14 กันยายน 2560 : นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ไม่เห็นด้วยหากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะมีแนวคิดในการปรับกรอบเงินเฟ้อของปีนี้ใหม่ เพราะปกติแล้วการกำหนดกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อจะทำเพียงแค่ปีละครั้ง ซึ่งเมื่อถึงสิ้นปี ธปท.ก็ต้องรายงานให้กระทรวงการคลังทราบว่าสามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมายหรือไม่ แต่หากไม่ได้ก็ต้องชี้แจงว่าเป็นเพราะเหตุใด โดยในปัจจุบันกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ร่วมกันกำหนดกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อสำหรับปี 2560 ไว้ที่ +/- 2.5% หรืออยู่ในกรอบ 1 – 4%
นายอภิศักดิ์ กล่าวอีกว่า การกำหนดกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อนั้น เพื่อเป็นตัวชี้ว่าเศรษฐกิจของประเทศจะเดินไปอย่างไร ซึ่งถ้าบางช่วงเงินเฟ้อสูง บ่งบอกว่าเศรษฐกิจร้อนแรงเกินไป ธปท.ก็จะต้องเข้าไปดูแล หรือหากบางช่วงเงินเฟ้อต่ำ ก็แสดงว่าเศรษฐกิจยังโตไม่ถึงศักยภาพ ดังนั้น ธปท.จะต้องดำเนินการและใช้ทุกเครื่องมือที่มีอยู่เพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตได้เต็มศักยภาพ
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ตามที่ได้เคยเสนอให้ ธปท.ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายนั้น เพื่อเป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวอย่างเต็มศักยภาพได้รวดเร็วขึ้น ซึ่งการที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายยังอยู่ในระดับสูงก็ยิ่งมีเงินทุนไหลเข้ามาในประเทศ และส่งผลให้เงินบาทยิ่งแข็งค่า และเงินที่ไหลเข้ามานั้นส่วนใหญ่ไม่ใช่เป็นการเข้ามาลงทุนจริง แต่เป็นการเข้ามาเก็งกำไรในตลาดตราสารหนี้และตลาดหุ้น