้าให้ทันยุค Digital ทั้ง BLOCK TRADE และ AI.TRADE ส่วนIPO จ่อนำเข้าเทรดในปีนี้อย่างน้อย 2 บริษัท และยื่นไฟลิ่งต่อ ก.ล.ต. อีก 2 บริษัท เชื่อโค้งสุดท้ายปีนี้ดัชนีหุ้นคึก ล้นทดสอบ 1,700 จุดต้นปีหน้า
นายสมบัติ นราวุฒิชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จํากัด (มหาชน) หรือ AECS เปิดเผยว่า กลยุทธ์การดำเนินงาน เพื่อขับเคลื่อนให้ บล. AECS มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมั่นคงในระยะยาวนั้น ควรให้ความสำคัญระหว่างลูกค้าสถาบัน และรายย่อยควบคู่กันไป พร้อมทั้งการพัฒนารูปแบบการให้บริการใหม่ เสริมจุดแข็งในด้านของเครื่องมือโปรแกรมเทรดต่างๆ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในยุคเทคโนโลยีข่าวสารในปัจจุบัน
ทั้งนี้ กลุ่มลูกค้าสถาบันมีการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นถึง 7% เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม เนื่องจากกลุ่มนักลงทุนมีความรู้ความเข้าในในการลงทุน และการจัดตั้งกองทุนที่เพิ่มขึ้นทำให้มีการลงทุนที่หลายหลายมากขึ้น ในขณะที่กลุ่มนักลงทุนรายย่อยกลับลดลงบ้างแต่ไม่มาก อีกทั้งเพิ่มช่องทางการสร้างรายได้จากการผลักดันบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ได้จำนวน 2 บริษัท และอยู่ระหว่างรอยื่น ไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ อีกประมาณ 2 บริษัท โดยคาดว่าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ ได้ต้นปี 2561
นอกจากนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างเตรียมการพัฒนาระบบใหม่ๆรองรับการซื้อขายหลักทรัพย์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า อาทิ BLOCK TRADE ที่เป็นตัวช่วยให้นักลงทุนรายย่อยสามารถลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่ม Set 100 และอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบเทรด AI. Trade ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวได้ในเร็วๆนี้ ซึ่งจะตอบโจทย์ลูกค้าด้านการลงทุนของบริษัทได้อย่างแม่นยำมากขึ้น
สำหรับแนวโน้มทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2560 คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สามารถยืนเหนือระดับ 1,600 จุด และมีโอกาสไปทดสอบที่ระดับ 1,700 จุดได้ในช่วงต้นปี 2561 ได้ ซึ่งเกิดจากปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่มีความชัดเจนมากขึ้น หนุนให้มีการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนเพิ่มขึ้น
“ ช่วงก่อนสิ้นปีนี้จนถึงปีหน้า คาดว่าแนวโน้มเศรษฐกิจในปะเทศจะมีการทิศทางการปรับตัวที่ดีขึ้น เกิดจากนโยบายการลงทุนของภาครัฐ และแนวทางการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปลายปี 2561 ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติมีความเชื่อมั่น และกลับเข้ามาลงทุนเพิ่มมากขึ้น” นายสมบัติกล่าว