WELCOME TO SEQUEL ONLINE (ซีเคว้ล ออนไลน์)
วันอังคาร ที่ 26 พฤศจิกายน 2567 ติดต่อเรา
ตลาดหุ้นสัปดาห์นี้ (22-26 พ.ค.) เริ่มปรับตัวขึ้นหลังรับข่าวลบ##

123

22 พฤษภาคม 2560 : ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ KTBST ประเมินทิศทางมองตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ (22-26 พ.ค.) ว่า ทิศทางมองตลาดอยู่ในช่วงของการรีบาวด์ เพราะตอบรับข่าวลบไปมาก และเห็นได้ว่าตลาดหุ้นไทยมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์ โดยหุ้นขนาดใหญ่ที่รายได้และกำไรยังดูดีอยู่ ที่เป็น defensive หรือกลุ่มที่กำไรสวนทางกับภาวะเศรษฐกิจ น่าจะยังดีต่อ ขณะที่หุ้นที่ราคาปรับตัวลงไปมากในช่วงสัปดาห์ก่อน จะเป็นเป้าของการเข้ามาเก็งกำไร ส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นขนาดกลาง-เล็ก

ทั้งนี้ การตอบรับต่อข่าวเชิงลบ ต่อผลประกอบการและปัจจัยในต่างประเทศที่มีไปค่อนข้างมาก หากไม่ได้มีปัจจัยเชิงลบใหม่ๆเข้ามา กอรปกับดัชนีฯปรับตัวลงมามาก เราคาดว่าดัชนีฯ จะเริ่มทรงตัวหรือดีดตัวกลับขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1,550 จุด ได้อีกครั้ง และยังคาดว่าสัปดาห์ถัดไปทิศทางตลาดจะดีขึ้นแต่จะมีลักษณะเป็นsideway มากกว่า โดย event สำคัญจะเป็นตัวเลขส่งออกของไทย และตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ดังนั้นการรีบาวน์ของ SET Index เมื่อแตะ 1,531 จุด เป็นสัญญาณว่าตลาดยังมีแรงซื้อกลับ คาดกรอบดัชนีฯสัปดาห์นี้ 1,541-1,566 จุด ในการลงทุนแนะนำให้เปลี่ยนเป็น “ถือ”

win

สำหรับตัวปัจจัยตัวแปรที่ตลาดให้ความสนใจในสัปดาห์นี้คือ โอกาสในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ในการประชุม 14-15มิ.ย.กลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง (97% ; Bloomberg) รายงานประชุม FOMC 4 พ.ค. ที่จะเปิดเผย 25 พ.ค.จะเพิ่ม/ลดโอกาสในการปรับขึ้นดอกเบี้ย นอกจากนี้ ตลาดจะจับตาดูตัวเลขการจ้างงานที่จะรายงานในวันศุกร์หน้า (2 มิ.ย.) อีกด้วย ส่วนการทดลองขีปาวุธของเกาหลีเหนือเมื่อวันอาทิตย์ (21 พ.ค.) ไม่น่ามีผลต่อตลาด สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำยังน่าจะเป็นตัวดึงดูดนักลงทุน แต่ในแง่ของตลาดหุ้นแล้ว เรามองว่าน่าจะเริ่มฟื้นตัวจากสัปดาห์

ขณะที่ทิศทางเศรษฐกิจไทยยังไม่ชัดเจนนัก GDP ไตรมาส 1 รายงานที่ 3.3% แต่การลงทุนของภาครัฐฯ ในโครงการใหญ่ๆ ชะลอไปจากกำหนดเดิม อย่างน้อยราว 1 ไตรมาสและการที่รัฐฯไม่มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ๆออกมา ตัวเลข NPLs ที่สูงขึ้นและการทยอยปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารต่างๆดูเป็นลบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในไตรมาสต่อๆไป

ส่วนการประชุม กนง. 24 พ.ค. คาดว่า ธปท.จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 1.5% รวมถึงค่าเงินบาท 34.3 บาท/ดอลล่าร์ ค่าเงินบาทที่กลับมาแข็งค่าอีกครั้ง และจะแข็งต่อถ้า มีเงินไหลเข้ามาเก็งก่าไรในตลาด พันธบัตรจะเป็นลบต่อหุ้นที่มีรายได้เป็นเงินดอลล่าร์ สำหรับหุ้นที่คาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุน เช่น BBL , BANPU , GFPT , BLA , KCAR , TACC , TICON logo เล็ก (ปิดท้ายข่าว)

การเงิน ดูทั้งหมด



COPYRIGHT © 2016 SEQUEL ONLINE. ALL RIGHTS RESERVED.
FOLLOW UP