บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ประกาศทิศทางการดำเนินงานปี 2559 ทำงานเชิงรุก ตอบโจทย์นโยบายรัฐ ออกโครงการค้ำประกันสินเชื่อให้เข้าถึงผู้ประกอบการ SMEs ทุกกลุ่ม หนุนผู้ประกอบการเข้าถึงสินเชื่อ วางเป้าหมายยอดค้ำประกัน 100,000 ล้านบาท
นายนิธิศ มนุญพร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยถึง ผลดำเนินงานในปี 2558 ที่ผ่านมา บสย. สามารถช่วยผู้ประกอบการ เข้าถึงสินเชื่อได้กว่า 7 หมื่นราย โดยเป็นผู้ประกอบการรายย่อยสูงถึง 5 หมื่นราย และมียอดค้ำประกันรวมกว่า 1 แสนล้านบาท ดังนั้นปี 2559 นี้ จึงเร่งวางแผนเชิงรุกให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs 2.7 ล้านราย ให้เข้าถึงสินเชื่อเพิ่มมากขึ้น ประกอบด้วย ผู้ประกอบการทั่วไป กลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย กลุ่มผู้ประกอบการพิเศษ เช่น กลุ่มนวัตกรรม (Innovation) และกลุ่มเริ่มต้น (Start-up) ซึ่งเป็นกลุ่มนักรบใหม่ของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ บสย. ได้ให้ความช่วยเหลือค้ำประกันสินเชื่อกับกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ภาคการเกษตรภายใต้โครงการรัฐบาล 1 ตำบล 1 SMEs
เกษตร โดยผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.)
อีกทั้ง บสย. ยังมีแผนงานพัฒนาผลิตภัณฑ์ค้ำประกันสินเชื่อ เพื่อรองรับความต้องการของผู้ประกอบการ SMEs ทุกกลุ่ม โดยปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ค้ำประกันสินเชื่อ 3 กลุ่ม ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ค้ำประกันสินเชื่อโครงการ PGS 5 (ปรับปรุงใหม่) สำหรับผู้ประกอบการทั่วไปขนาดกลาง และเล็ก วงเงินรวม 100,000 ล้านบาท ปัจจุบันอนุมัติวงเงินค้ำประกันไปแล้ว 58,000 ล้านบาท เหลือวงเงินอนุมัติอีกประมาณ 42,000 ล้านบาท ซึ่งจะสิ้นสุดโครงการรับคำขอในวันที่ 30 มิถุนายน 2559 โดยวางแผนว่าจะนำเสนอโครงการใหม่ เพื่อช่วยผู้ประกอบการต่อเนื่องภายในปีนี้ คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายในไตรมาสที่ 3 โดยขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการรับฟังความคิดเห็นจากธนาคาร
ผลิตภัณฑ์ค้ำประกันสินเชื่อผู้ประกอบการกลุ่มนวัตกรรม (Innovation SMEs) และกลุ่มเริ่มต้น (Start-up) ซึ่งถือเป็นกลุ่มนักรบใหม่ วงเงินค้ำประกันรวม 10,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการนำเสนอกระทรวงการคลัง
และผลิตภัณฑ์ค้ำประกันสินเชื่อผู้ประกอบการรายย่อย (ระยะ 2) ซึ่งรัฐบาลได้อนุมัติไปแล้วเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา วงเงิน 13,500 ล้านบาท ค้ำประกันสูงสุดรายละไม่เกิน 200,000 บาท โดยปรับเกณฑ์สินทรัพย์ถาวร จาก 200 ล้านบาท เหลือ 5 ล้านบาท เพื่อเพิ่มจำนวนผู้ประกอบการ SMEs ให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้จำนวนรายมากขึ้น และจะสิ้นสุดโครงการในปี 2560 โดยคาดว่าจะช่วยผู้ประกอบการรายย่อยได้ 135,000 ราย
มากไปกว่านั้น บสย. ยังได้เตรียมพัฒนาผลิตภัณฑ์ค้ำประกันสินเชื่อใหม่ เพื่อขยายฐานลูกค้า อาทิ กลุ่มที่ไม่ใช่ธนาคาร (Non-bank) ซึ่งขณะนี้ ร่างกฏหมายที่มีการแก้ไขได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงการคลัง และอยู่ระหว่างเตรียมนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.)
อีกทั้งยังมี แผนงานด้านการพัฒนาองค์ความรู้เพื่อผู้ประกอบการ SMEs เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจด้านการเงินแก่ผู้ประกอบการ SMEs (Financial Literacy) โดยออกแบบหลักสูตรที่เหมาะสมกับผู้ประกอบการ SMEs แต่ละกลุ่ม โดยให้ฝ่ายกิจการสาขาทั้ง 11 แห่ง ร่วมกับศูนย์บ่มเพาะธุรกิจในสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ
รวมถึง แผนงานพัฒนาองค์กรและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานภายใน ด้านการค้ำประกันสินเชื่อและการออกหนังสือค้ำประกันให้รวดเร็วขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตและการใช้บริการค้ำประกันสินเชื่อรายย่อยที่เพิ่มขึ้น โดยปีที่ผ่านมา บสย. ได้ปรับปรุงประสิทธิภาพด้านเทคโนโลยี และการพัฒนาโครงการค้ำประกันสินเชื่อออนไลน์
อย่างไรก็ดี ทั้ง 4 แผนงานนี้ จะเป็นทิศทางการขับเคลื่อนการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs โดย บสย. ตั้งเป้าหมายการค้ำประกันสินเชื่อที่จะช่วยผู้ประกอบการได้ไม่ต่ำกว่า 80,000 ราย คาดว่าจะสามารถผลักดันยอดค้ำประกันให้ได้ 100,000 ล้านบาท