28 เมษายน 2560 : นายรัฐพล กิติศักดิ์ไชยกุล กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวเปิดตัวแอพพลิเคชั่นใหม่ภายใต้ชื่อ “SpeeDi” เป็นนวัตกรรมที่ให้บริการลูกค้าแบบรวดเร็วทันใจเมื่อรถเกิดอุบัติเหตุ โดยทุ่มงบประมาณลงทุนกว่า 150 ล้านบาท เพื่อปรับเปลี่ยนซอฟแวร์ ฮาร์ดแวร์ และระบบเทคโนโลยีต่างๆ รวมถึงพนักงานให้มีความรู้ความคิดแบบดิจิตอลมากขึ้น
สำหรับจุดเด่นของแอพพลิเคชั่น MSIG SpeeDi เมื่อเกิดอุบัติเหตุ เพียงลูกค้าส่งสัญญาณการเกิดเหตุโดยกดไปบนปุ่ม หรือเมนูแจ้งอุบัติเหตุรถยนต์ บนแอพพลิเคชั่น MSIG SpeeDi สัญญาณจะถูกส่งไปที่ศูนย์เคลมฮอตไลน์ ภายใน 60 วินาที เจ้าหน้าที่ศูนย์เคลมฮอตไลน์จะติดต่อกลับตามหมายเลขโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนไว้ เพื่อยืนยันชื่อผู้เอาประกันภัย สถานที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นภายใน 30 นาที (กรุงเทพและปริมณฑล) เจ้าหน้าที่สำรวจอุบัติเหตุจะเดินทางไปอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า นอกจากนี้ แอพพลิเคชั่น SpeeDi ยังสามารถติดตามการเดินทางของพนักงานสำรวจอุบัติเหตุได้อย่างเรียลไทม์
ทั้งนี้ ในเบื้องต้นจะสามารถให้ลูกค้าดาวโหลดแอพพลิเคชั่น SpeeDi ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2560 และสามารถให้บริการหรือรับแจ้งเคลมได้วันที่ 2 พฤษภาคม 2560 เป็นต้นไป โดยตั้งเป้ามียอดดาวโหลด 100,000 ดาวโหลด ภายในระยะเวลา 3 เดือน
นอกจากนี้ แอพพลิเคชั่น MSIG SpeeDi ยังได้รับการออกแบบให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าครบวงจร ในด้านความช่วยเหลือที่จำเป็น รวมถึงอำนวยความสะดวกสบายยิ่งขึ้น อาทิ รายชื่อโรงพยาบาลเครือข่าย รายชื่ออู่ ศูนย์ซ่อม และยังมีระบบนำทาง ช่วยให้ลูกค้าสามารถหาเส้นทางที่ใกล้ที่สุดได้อีกด้วย อีกทั้ง ยังสามารถแจ้งเคลมประกันภัยประเภทอื่นได้ อาทิ การแจ้งต่ออายุกรมธรรม์ ชำระเบี้ยประกันออนไลน์ ข้อมูลกรมธรรม์และประวัติการเคลม หรือสอบถามสถานะสินไหมทดแทนออนไลน์ อีกด้วย
“ล่าสุด บริษัทปรับเปลี่ยนหมายเลขแจ้งเคลมใหม่เป็น 1259 เบอร์เดียวทั่วไทย ปัจจุบันบริษัทฯ มีจำนวนผู้เอาประกันภัยรถยนต์ทั้งหมด 4 แสนกรมธรรม์ จากเดิมบริษัทฯ ว่าจ้างบริษัทสำรวจภัยจากข้างนอก แต่ขณะนี้ พนักงานสินไหมทุกคนเป็นพนักงานของบริษัทฯ โดยตรง ล่าสุดมี 60 คน ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนให้เป็น 100 คน โดยแบ่งเป็นพนักงานในกรุงเทพฯและปริมณฑล 80% และต่างจังหวัด 20%”
นอกจากนี้ ยังมีแผนงานที่ 2 ที่จะเปิดตัวแอพพลิเคชั่นสำหรับตัวแทนนายหน้า ภายใต้ชื่อ Activa System เป็นการซื้ัอขายกรมธรรม์ที่มีรูปแบบง่ายๆ ไม่ซับซ้อน เช่น การประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล การประกันการเดินทาง หรือ การประกันรถยนต์ประเภท 2+ 3+ เป็นต้นโดยจะเริ่มตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2560 ส่วนแผนงานที่ 3 บริษัทจะสร้าง Activa Mobile เริ่มดำเนินการช่วงไตรมาสแรกปี 2561 เพื่อให้พันธมิตรทางธุรกิจ สามารถทำธุรกรรมกับบริษัทฯ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันทำการ เป็นการซื้อขายออนไลน์ (Leading Digital Insurance) ตอบสนองความต้องการของลูกค้าครบทุกด้านการบริการ
สำหรับเป้าหมายการขยายตลาดปี 2560 คาดว่าจะมีอัตราเติบโตประมาณ 5% คิดเป็นเบี้ยประกันรับ 4,200 ล้านบาท ซึ่งผลการดำเนินงานในปี 2559 มีเบี้ยประกันรับที่ 3,950 ล้านบาท ขยายตัวขึ้น 3-4%