3 สิงหาคม 2560 : นายพงษ์อนันต์ ธณัติไตร ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจลูกค้ารายย่อยและเครือข่ายการขาย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน) หรือ BAY เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังยังมีความกังวลถึงแม้ว่าเศรษฐกิจไทยจะมีสัญญาณที่ดีขึ้น แต่ยังฟื้นตัวไม่ทั่วถึง โดยเฉพาะบางกลุ่มที่ยังมีความอ่อนไหว ทำให้กังวลว่าจะกระทบต่อกำลังซื้อในช่วงที่เหลือของปีนี้ ดังนั้นการปล่อยสินเชื่อรายย่อยของธนาคารยังคงเป็นไปอย่างระมัดระวัง
ซึ่งที่ผ่านมาธนาคารมีเกณฑ์การอนุมัติสินเชื่อที่รัดกุม โดยจะพิจารณาจากรายได้ของผู้ขอสินเชื่อเป็นหลัก และ เน้นลูกค้าที่มีรายได้สูง และ มีภาระการผ่อนชำระเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดเพื่อให้ได้ลูกค้าที่มีคุณภาพดี
สำหรับปัจจัยที่ท้าทายธนาคารพาณิชย์ปีนี้มาจากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ออกกฎเกณฑ์ใหม่เพื่อดูแลสถาบันการเงินจะมีผลกระทบบ้างในด้านการเติบโตของสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ เช่น เกณฑ์การควบคุมสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ที่กระทบต่อการเติบโตของสินเชื่อปล่อยใหม่ของธนาคาร 2-3%
อย่างไรก็ตาม สินเชื่อรายย่อยของธนาคาร แบ่งเป็นสินเชื่อส่วนบุคคล 6 เดือนโตแล้ว 1%จากเป้าหมายทั้งปี 2% ซึ่งมั่นใจว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ พร้อมควบคุมหนี้ที่มิก่อให้เกิดรายได้(NPL) สิ้นปีนี้ไม่ให้เกิน 3% ซึ่งเป็นระดับเดียวกับในปัจจุบัน
ส่วนสินเชื่อที่อยู่อาศัย 6 เดือนโตแล้ว 4% สูงกว่าตลาดที่โต 2% อย่างไรก็ตาม ธนาคารคาดว่าในครึ่งปีหลังจะโตสูงกว่าครึ่งปีแรก ซึ่งเป็นไปตามภาวะอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ที่จะมีการโอนโครงการในครึ่งปีหลังสูงถึง 60% ทำให้มีความต้องการสินเชื่อเพิ่มมากขึ้นทำให้ทั้งปีสินเชื่อที่อยู่อาศัยโตตามเป้าที่ 11% ขณะที่ NPL สิ้นปีนี้จะคุมไม่ให้เกิน 2% ซึ่งเป็นระดับเดียวกับปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าภายใน 3 ปีจะมีส่วนแบ่งทางการตลาดขึ้นเป็นอันดับ 3 จากปัจจุบันอยู่อันดับ 5 โดยมียอดสินเชื่อคงค้างในปัจจุบันอยู่ที่ 204,804 ล้านบาท