นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เดินหน้าตอกย้ำการเป็น ‘ดิจิตอล อินชัวเรอร์’ (Digital Insurer) โดยรุกการสื่อสารไปยังลูกค้าผ่านสื่อ Social Media อย่างต่อเนื่อง ทั้ง Line, Facebook, IG และ Twitter ทำให้ปัจจุบันบริษัทฯ มีจำนวนผู้ติดตาม หรือ Friend ใน Line Application สูงถึงกว่า 33 ล้านคน จากยอดผู้ใช้งาน Line ทั้งประเทศในปัจจุบันที่มีอยู่ 36 ล้านคน
ล่าสุดได้ส่งโฆษณาผ่านแอพพลิเคชั่น ‘ไลน์ ทีวี’ (Line TV.) ที่นับเป็นบริษัทประกันชีวิตเจ้าแรก เพื่อเพิ่มช่องทางการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของลูกค้า ที่สามารถตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้อย่างตรงใจ ภายใต้นโยบาย “ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง”
นายสาระ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ ยังได้เพิ่มความสะดวกแก่กลุ่มลูกค้าที่ซื้อประกันผ่านช่องทางออนไลน์ ที่นอกจากการรับชำระเบี้ยประกันผ่านบัตรเครดิตที่มีอยู่เดิมแล้ว ยังได้เพิ่มช่องทางการชำระผ่าน Line Pay เพื่อให้การชำระเบี้ยเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันที่นิยมใช้บริการต่างๆ ผ่าน Application บนมือถือ โดยเฉพาะการชำระเงินตรงผ่านสมาร์ทโฟนของตนเอง ซึ่งจะเริ่มเปิดใช้งานในวันที่ 1 เมษายน ศกนี้
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการส่งมอบความสุขและรอยยิ้มอย่างต่อเนื่องให้แก่สมาชิกผู้ใช้งาน Line Application และผู้ที่ติดตาม Official Account ของ Muang Thai Life บริษัทฯ ยังได้เตรียมออกสติ๊กเกอร์น้องรักษ์ยิ้มชุดใหม่ ต้อนรับซัมเมอร์ที่กำลังจะมาถึง ซึ่งนับเป็นชุดที่ 11 ของบริษัทฯ จากชุดแรกที่ได้เปิดตัวในปี 2013 โดยจะปล่อยให้ดาวน์โหลดในเร็วๆ นี้
ทั้งนี้ ล่าสุด รายงานข้อมูลสถิติเบี้ยประกันชีวิตรับรวม ณ สิ้นเดือนมกราคม 2559 โดยสมาคมประกันชีวิตไทย พบว่า เมืองไทยประกันชีวิต สามารถสร้างผลงานเบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่ เดือนมกราคม 2559 ได้มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของอุตสาหกรรม ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด 22.46% มูลค่าเบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่ 2,692.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.75% จากปีก่อนในช่วงเวลาเดียวกัน ที่มีมูลค่าเบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่ 2,286.74 ล้านบาท และมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 20.89%
ผลพวงมาจากบริษัทฯ มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต รวมถึงสัญญาเพิ่มเติมรูปแบบต่างๆ ที่ให้ความคุ้มครองด้านสุขภาพ โรคร้ายแรง และอุบัติเหตุ ซึ่งตอบโจทย์กับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้า เครือข่ายช่องทางที่ครอบคลุม เข้าถึง และเป็นมืออาชีพ ควบคู่กับการยกระดับการบริการที่หลากหลายสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่ “ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง” (Customer Centric)
