8 กันยายน 2560 : นางเอมอร ชีพสุมล รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน หรือ สนพ. ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เมื่อวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา อนุมัติงบประมาณปี 2561 จำนวน 8,445 ล้านบาท ขับเคลื่อนงานด้านอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนในทุกภาคส่วน เช่น การลดใช้พลังงานในโรงงาน-อาคารขนาดใหญ่ และภาคการขนส่ง การติดฉลากประหยัดพลังงานในอาคาร-บ้านพักอาศัย และฉลากอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน
รวมถึงการสนับสนุนผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน และสำหรับพื้นที่ห่างไกล โดยคาดว่าจะประหยัดพลังงานได้ปีละ 8,435 ล้านบาท โดยงบประมาณดังกล่าว จะนำไปใช้ดำเนินงานด้านการอนุรักษ์พลังงาน ส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน และศึกษาวิจัยพัฒนาด้านพลังงาน ช่วงเดือนตุลาคม 2560 – กันยายน 2561 วงเงินรวม 8,445 ล้านบาท
ทั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานตามแผนอนุรักษ์พลังงานและแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือกซึ่งในส่วนของการอนุรักษ์พลังงาน จะให้มีการลดใช้พลังงานในกลุ่มโรงงานและอาคารควบคุม ที่มีการใช้พลังงานสูง จำนวนกว่า 7,000 แห่ง โดยกำหนดให้มีการกำกับดูแลตามกฎหมาย นอกจากนี้ได้ส่งเสริมให้มีการติดตั้งระบบควบคุมอัตโนมัติและระบบ Internet of Thing ร่วมกับอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน เพื่อรายงานผลออนไลน์กลับมายังส่วนกลาง
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมฯยังได้เร่งรัดการบังคับใช้มาตรฐานอาคารควบคุม (Energy Building Code : BEC) เพื่อให้การก่อสร้างอาคารในอนาคต ปฏิบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด รวมทั้งจะมีการติดฉลากอาคารธุรกิจที่ใช้งานในปัจจุบันจำนวน 150 แห่ง และจัดทำฉลากมาตรฐานประสิทธิภาพพลังงานของบ้านอยู่อาศัย เพื่อเป็นข้อมูลในการเลือกอาคาร-บ้านประหยัดพลังงานให้แก่ประชาชนทั่วไป
สำหรับด้านพลังงานทดแทน ที่ประชุมฯได้สนับสนุนให้มีการใช้พลังงานทดแทนผลิตไฟฟ้า เพื่อใช้ในพื้นที่ ที่ต้องการความมั่นคงด้านพลังงาน รวมถึงพื้นที่ห่างไกล เช่น โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน พร้อมกันนี้ได้สนับสนุนให้มีการนำเทคโนโลยีกักเก็บพลังงาน หรือ Energy Storage มาใช้ในกลุ่มบ้านพักอาศัย อาคาร โรงงาน และหน่วยงานราชการ โดยตั้งเป้านำพลังงานทดแทนมาผลิตไฟฟ้าได้ไม่น้อยกว่า 7.7 เมกะวัตต์