24 พฤษภาคม 2560 : นายสมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ฐานะประธานกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ในนามประธานกรรมการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว. หรือ SME Development Bank) เปิดเผยว่า ธพว. ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐลงพื้นที่จัดงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่อง “คลินิกเอสเอ็มอีสัญจรแนวประชารัฐ” เปิดตัวโครงการกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ นำร่องที่แรกจังหวัดสงขลา โดยได้รับเกียรติจากนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวมอบนโยบาย “การช่วยเหลือเอสเอ็มอีของรัฐบาล” เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจการดำเนินงานของภาครัฐ แก่ผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปในพื้นที่ภาคใต้ เบื้องต้น
ธพว. ได้ผลักดันลูกค้าธนาคารเข้าสู่แหล่งทุนเป็นผลสำเร็จ จำนวน 4 ราย วงเงิน 12 ล้านบาท และวงเงินสินเชื่อ SMEs Transformation Loan จำนวน 10 ล้านบาท รวมวงเงิน 22 ล้านบาท โดยมี นายพสุ โลหารชุน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ให้การต้อนรับพร้อมหน่วยงานพันธมิตร ผู้ประกอบการ SMEs ในพื้นที่จังหวัดสงขลาและจังหวัดใกล้เคียง ณ โรงแรมหรรษาเจบี หาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พร้อมกันนี้ ธพว. ยังได้ลงพื้นที่สำรวจข้อมูลและเยี่ยมชมกิจการชุมชนเกาะยอ ชุมชนนำร่องเพื่อพัฒนาเป็น“หมู่บ้าน CIV” หรือ หมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ โครงการสร้างสรรค์อุตสาหกรรมเชิงวัฒนธรรม โดยกระทรวงอุตสาหกรรม หวังต่อยอดยกระดับเป็นสถานที่พักผ่อนท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ระดับไฮเอนด์
จังหวัดสงขลากำหนด Rubber City เป็นยุทธศาสตร์หลักในการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs ในพื้นที่ โดยได้รับอนุมัติวงเงินจากกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐจังหวัดสงขลาและสินเชื่อ SME Transformation Loan จำนวน 2 ราย วงเงินอนุมัติรวม 16 ล้านบาท ประกอบด้วย 1) บริษัท เอ.บิล.อาร์ท.อินดัสเตรียล จำกัด ลูกค้าเดิมของ ธพว. สาขาหาดใหญ่ ผู้วิจัยและคิดค้นนวัตกรรมใหม่ (ปะเก็นเหล็กเคลือบยางพารา) ซึ่งนำยางพาราวัตถุดิบหลักที่มีในพื้นที่มาพัฒนาจนสามารถเพิ่มมูลค่า สร้างรายได้กระจายสู่เกษตรกรในชุมชน มีระบบการบริหารจัดการแบบ Real Time
ปัจจุบันขยายตลาดไปจำหน่ายที่ประเทศมาเลเซีย ประเทศเมียนมา โดยบริษัทได้รับอนุมัติวงเงินจากกองทุน จำนวน 3 ล้านบาท และได้รับอนุมัติสินเชื่อ SMEs Transformation Loan จำนวน 10 ล้านบาท เพื่อปรับเปลี่ยนเครื่องจักร ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต รองรับการขยายตลาดส่งออกจำหน่ายยังประเทศเวียดนามต่อไป
รายที่ 2) บริษัท โกร รับเบอร์ ลาเท็กซ์ จำกัด กลุ่มผู้ประกอบการ Startup ที่นำผลงานวิจัย “อุปกรณ์รองช่วยลดความดันในส้นเท้าทำจากยางธรรมชาติ” มาพัฒนาต่อยอด ผลิตและจำหน่ายยางรองส้นเท้ายางพารา ผ่านการอบรมโครงการ NEC กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) และศูนย์บ่มเพาะ UBI ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) เน้นใช้ยางพาราในพื้นที่เป็นวัตถุดิบหลัก เพื่อลดปัญหาต้นทุนการขนส่งและยังช่วยสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร บริษัทมีที่ตั้งโรงงานอยู่ในโครงการนิคมอุตสาหกรรมยางพารา นิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ของจังหวัด โดยได้รับอนุมัติวงเงินกองทุน จำนวน 3 ล้านบาท เพื่อปรับเปลี่ยนซื้อเครื่องจักรพร้อมไลน์การผลิตรองเท้าแตะ รองรับการขยายตลาดผลิตรองเท้าแตะจากยางพาราต่อไป
จังหวัดสุราษฎร์ธานีกำหนดยุทธศาสตร์ตามวิสัยทัศน์จังหวัดคือ “เมืองเกษตรกรคุณภาพ การท่องเที่ยวยั่งยืน สังคมเป็นสุข” โดยได้รับอนุมัติวงเงินกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐจังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 2 ราย วงเงินอนุมัติ 6 ล้านบาท ประกอบด้วย 1)บริษัท สุราษฎร์อินเตอร์ทัวร์ จำกัด ธุรกิจท่องเที่ยวโรงแรมและที่พัก “แพ 500 ไร่” ลูกค้าเดิมของ ธพว. ที่ได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนจากธนาคารและภาครัฐจนประสบความสำเร็จ สามารถพัฒนายกระดับเป็นแหล่งพักผ่อนเชิงอนุรักษ์ระดับไฮเอนด์ พลิกโฉมการท่องเที่ยวในท้องถิ่นอย่างครบวงจร เน้นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ยั่งยืน ทั้งด้านธรรมชาติ วิถีชีวิต โดยได้รับอนุมัติวงเงินกองทุน จำนวน 3 ล้านบาท เพื่อนำไปต่อยอดสร้างศูนย์จำหน่ายสินค้าพื้นเมืองช่วยกระจายรายได้สู่ชุมชน ซึ่งอาจจะขยายต่อเนื่องไปถึงศูนย์การเรียนรู้และฝึกวิชีพในอนาคต
รายที่ 2)บริษัท ซีการ์เด้น แอนด์ สปา ธุรกิจท่องเที่ยวโรงแรมและที่พัก ปัจจุบันมี 2 สาขา สาขาแรกตั้งอยู่ในย่านสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลก “ฟูลมูนปาร์ตี้” หาดริ้น มีกลุ่มเป้าหมายคือลูกค้าที่ชอบความบันเทิง ต้องการความสนุกสนาน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ สาขาสองตั้งอยู่ในพื้นที่การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ สภาพแวดล้อมสงบเงียบ กลุ่มเป้าหมายคือลูกค้าที่ต้องการพักผ่อน ไม่ต้องการความเร่งรีบ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคู่รัก ครอบครัว ส่งผลให้แหล่งชุมชนมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ชุมชนมีการพัฒนารูปแบบสินค้าอย่างต่อเนื่อง และบริษัทยังเข้าร่วมเป็นสมาชิกสมาคมโรงแรมเกาะพะงัน เพื่อเป็นแหล่งให้บริการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเกาะพะงันอีกทางหนึ่งด้วย บริษัทได้รับอนุมัติวงเงินกองทุน จำนวน 3 ล้านบาท เพื่อนำไปขยายสร้างห้องพักยกระดับให้บริการรูปแบบพรีเมียม