10 กรกฎาคม 2560 : เล่นหุ้นอย่างไรให้ได้กำไร หลายคนคงได้ยินอย่างนี้ถึงกับเหลียวหลังมาฟังกันที่เดียว เพราะหุ้นไทยไม่เหมืนหุ้นใดในโลก มีกระแสข่าวเล็กๆน้อยๆจริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้ นักลงทุนไทยมักเป็นพวกขี้ตกใจเลยทำอะไรลงไปแบบตื่นตนกเทขายไว้ก่อนเสมอ

แต่จะทำอย่างไรให้มีกำไรในช่วงที่หุ้นมีความผันผวน กองทุนโครงสร้างพื้นฐานหรือกองทุนอสังหาริมทรัพน์ต่างๆ ถือเป็นกองทุนที่รับมือกับความผันผวนของตลาดได้ดี หุ้นจะผันผวนแค่ไหนกองทุนเหล่นนี้ก็ไม่ตกใจเหมือนนักลงทุนโดยตรง แต่มีหุ้นอีกประเภทที่น่าสนใจ ที่นักลงทุนไม่ควรปล่อยผ่าน โดยทีมจัดการกองทุน ของบริษัทหลักทรักจัดการกองทุน บัวหลวง จำกัด ได้ออกมาพูดถึงหุ้นกลุ่มปันผลไว้อย่างน่าสนใจ

นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด กล่าวไว้ว่า หุ้นปันผล ทางเลือกลงทุนที่ไม่ควรมองข้าม ไม่ว่ายุคสมัยไหน “หุ้นปันผล” คือกลุ่มหุ้นที่อยู่คู่กับการลงทุนในตลาดหุ้นไทยมานาน บางครั้งได้รับความนิยมสูง เป็นที่ต้องการ บางครั้งก็ถูกมองข้าม ในช่วงนี้กระแสหุ้นปันผลดูจะกลับมาอีกครั้ง เพราะในภาวะที่เศรษฐกิจไทยและทั่วโลกยังซบเซา “หุ้นปันผล” ดูจะเป็นทางออกของการลงทุนในยามนี้ได้

1. ทำไมตอนนี้ หุ้นปันผล จึงกลับมาถูกพูดถึงกันอีกครั้งนึง ในภาวะที่ตลาดหุ้นไม่ได้เป็นขาขึ้นที่ชัดเจน นักลงทุนจะมองหาผลตอบแทนที่เขามั่นใจ เพราะกำไรจากราคาหุ้นหรือ capital gain อาจจะหาได้ยากขึ้น เงินปันผลจึงตอบโจทย์ของนักลงทุนจำนวนมากในทุกวันนี้

เรื่องนี้ John burr นักลงทุนที่มีอิทธิพลต่อเซียนหุ้นระดับตำนานอย่าง Warren Buffett ได้ให้ไอเดียเกี่ยวกับ “หุ้นปันผล” ว่า “A cow for her milk, A hen for her eggs, And a stock, by heck, for her dividend” (เลี้ยงวัวเพื่อได้นม เลี้ยงไก้เพื่อเอาไข่ ลงทุนหุ้นก็ต้องได้ปันผล) ซึ่งหมายถึงการได้รับ “เงินปันผลสม่ำเสมอ” (Passive Income) ตลอดการถือครองหุ้นตัวนั้นๆ เป็นส่วนหนึ่งที่ใช้กำหนดมูลค่าราคาหุ้นด้วย

ไม่ใช่จะไปดูแค่ราคาหุ้นซึ่งเคลื่อนไหวตามกำไรของบริษัทและปัจจัยอื่นๆ เพียงอย่างเดียว ซึ่งสอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่ว่า ราคาหุ้นในพอร์ตที่ปรับเพิ่มขึ้นนั้นยังคงมีความไม่แน่นอนและถือเป็นกำไรที่ยังไม่ได้รับจริง (Unrealized Value) แต่เงินปันผลนั้นถือเป็นผลตอบแทนที่ได้รับจริง (Realized Value)

2. แล้วคนไทยมีมุมมองเกี่ยวกับหุ้นปันผลอย่างไร

ถ้านับตั้งแต่ 5 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดวิกฤตหนี้ยูโรโซนใน พ.ศ. 2556 จนถึงปัจจุบัน เกิดสารพัดปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยผันผวน ทั้งราคาน้ำมันตกต่ำ ความไม่สงบทางการเมืองในประเทศ หรือเศรษฐกิจจีนที่เป็นคู่ค้าหลักของอาเซียนชะลอตัว ซึ่งส่งผลให้ SET Index ในช่วงดังกล่าวแทบไม่สร้างผลตอบแทนแก่นักลงทุน ต่างจาก SET TR Index (SET Index ที่รวมผลตอบแทนจากสิทธิในการจองซื้อหุ้นและเงินปันผลที่นำไปลงทุนต่อ) ที่ให้ผลตอบแทนกว่า 15% (หุ้นในตลาดช่วงนั้นจ่ายเงินปันผลในอัตราค่อนข้างสม่ำเสมอราว 3% ต่อปี)

หากมองผลตอบแทนเมื่อเทียบกับความเสี่ยง (Risk adjusted Return) ในปีที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจจนทำให้ตลาดหุ้นร่วงลงแรง SET TR Index ก็ลดลงน้อยกว่า SET Index และสามารถฟื้นกลับคืนสภาพได้เหนือกว่าในปีหลังเกิดวิกฤต สะท้อนว่าการลงทุนในหุ้นปันผลนั้นผันผวนน้อยกว่า SET Index

3. ที่มีคนค่อนขอดว่า หุ้นปันผล ลงทุนไปก็ได้แค่ปันผล เพราะเป็นอุตสาหกรรมที่ไม่โตแล้ว กิจการเลยไม่ต้องเก็บเงินไว้ขยาย ก็จ่ายปันผลได้ เรื่องนี้จริงไหม มีบางคนเขาคิดอย่างนั้นจริงๆ ว่าบริษัทที่จ่ายเงินปันผลสูงส่วนใหญ่จะอยู่ในอุตสาหกรรมที่เติบโตค่อนข้างต่ำ และไม่ต้องการใช้เงินลงทุนเพื่อขยายกิจการสักเท่าไหร่ จึงสามารถนำกระแสเงินสดในการดำเนินงานมาจ่ายเป็นเงินปันผลได้

แต่จริงๆ แล้วมันยังมีอีกหลายบริษัทที่จัดสรรเงินลงทุนไปขยายกิจการได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนสามารถให้ผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นบนฐานกำไรสะสม (ROIC) ได้เหนือกว่าบริษัทอื่นๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกัน พร้อมทั้งยังจ่ายเงินปันผลได้มากและอย่างต่อเนื่องได้

ยิ่งบริษัทไหนจ่ายเงินปันผลสุทธิได้เพิ่มขึ้น ควบคู่ไปกับรายได้และกำไรที่เติบโต หุ้นของบริษัทเหล่านั้นก็จะเป็นหุ้นปันผลที่มีการเติบโต (Dividend Growth Stock) ซึ่งเป็นสุดยอดปรารถนาของนักลงทุน ที่จะถือครองได้อย่างต่อเนื่อง

4. มีตัวอย่างหุ้นปันผลที่ว่าไหม ตัวอย่างหุ้นปันผลที่มีการเติบโตเด่นชัด คือ หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า ด้วยลักษณะธุรกิจที่สามารถสร้างกระแสเงินสดได้อย่างสม่ำเสมอ มีหนี้สินสุทธิต่อทุนในระดับต่ำ และมีความเสี่ยงต่ำเมื่อเผชิญวัฏจักรเศรษฐกิจอันผันผวน จึงมีศักยภาพจ่ายปันผลได้สูง ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานยังคงเติบโตจากการเพิ่มกำลังการผลิตไปตามความต้องการใช้ไฟฟ้า เรียกว่ามีลักษณะเหมือน Equity Bond คือมีความมั่นคงของเงินปันผลเปรียบได้กับอัตราดอกเบี้ยจากการลงทุนในตราสารหนี้ซึ่งค่อนข้างคงที่ และมีโอกาสได้ผลกำไรจากส่วนต่างราคาหุ้นอีกด้วย

MSCI Thai Utilities index ในช่วง 10 ปีผ่านมา ราคาหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าไทยสูงขึ้นกว่า 125% และเมื่อรวมกับเงินปันผลโดยเฉลี่ยในระดับ 4.2% ต่อปีที่นำไปลงทุนต่อ จะทำให้ผลตอบแทนรวมสูงถึง 250% โดยใน 5 ปีหลัง หุ้นในกลุ่มยังมีเงินปันผลที่จ่ายจริง (Gross Dividend) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

นอกจากนี้ หุ้นที่จ่ายเงินปันผลสูงอย่างสม่ำเสมอและมีการเติบโตดียังสะท้อนการจัดสรรเงินลงทุนที่มีประสิทธิภาพและสุขภาพทางการเงินของบริษัทในอนาคต การจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่องจึงช่วยลดความเสี่ยงของบริษัทในการลงทุนที่ไม่ได้สร้างมูลค่าเพิ่ม ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสร้างผลตอบแทนที่ดีต่อผู้ถือหุ้นระยะยาว

6. มีกองทุนรวมหุ้นปันผลที่ว่าไหม มีแน่นอน การลงทุนในกองทุนรวมที่มีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้นที่มีปันผลสูงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะนอกจากจะช่วยสร้างคุณค่า (Value) ผ่านการรับเงินปันผลของกองทุนรวมแล้ว ผู้ลงทุนผ่านกองทุนรวมยังกลายเป็นเจ้าของทางอ้อมของกิจการที่มีการจ่ายปันผลสูง มีศักยภาพเติบโตดี ได้หลากหลายบริษัทในเวลาเดียวกัน มีทีมงานมืออาชีพคอยหมั่นตรวจสอบผลการดำเนินงานในแต่ละกิจการให้เรา ซึ่งเป็นการช่วยสร้างความมั่นคงต่อการลงทุนในระยะยาวอีกด้วย