19 กรกฎาคม 2560 : ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ครั้งที่ 8/2560 วันนี้ 19 กรกฎาคม 2560) สำนักงาน กสทช. เตรียมเสนอที่ประชุม กสทช. พิจารณายกเลิกผู้มีอำนาจเหนือตลาดมีนัยสำคัญในตลาดค้าปลีกบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายในประเทศ
โดยเห็นควรกำหนดให้ บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส และ บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น พ้นจากการเป็นผู้มีอำนาจเหนือตลาดอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2557 เป็นต้นไป ซึ่งการยกเลิกดังกล่าวจะมีผลต่อคำสั่งกำหนดค่าปรับทางปกครองในกรณีที่เลขาธิการ กสทช. ได้เคยมีคำสั่งลงวันที่ 29 มีนาคม 2556 กำหนดค่าปรับทางปกครองให้ บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส ชำระวันละ 186,669 บาท และ บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น ชำระวันละ 157,947 บาท เนื่องจากมีการเรียกเก็บค่าบริการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ประเภทเสียงเกิน 99 สตางค์ต่อนาที
ซึ่งประกาศ กสทช. เรื่องอัตราขั้นสูงของค่าบริการโทรคมนาคมฯ พ.ศ. 2555 กำหนดว่า ผู้รับใบอนุญาตที่เป็นผู้มีอำนาจเหนือตลาดมีสิทธิเรียกเก็บค่าบริการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ประเภทเสียงในแต่ละหน่วยนาทีได้ไม่เกิน 99 สตางค์ ดังนั้นหากมีการยกเลิกผู้มีอำนาจเหนือตลาดฯ ก็คาดว่าสำนักงาน กสทช. จะเสนอให้กรรมการพิจารณายกเลิกคำสั่งกำหนดค่าปรับทางปกครองในภายหลังด้วย
ทั้งนี้ ร่างคำสั่งยกเลิกผู้มีอำนาจเหนือตลาดฯ นี้ ได้ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) มาแล้วในช่วงที่ยังปฏิบัติหน้าที่ก่อนที่พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2560 จะมีผลบังคับใช้ อย่างไรก็ดี ในการประชุม กทค. ครั้งนั้น กสทช. ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา ได้ลงมติและแสดงความเห็นแตกต่างจากที่ประชุมเสียงข้างมาก โดยเห็นว่าข้อวิเคราะห์เกี่ยวกับระดับการแข่งขันของตลาดในช่วงปี 2556 – 2557 ของสำนักงาน กสทช. ยังไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นเรื่องการประกอบกิจการในปัจจุบันที่ผู้รับใบอนุญาตมักจะประกอบกิจการในรูปกลุ่มหรือเครือบริษัท มิใช่ประกอบกิจการในรูปแบบบริษัทเดี่ยว ซึ่งเมื่อพิจารณาโครงสร้างบริษัทของผู้รับใบอนุญาตแล้วจะพบว่า บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส เป็นผู้ถือหุ้นของ บจ. แอดวานซ์ ไวร์ เลส เน็ทเวอร์ ค (AWN) ในสัดส่วนร้อยละ 99.99 และ บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น ก็เป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมดของ บจ. ดีแทค ไตรเน็ต (DTN)
ดังนั้น การวิเคราะห์ความมีประสิทธิภาพของการแข่งขันและการกำหนดผู้มีอำนาจเหนือตลาดฯ ย่อมต้องพิจารณาบนฐานที่ว่าบริษัทแม่และบริษัทในเครือเป็นผู้ให้บริการรายเดียวกัน อีกทั้งตามประกาศ กทช. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีพิจารณากำหนดผู้มีอำนาจเหนือตลาดฯ พ.ศ. 2552 ซึ่งเป็นกฎหมายที่บังคับใช้ในขณะนั้น ก็กำหนดให้คณะกรรมการสามารถกำหนดผู้มีอำนาจเหนือตลาดฯ ร่วมกันได้ (Collective Dominance) ดังนั้นการกำหนดผู้มีอำนาจเหนือตลาดโดยแยกวิเคราะห์เป็นรายนิติบุคคลตามแนวทางวิเคราะห์ของสำนักงาน กสทช. จึงไม่ถูกต้อง
นอกจากนี้ หากพิจารณาตามฐานข้อมูลการให้บริการโทรคมนาคมของสำนักงาน กสทช. ตั้งแต่เริ่มเก็บข้อมูลมาจนถึงปัจจุบัน จะพบการกระจุกตัวของตลาดค้าปลีกบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่อยู่ในระดับสูงมาโดยตลอด ไม่เคยมีไตรมาสใดเลยที่ดัชนี HHI มีค่าต่ำกว่า 3,300 ดังนั้นการที่สำนักงาน กสทช. อ้างผลการคำนวณ HHI ช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2556 ว่ามีค่าเท่ากับ 1,715 ซึ่งแสดงว่าตลาดมีการกระจุกตัวปานกลาง จึงไม่จำเป็นต้องกำหนดผู้มีอำนาจเหนือตลาดอีกต่อไปนั้น จึงขัดกับฐานข้อมูลและรายงานวิเคราะห์ที่ผ่านๆ มา