12 มิถุนายน 2560 : ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI เปิดเผยถึง นวัตกรรมการบริการกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์รูปแบบใหม่ BKI EsCard ที่สามารถพกพาและค้นหาข้อมูลการประกันภัยรถยนต์ของตนเองได้ทุกที่ทุกเวลา เพื่อรองรับ Digital Lifestyle ของคนในยุคปัจจุบัน ซึ่งจากเดิมที่ผู้เอาประกันภัยจะได้รับบัตรผู้เอาประกันภัยและกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ในรูปแบบของเอกสารความคุ้มครองต่างๆ
โดยผู้เอาประกันภัยต้องจัดเก็บเอกสาร ซึ่งอาจไม่ได้รับความสะดวกเมื่อต้องการค้นหาข้อมูลต่างๆ ที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ รวมถึงข้อมูลเพื่อการติดต่อกับบริษัทฯ เช่น เลขที่กรมธรรม์ ความคุ้มครอง ระยะเวลาคุ้มครอง ที่อยู่สาขาและศูนย์บริการ อู่ในสัญญาและโรงพยาบาล การติดต่อแจ้งเคลมรถยนต์
ดังนั้น เพื่ออำนวยความสะดวกรวดเร็วให้แก่ลูกค้าผู้เอาประกันภัย บริษัทฯ จึงได้นำระบบ Electronic Card ของบริษัท ECARTSTUDIO จำกัด มาพัฒนาเป็น BKI EsCard บัตรผู้เอาประกันภัยรูปแบบใหม่ที่รวบรวมข้อมูลของผู้เอาประกันภัย และรายละเอียดต่างๆ ที่มีอยู่ในกรมธรรม์ประกันภัยมารวมอยู่ในโทรศัพท์ มือถือหรือสมาร์ตโฟนที่เดียว เพียงเพิ่ม BKI EsCard ลงในแอปพลิเคชัน Wallet ลูกค้าจะสามารถค้นหาข้อมูลการประกันภัยรถยนต์ของตนเองได้ทุกที่ทุกเวลา และสามารถแจ้งหรือทำเคลมรถยนต์ออนไลน์ได้ทันที
พร้อมทั้งยังมีบริการแจ้งเตือนต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัยโดยอัตโนมัติ รวมถึงการแจ้งโปรโมชันและสิทธิพิเศษต่างๆ โดยทุกขั้นตอนสามารถทำได้ด้วยตนเอง
ดร.อภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า BKI EsCard จะเริ่มจากลูกค้าตรงก่อน เพราะข้อมูลต้องส่งผ่านทีมงานจึงจะเข้าระบบได้ ขณะนี้มีลูกค้าตรงประมาณ 70% มีลูกค้าประกันรถยนต์ประกันภาคสมัครใจ ประเภท 1 ประมาณ 1 แสนราย จากจำนวนประกันรถยนต์ทั้งหมด 4 แสนราย และในอนาคตจะขยายบริการดังกล่าวออกไปสู่การประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล และการประกันเดินทาง คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ประมาณไตรมาสที่ 4
ทั้งนี้ บริการ BKI EsCard จะช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ให้แก่ลูกค้าที่จะได้รับประโยชน์อย่างสูงสุด ตั้งแต่เริ่มทำประกันภัยจนถึงการต่ออายุประกันภัยและการชำระเบี้ยประกันภัย ดังนี้
• เมื่อลูกค้าทำประกันภัยรถยนต์จะได้รับอีเมล และSMS เพื่อแจ้งการใช้บริการ BKI EsCard ซึ่งให้บริการผ่านแอปพลิเคชัน Wallet
• หน้าแรกของ BKI EsCard จะระบุข้อมูลของผู้เอาประกันภัย ได้แก่ ชื่อ-นามสกุลของผู้เอาประกันภัย รายละเอียดของรถยนต์ เลขที่กรมธรรม์ประกันภัย และระยะเวลาเอาประกันภัย ซึ่งสามารถเรียกดูได้ตลอดเวลาแม้ไม่ได้เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต
• หน้าหลังของ BKI EsCard จะระบุรายละเอียดเพิ่มเติมของกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ ได้แก่ ทุนประกันภัย รายละเอียดความคุ้มครอง หน้าตารางกรมธรรม์ประกันภัย นอกจากนี้ ยังสามารถดูรายละเอียดของสินค้าประกันภัยอื่นๆ ที่นอกเหนือจากประกันภัยรถยนต์ รวมถึงโปรโมชัน สิทธิประโยชน์ และข้อมูลการติดต่อกับบริษัทฯ
• Speedy Service โดยหากรถยนต์ของผู้เอาประกันภัยเกิดอุบัติเหตุขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการชนหรือรถเสีย BKI EsCard สามารถรองรับการบริการดังกล่าว ด้วย Push Notification เพียงลูกค้ากดเลือกฟังก์ชันการแจ้งเคลม ลูกค้าสามารถแจ้งเคลมได้ทันที โดยระบบจะส่งตำแหน่งจุดเกิดเหตุไปยังศูนย์รับแจ้งอุบัติเหตุของบริษัทฯ เพื่อความถูกต้องแม่นยำ และเจ้าหน้าที่รับแจ้งอุบัติเหตุจะโทรติดต่อกลับไปยังผู้เอาประกันภัยเพื่อทวนสอบจุดเกิดเหตุ พร้อมส่งเจ้าหน้าที่สำรวจอุบัติเหตุไปยังจุดเกิดเหตุโดยเร็วที่สุด ลูกค้าไม่ต้องเสียเวลาค้นหาหมายเลขโทรศัพท์จากเอกสารประกันภัย
• บริการแจ้งเตือนการต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัยล่วงหน้าโดยอัตโนมัติ ก่อนหมดอายุ 60 วัน ทำให้ผู้เอาประกันภัยจะได้รับความคุ้มครองอย่างต่อเนื่อง และช่วยลดขั้นตอนการเตือนต่ออายุประกันภัยในรูปแบบเดิม เช่น ไปรษณีย์ SMS และทางโทรศัพท์ ซึ่งผู้เอาประกันภัยสามารถนำบาร์โค้ดที่ปรากฏบน BKI EsCard ไปชำระเบี้ยประกันภัยทางธนาคารหรือเคาน์เตอร์เซอร์วิสได้ทันที
• บริการแจ้งสิทธิพิเศษและสิทธิประโยชน์อื่นๆ สำหรับผู้ใช้บริการ BKI EsCard BKI EsCard เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมการบริการที่กรุงเทพประกันภัยได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าของเราในทุกไลฟ์สไตล์ โดยมีแผนงานที่จะขยายการให้บริการดังกล่าวกับการประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล ประกันภัยอุบัติเหตุการเดินทาง และประกันสุขภาพต่อไป
สำหรับโครงการ BKI Telematics ที่บริษัทฯ ได้พัฒนาขึ้นเป็นแห่งแรกตั้งแต่ช่วงกลางปี 2558 ที่ผ่านมา จุดเริ่มต้นของโครงการจะเน้นไปที่ Usage Based Insurance หรือเบี้ยประกันภัยตามความเสี่ยงภัยรายบุคคล ซึ่งมี 2 กลุ่มหลักที่ให้ความสนใจ คือ กลุ่มลูกค้ารายย่อยและกลุ่มลูกค้าองค์กร โดย BKI Telematics จะมาช่วยเสริมในเรื่องของการเก็บสถิติของพฤติกรรมการขับขี่ในความเสี่ยงภัยตามที่กำหนดและประมวลผลเป็นคะแนนการขับขี่เพื่อให้เกิดความแตกต่างของเบี้ยประกันภัยตามความเสี่ยงภัยอย่างแท้จริง ซึ่ง Function หลักในขณะนั้น คือ การบอกตำแหน่งรถ การแจ้งเตือนรถออกนอกพื้นที่ และคะแนนการขับขี่ โดย ณ ปัจจุบันนี้มีลูกค้าสนใจเข้าร่วมโครงการกว่า 10,000 ราย และจากการวิเคราะห์การใช้งานของลูกค้ากลุ่มธุรกิจองค์กร
ในปี 2560 นี้ บริษัทฯ จึงได้พัฒนาโครงการ BKI Telematics Phase 2 : Fleet Solution ซึ่งจะตอบสนองความต้องการของลูกค้าธุรกิจองค์กรหรือกลุ่ม Fleet รถยนต์ประเภทต่างๆ ได้อย่างเป็นระบบ สามารถนำระบบ All Live Vehicles ซึ่งมองเห็นความเคลื่อนไหวของรถยนต์ทุกคันพร้อมกันในหน้าจอเดียว เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานและสามารถติดตามรถยนต์ที่อยู่ในความดูแลได้ในเวลาพร้อมกัน ซึ่งจะช่วยลดข้อจำกัดเดิมของ Telematics Phase แรก
โดยลูกค้าองค์กรแต่ละประเภทสามารถกำหนดฟังก์ชันการใช้งานอื่นๆ ได้ด้วยตนเอง ได้แก่ การบริหารจัดการเรื่องการใช้รถยนต์ การควบคุมความเร็วเพื่อความปลอดภัยในขณะขับขี่ และการจัดทำรายงานการใช้งานกลุ่มรถยนต์ตามวัตถุประสงค์ของแต่ละบริษัทได้ด้วยตนเอง คาดว่าจะเริ่มดำเนินการไตรมาส 3 เป็นต้นไป