8 พฤษภาคม 2560 : ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ KTBST ประเมินทิศทางมองตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ (8-12 พ.ค.) ว่า ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบสอง ที่ผลออกมาตามคาด คือ นาย Emmanuel Macron เป็นผู้ชนะ เท่ากับปัจจัยเสี่ยงของตลาดลดลงไปอีกหนึ่งตัว ทำให้ยุโรปจะเหลือแค่ BRExit และการเลือกตั้งของเยอรมัน ซึ่งยังไม่มีผลต่อตลาดตอนนี้ อีกทั้งผลการเลือกตั้งของฝรั่งเศสอาจเปลี่ยนทรรศนะคติของคนยุโรปที่เคยคิดอยากออกจากอียู ซึ่งตลาดยุโรปและค่าเงินยูโรจะดีจากผลการเลือกตั้งนี้
ขณะที่ความกังวลต่อการไหลออกของเงินทุนในตลาดหุ้นเกิดใหม่ อาจสูงขึ้น นอกจากมาจากผลการเลือกตั้งของฝรั่งเศส ส่วนหนึ่งมาจากตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่ดีขึ้นมาก (อัตราการว่างงานลดลงเหลือ 4.4% ต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี) ดันให้ค่าความน่าจะเป็นในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed (Fed Fund Rate Implies Probabilities) สำหรับการประชุม FOMC 14 มิ.ย. ขึ้นสู่ 98% (วันก่อน 94%)
ส่วนราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดวันศุกร์ (5) ที่ $46 เหรียญ จากที่ร่วงลงไปแตะ $45 ในวันก่อนหน้านี้ นักลงทุนยังมีความกังวลต่อการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯที่เพิ่มต่อเนื่องและทำสถิติสูงสุด ที่ 9.29 ล้านบาร์เรล/วันไปแล้ว โดยไม่สนใจที่ผู้ผลิตน้ำมันออกมาย้ำว่าจะลดกำลังการผลิตต่อในการประชุม OPEC 25 พ.ค.นี้ KTBST คาดว่า ด้วยนโยบายของ OPEC และผู้ผลิตน้ำมันรายอื่น ที่ไม่ต้องการให้ราคาน้ำมันตกต่ำลงไปมากกว่า $45 เหรียญ เพราะจะเป็นลบต่อเศรษฐกิจอย่างที่เคยเป็นมา จึงน่าจะมีการทำอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อให้ราคาดีดกลับขึ้นไป และตัวช่วยอย่างตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ออกมาดี คาดจะหนุนราคาน้ำมันดิบ ให้กลับขึ้นไปใกล้ $50 เหรียญ ได้ในเวลาไม่นานนัก
ทั้งนี้ปัจจัยในประเทศที่สำคัญๆ จะเป็นงบการเงินไตรมาส 1 หุ้นขนาดใหญ่ (ธนาคาร-โทรศัพท์-พลังงาน-ปิโตรเคมี) ราคาหุ้นน่าจะทยอยรับรู้กำไรไปบ้างแล้วจากการรายงานหรือการทำ Preview ของนักวิเคราะห์ สำหรับหุ้นขนาดกลางหรือเล็ก ที่รายงานผลประกอบการหลายตัวกำไรไม่ค่อยสดใสนัก การเก็งกำไรต่อผลประกอบการมีน้อยกว่าไตรมาสที่ผ่านๆมา
ด้านข่าวเรื่อง PTTEP-PTT ถูกทางการอินโดนีเซียยื่นฟ้องต่อศาลของประเทศอินโดนีเซีย ไปเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (3) โดยเรียกร้องค่าเสียหาย 27.5 ล้านล้านรูเปียส์ ($2.1 พันล้านเหรียญ) และมีแผนจะอายัดสินทรัพย์ของ 3 บริษัทที่ยื่นฟ้องไปด้วย อาจมีผลต่อหุ้นที่เกี่ยวข้อง
สำหรับทิศทางตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้ (8-12 พ.ค.) ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส จะเป็นผลบวกต่อตลาดทั่วโลก ที่ความเสี่ยงจะลดลง เช่นเดียวกับสถานการณ์ของเกาหลีเหนือที่เริ่มดีขึ้นหลังสหรัฐฯจะใช้เพียงมาตรการ Sanction อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยเป็นตลาดที่ถูกนักลงทุนต่างประเทศขาย (แต่ซื้อในตลาดเอเชียแห่งอื่น) เป็นปัจจัยถ่วงตลาดหุ้นไว้
นอกจากนี้ ความเสี่ยงที่ยังมีต่อจากสัปดาห์ก่อน คือเรื่องของ Fund Flow ของนักลงทุนต่างประเทศ ที่อาจลดพอร์ตหรือปรับพอร์ต หลังมีโอกาสมากขึ้นที่ Fed จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนหน้า และการเข้ามาเก็งกำไรในผลประกอบการในหุ้นรายตัว จะไม่คึกคักเหมือนไตรมาสก่อนๆ จะมีการลงทุนแบบเลือกลงทุนและซื้อขายสั้นๆมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ดัชนีฯมีลักษณะเป็น sideway ตัวแปรที่ชี้ทิศทางที่สำคัญ คือ นักลงทุนต่างประเทศ จะขายหุ้นต่อหรือไม่
“กลยุทธ์การลงทุนแนะนำชะลอดูสถานการณ์ ถ้าดัชนีฯลงมาต่ำกว่า 1,566 ให้ลดพอร์ตลงบ้าง และด้วยสภาพตลาดแบบนี้ (ไม่ขึ้น-ไม่ลง) การเล่นแบบเก็งกำไรช่วงสั้นๆ จะเหมาะกับตลาดแบบนี้ คือ “ลงซื้อ ขึ้นขาย” สำหรับหุ้นที่ KTBST แนะนำลงทุนในสัปดาห์นี้ KKP , MC , UNIQ , ILINK , HANA , INTUCH , MTLS มองกรอบดัชนีในสัปดาห์นี้จะผันผวนในกรอบ 1,550 -1,586 จุด”