28 พฤษภาคม 2560 : สถานการณ์ “สินเชื่อ” ของสถาบันการเงิน คือตัวบงชี้วัดการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจไทยได้ดีที่สุด และตอนนี้ประเทศไทยก็กำลังเข้าสู่เดือนที่หกของปี 2560 นี่ก็ปาเข้าไปจะครึ่งปีแล้ว หลายคนมีความหวังและความฝันว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะกลับมาสดใสด้วยมาตรการต่างๆจากภาครัฐ
ล่าสุด ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้มีการสำรวจสินเชื่อเดือน เม.ย. 2560 จากทั้งลูกค้าธุรกิจ และรายย่อย ฝ่ายวิจัยต่างสรุปออกมาว่า ภาพรวมสินเชื่อเดือน เม.ย. 2560 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.4% เมื้อเทียบเดือนก่อนหน้า และ 2.13% เมื่อเทียบกับช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดในปีนี้ โดยเป็นผลจากสินเชื่อภาคธุรกิจขนาดใหญ่และสินเชื่อรายย่อยโดยเฉพาะสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ที่กลับมาปรับตัวดีขึ้น
ส่วนสินเชื่อเอสเอ็มอีโดยเฉพาะขนาดเล็กยังชะลอตัวต่อเนื่อง ขณะที่ ภาพรวมเงินฝากเดือน เม.ย. 2560 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนถึง 1.12% เมื่อเทียบเดือนก่อนหน้า หรือเพิ่มขึ้น 2.51% เมื่อเทียบปีก่อน โดยเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มธนาคาร และเป็นการเพิ่มของเงินฝากประเภทกระแสรายวันและออมทรัพย์ (CASA) เป็นหลัก ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการพักเงินของรายย่อยที่ถูกโยกมาหลังเงินฝากพิเศษครบกำหนด เพื่อรอจังหวะพิจารณาทางเลือกในการออมที่ให้ผลตอบแทนที่จูงใจ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์เงินฝากประจำพิเศษที่จะออกในช่วงหลังจากนี้ รวมไปถึงพันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้เอกชนอื่นๆ
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า การขยายตัวดีขึ้นของเงินให้สินเชื่อในเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา โดยเฉพาะการเร่งตัวขึ้นของสินเชื่อรายย่อยในกลุ่มสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และการเติบโตอย่างต่อเนื่องของสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียน สำหรับธุรกิจในประเทศ และธุรกิจระหว่างประเทศ เป็นสัญญาณที่ดีที่สำหรับการฟื้นตัวอย่างชัดเจนขึ้นของสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ในระยะข้างหน้า ซึ่งเมื่อประกอบกับการพร้อมใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงสำหรับลูกค้ารายย่อยของธนาคารพาณิชย์ลงในช่วงกลางเดือน พ.ค. และโมเมนตัมทางเศรษฐกิจที่น่าจะเร่งตัวได้มากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี ก็น่าจะย้ำภาพการเติบโตดีขึ้นของสินเชื่อในช่วงถัดไป
นอกจากนี้ ในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ธนาคารพาณิชย์ออกแคมเปญผลิตภัณฑ์เงินฝากพิเศษใหม่ในระดับที่ชะลอลง เมื่อเทียบกับช่วงหลายเดือนก่อนหน้า ซึ่งสะท้อนถึงความพยายามในการบริหารจัดการต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายของธนาคารพาณิชย์
ส่วนสภาพคล่องเดือนเมษายน 2560 ผ่อนคลายลงในรอบ 12 เดือน โดยภาพรวมสภาพคล่องของธนาคารผ่อนคลายลงจากเดือนก่อนหน้า โดยสัดส่วนเงินให้สินเชื่อรวมต่อเงินฝากรวมกับตราสารหนี้ที่ออกและเงินกู้ยืม (LTD+Borrowing Ratio) ในเดือน เม.ย. 2560 อยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 12 เดือนที่ 90.11% สอดคล้องกับอัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องต่อสินทรัพย์รวมที่ปรับเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 21.84% จาก 21.60% ในเดือนก่อนหน้า
ทิศทางสินเชื่อครึ่งหลัง…ฟื้นตัวดีขึ้น ท่ามกลางแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ทรงตัวในระดับต่ำ การขยายตัวดีขึ้นของเงินให้สินเชื่อในเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา โดยเฉพาะการเร่งตัวขึ้นของสินเชื่อรายย่อยในกลุ่มสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และการเติบโตอย่างต่อเนื่องของสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียน
สำหรับธุรกิจในประเทศ และธุรกิจระหว่างประเทศ เป็นสัญญาณที่ดีที่สำหรับการฟื้นตัวอย่างชัดเจนขึ้นของสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ในระยะข้างหน้า ซึ่งเมื่อประกอบกับการพร้อมใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงสำหรับลูกค้ารายย่อยของธนาคารพาณิชย์ลงในช่วงกลางเดือน พ.ค. และโมเมนตัมทางเศรษฐกิจที่น่าจะเร่งตัวได้มากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี ก็น่าจะย้ำภาพการเติบโตดีขึ้นของสินเชื่อในช่วงถัดไป ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังคงคาดการณ์การเติบโตของสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์จดทะเบียนในประเทศปี 2560 ไว้ที่ระดับ 3.0 – 5.0% (ค่ากลางที่ 4.0%)
ขณะเดียวกัน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำในระหว่างนี้ ประกอบกับการส่งสัญญาณดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยทรงตัวของ กนง. คงมีส่วนช่วยให้ธนาคารบริหารจัดการต้นทุนการเงินได้ดีขึ้น และบรรเทาแรงกดดันต่อการแข่งขันระดมเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ลงไปได้บางส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มธนาคารที่ยังสำรองสินทรัพย์สภาพคล่องไว้ในระดับสูง และเพียงพอต่อการรองรับความต้องการสินเชื่อในระยะถัดไป