30 พฤษภาคม 2560 : ธนาคารแลนด์แอนด์เฮาส์ เผยแผนดึงพันธมิตรไต้หวันล่าสุดราบรื่น คาดจบภายในก.ค.60 นี้ ส่วนที่ “นายอนันต์ อัศวโภคิน” ลาออกจากประธาน ไม่กระทบแบงก์
นายรัตน์ พานิชพันธ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กร๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ LHBANK เปิดเผยว่า ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 60 ที่ผ่านมา ทางการไต้หวัน (FSC) ได้อนุญาตให้ ซีทีบีซี สามารถเข้ามาซื้อหุ้นร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัท และเมื่อวันที่ 11 พ.ค.ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือธปท. ได้อนุญาตให้ซีทีบีซีเข้ามาถือหุ้น และในวันที่ 12 ก.ค.นี้ บริษัท จะมีการเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น
“CTBC เป็นบริษัทในเครือ CTBC Financial Holding Co., Ltd. กลุ่มการเงินขนาดใหญ่ของไต้หวัน และ เป็นธนาคารเอกชนที่มีสินทรัพย์ขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 1 ของไต้หวัน ที่มีมูลค่ากว่า 118 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 4.02 ล้านล้านบาท มีเครือข่ายและตัวแทน 107 แห่ง ครอบคลุมกว่า 14 ประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา แคนาดา ญี่ปุ่น อินเดีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ฮ่องกง สิงคโปร์ และจีน เป็นต้น
CTBC มีความเชี่ยวชาญด้านคอนซูเมอร์ไฟแนนซ์ โดยมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ในไต้หวัน ด้านการบริหารการเงินส่วนบุคคล (Wealth Management) ด้านดิจิตอลแบงกิ้ง (Digital Banking) และด้านเทรดไฟแนนซ์ (Trade Finance) และ CTBC ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) อยู่ที่ระดับ A2 โดย Moody’s ” นายรัตน์ กล่าว
ทั้งนี้ เมื่อ CTBC นำเงินมาเพิ่มทุน บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนมาเพิ่มทุนในธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (“LH Bank”) ซึ่งจะทำให้ฐานเงินทุนของ LH Bank โตกว่าเท่าตัว หรือเท่ากับประมาณ 34,000 ล้านบาท และมีอัตราส่วนเงินกองทุนขั้นที่ 1 หรือ Common Equity Tier 1 เพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณร้อยละ 20 ซึ่งเป็นอัตราเงินกองทุนที่มีความแข็งแกร่ง
โดยการร่วมเป็นพันธมิตรกับ CTBC จะเป็นการเพิ่มศักยภาพให้กับกลุ่มการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ได้แก่ บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด ในการรองรับการเติบโตและการขยายธุรกิจไปยังภูมิภาค รวมทั้งเป็นการยกระดับการให้บริการทางการเงินของกลุ่มการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ด้วยความเชี่ยวชาญทางด้านการบริหารการเงินส่วนบุคคล (Wealth Management) ด้านดิจิตอลแบงกิ้ง (Digital Banking) และด้านเทรดไฟแนนซ์ (Trade Finance) หรือธุรกรรมด้านต่างประเทศของ CTBC
ในด้านการบริหารงาน CTBC จะส่งกรรมการเข้ามาก่อน 3 ท่าน และเมื่อแผนธุรกิจได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการ CTBC จะส่งกรรมการเข้ามาอีก 2 ท่าน และจะมีผู้บริหารของ CTBC ที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาอีก 3-4 ท่าน เพื่อมาร่วมดูแลการดำเนินธุรกิจด้านดังกล่าว ในช่วงเวลาที่ผ่านมาคณะผู้บริหารของ CTBC ได้มาที่บริษัทหลายครั้ง มาคุยเรื่องแผนการดำเนินธุรกิจ กระบวนการทำงาน วัฒนธรรมองค์กร และในวันที่ 31 พ.ค. 60 และ วันที่ 1 ส.ค. 60 จะมีคณะผู้บริหารระดับสูงของ CTBC มาที่บริษัท ในทางกลับกัน คณะผู้บริหารของ LH Bank ก็ไปเรียนรู้ธุรกิจที่ CTBC มีความเชี่ยวชาญหลายครั้ง และในสัปดาห์หน้า LH Bank ก็จะส่งคณะผู้บริหารไป CTBC อีก
นายรัตน์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีการลาออกของนายอนันต์ อัศวโภคิน ประธานกรรมการ แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ปนั้น ทางซีทีบีซี ได้รับทราบถึงประเด็นดังกล่าวแล้ว และไม่ได้ติดปัญหาการเข้ามาร่วมทุนในครั้งนี้ เนื่องจากการลาออกเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับธนาคารแต่อย่างไร ทั้งนี้ นายอนันต์ไม่ได้ถือหุ้นแอล เอช ไฟแนนซ์เชียลในนามส่วนตัว มีเพียงถือหุ้นบริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LH) ที่นายอนันต์ถือหุ้นในสัดส่วน 30 % แต่ทั้งนี้ยอมรับว่านายอนันต์ถือหุ้นทางอ้อมในธนาคาร คือ LH ในสัดส่วนที่น้อยมากเพียง12% เท่านั้น ที่เหลือ 88% เป็นผู้ถือหุ้นรายอื่นตามในตลาดหลักทรัพย์ฯ อย่างไรก็ตาม หากพันธมิตรใหม่เข้ามาสัดส่วนการถือหุ้นทางอ้อมจะลดลงเหลือเพียง 9% เท่านั้น
นายรัตน์ กล่าวอีกว่า หลังจากซีทีบีซีเข้ามาถือหุ้น ตำแหน่งประธานกรรมการ ยังเป็นโควตาของกลุ่มควอลิตี้ เฮ้าส์ หรือคิวเฮ้าส์ และแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ส่วนตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ เป็นคนกลาง ที่ต้องเห็นชอบร่วมกัน โดยตำแหน่งประธานกรรมการหลังนายอนันต์ลาออก ขณะนี้อยู่ขบวนการสรรหา จากนั้นเสนออนุมัติจากธปท. ซึ่งไม่สามารถระบุระยะเวลาได้ขึ้นอยู่กับขบวนกสรพิจารณาของธปท.เป็นหลัก
นางศศิธร พงศธร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แผนงานธนาคารในปีนี้ยังคงเป็นแผนการเดิม เป้าหมายการปล่อยสินเชื่อปีนี้ยังคงอยู่ที่ 6-7% โดยช่วง 4 เดือนแรกของปีธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อได้แล้ว 2% ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ตั้งเป้าหมายปีนี้ไม่เกิน 2% แม้ว่ามีการขยับตัวขึ้นบ้างก็ตาม ส่วนหนี้เสียปัจจุบันอยู่ที่ 1.8% ทั้งนี้ ธนาคารยังคงแผนสำรองหนี้เสียเท่าเดิมที่ 111-115% อย่างไรก็ตาม มองว่า หลังจากพันธมิตรใหม่เข้ามาจะช่วยให้การปล่อยสินเชื่อของธนาคารในช่วงปี 61 ขยับตัวสูงขึ้นอยู่ราว 10-15%