12 พฤษภาคม 2560 : นายวิพล วรเสาหฤท กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต เปิดเผยถึง การดำเนินงานไตรมาสแรก ปี 2560 เบี้ยประกันรับสุทธิอยู่ที่ 12,540 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 2 เป็นผลจากการลดลงของเบี้ยประกันรับปีต่อไป ส่วนเบี้ยปีแรกเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 มีเบี้ยรับ 2,533 ล้านบาท ในขณะที่แบบประกันครบกำหนดชำระเบี้ยในปี 2559 ทำให้เบี้ยปีต่อไปมีอัตราเติบโตลดลงที่ร้อยละ 3
โดยช่องทางธนาคารยังคงเป็นช่องทางจัดจำหน่ายหลักของบริษัท โดยมีเบี้ยประกันภัยรับรวมคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 68 และช่องทางตัวแทนมีสัดส่วนเบี้ยประกันภัยรับรวม ร้อยละ 26 ซึ่งเมื่อเปรียบกับไตรมาสแรกปี 2559 ช่องทางธนาคารมีสัดส่วนลดลง ในขณะที่ช่องทางตัวแทนมีสัดส่วนเบี้ยประกันภัยเพิ่มขึ้น แบบประกันที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในช่องทางธนาคารคือแบบประกันแบบตลอดชีพ ซึ่งมีการเพิ่มขึ้นของเบี้ยในไตรมาสที่ 1 นี้
บริษัทฯ มีกำไรตามงบการเงินรวมในไตรมาสที่ 1 ปี 2560 ที่ 922 ล้านบาท เนื่องจากในไตรมาสที่ 1 ปี 2560 บริษัทฯ ไม่มีภาระในการตั้งสำรองพิเศษ บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม 290,904 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาสแรก ปี 2560 เพิ่มขึ้นสิ้นปี 2559 ร้อยละ 3 บริษัทมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมาย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2560 ที่ร้อยละ 253 สูงกว่าอัตราขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนดมากกว่า 2 เท่าแสดงถึงความมั่นคงในฐานะทางการเงินของบริษัท
นายวิพล กล่าวอีกว่า ในไตรมาสแรกของปี 2560 นี้ บริษัทฯ ได้ผลักดันการสร้างตลาดสำหรับแบบประกันใหม่ โดยในช่องทางธนาคาร ได้ให้ความสำคัญกับแบบประกันระยะยาว ทั้งประเภทสะสมทรัพย์ และประเภทคุ้มครองตลอดชีพ
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงร่วมมือกับธนาคารกรุงเทพ ในการแนะนำแบบประกัน โฮลไลฟ์เฟิสต์ มรดกลูกหลาน ซึ่งเปิดตัวในช่วงไตรมาส 4 ปี 2559 ซึ่งมีจุดเด่นที่ เบี้ยประกันภัยต่ำ คุ้มครองสูง ลูกค้าสามารถเลือกระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัยได้ทั้งแบบ 5 ปี 10 ปี 15 ปี 20 ปี หรือถึงอายุ 90 ปี รับความคุ้มครองร้อยละ 400 ของจำนวนเงินเอาประกันภัย กรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ หรือ รับร้อยละ 200 ของจำนวนเงินเอาประกันภัยเมื่อครบกำหนดสัญญา และสามารถนำเบี้ยประกันชีวิตไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
สำหรับช่องทางตัวแทน ได้มีการเปิดตัวแบบประกันใหม่ในช่องทางตัวแทน ได้แก่ บีแอลเอ กรุงเทพ 200 รวมทั้งแผนความคุ้มครองด้านสุขภาพที่ได้รับการตอบรับที่ดี อาทิ บีแอลเอ เฮลธ์พลัส บีแอลเอ รักษ์สุขภาพ และบีแอลเอ สุขภาพ 2011 บริษัทฯ ยังได้ร่วมมือกับพันธมิตร 3B ในการทดลองเปิดตัว 3B Link แผนการลงทุนคู่ความคุ้มครอง ให้กับที่ปรึกษาการเงิน 3B เพื่อตอบโจทย์การวางแผนการเงินผ่านการลงทุนในกองทุนรวมและความคุ้มครองผ่านแบบประกันต่างๆ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี บริษัทฯ จึงได้นำข้อมูลที่ได้รับมาใช้ปรับปรุง 3B Link เพื่อเปิดให้บริการผ่านที่ปรึกษาการเงินกว่า 1,200 คนต่อไป
นอกจากนี้ บริษัทยังได้มีการเพิ่มการสนับสนุนตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน โดยการเปิดศูนย์อบรมประจำภูมิภาคตะวันออก ที่จังหวัดชลบุรี และเปิดศูนย์วางแผนการเงินส่วนบุคคล แห่งที่ 2 ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา รวมทั้งได้มีการเปิดสาขาใหม่ 3 สาขาในเดือนมีนาคม 2560 ได้แก่ สาขาชลบุรี สาขาหาดใหญ่ และสาขาพิษณุโลก เพื่อรองรับการเติบโตของตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน ให้สามารถบริการลูกค้าและผู้สนใจได้อย่างเต็มที่
“สำหรับธุรกิจประกันชีวิตโดยรวมมีเบี้ยประกันชีวิตรับรวม ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ปี 2560 มีจำนวนเท่ากับ 149,406 ล้านบาท โดยมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนที่ร้อยละ 5.59 แยกเป็นเบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่จำนวน 39,749 ล้านบาท อัตราการเติบโตลดลงร้อยละ 2.47 และเบี้ยประกันชีวิตรับปี ต่อไปจำนวน 109,657 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.85” นายวิพล กล่าวทิ้งท้าย