WELCOME TO SEQUEL ONLINE (ซีเคว้ล ออนไลน์)
วันอังคาร ที่ 26 พฤศจิกายน 2567 ติดต่อเรา
กลุ่มทิสโก้เผยผลงานไตรมาสแรก โตต่อเนื่อง 18.8% มีกำไรสุทธิ 1,490.76 ล้านบาท##

17 เม.ย. 2560 : นายสุทัศน์ เรืองมานะมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปี 2560 ของกลุ่มทิสโก้มีกำไรสุทธิ 1,490.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 235.73 ล้านบาท หรือ 18.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2559 ผลจากการเติบโตของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ และการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียม ประกอบกับการตั้งสำรองหนี้สูญที่ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากการบริหารจัดการสินเชื่ออย่างมีประสิทธิภาพ และความสามารถในการควบคุมต้นทุนการดำเนินงานที่ดี

สำหรับการดำเนินธุรกิจในไตรมาสที่ 2 ของปี 2560 นั้น กลุ่มทิสโก้ยังคงเดินหน้าขยายฐานลูกค้าทุกกลุ่ม เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า ภายใต้การบริหารความเสี่ยงและการกับดูแลกิจการที่ดี โดยเฉพาะการเดินหน้าการถ่ายโอนธุรกิจลูกค้ารายย่อย (Retail Banking) จากธนาคารสแตนดาร์ดชาร์ตเตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน) (SCBT) หลังธนาคารแห่งประเทศไทยให้ความเห็นชอบให้ดำเนินการตามโครงการโอนและรับโอนกิจการของลูกค้ารายย่อย ประกอบด้วย ธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อธุรกิจรายย่อย สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย บริการธนบดีธนกิจ (Wealth Management) เงินฝากรายย่อย รวมทั้งสาขา จากธนาคาร สแตนดาร์ดชาร์ตเตอร์ด ให้แก่ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) และการถ่ายโอนธุรกิจบัตรเครดิต ให้แก่บริษัท ออล-เวย์ส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มธนาคารทิสโก้ โดยปัจจุบันการดำเนินงานถือว่าเป็นไปตามแผนงานที่ได้วางไว้เป็นอย่างดี และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปลายปี 2560 นี้

สุทัศน์ เรืองมานะมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้

ผลการดำเนินงานของกลุ่มทิสโก้ในไตรมาส 1 ปี 2560 มีกำไรสุทธิจำนวน 1,490.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2559 สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจากธุรกิจหลัก ประกอบกับค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญที่ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 2.7% จากความสามารถในการรักษาอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อรวม และการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ในขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจากธุรกิจหลักปรับตัวเพิ่มขึ้น 13.3% จากการเติบโตของทุกภาคธุรกิจ รายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจธนาคารพาณิชย์เติบโตตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ

ในขณะที่รายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์ขยายตัวตามปริมาณการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่เพิ่มมากขึ้นและส่วนแบ่งตลาดปรับตัวดีขึ้น อีกทั้ง รายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจจัดการกองทุนเพิ่มขึ้น ตามการออกกองทุนที่ตอบรับความต้องการของตลาดในช่วงตลาดทุนผันผวน นอกจากนี้ กลุ่มทิสโก้รับรู้รายได้จากธุรกิจวาณิชธนกิจ จากการเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหลักทรัพย์ในไตรมาสที่ผ่านมา ในส่วนของการตั้งสำรองหนี้สูญในไตรมาสนี้ ลดลง 23.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า จากคุณภาพสินทรัพย์ที่ปรับตัวดีขึ้น

เงินให้สินเชื่อรวม ณ วันที่ 31 มีนาคม 2560 มีจำนวน 220,522.70 ล้านบาท ลดลง 2.0% จากสิ้นปีก่อนหน้า สินเชื่ออเนกประสงค์ยังคงสามารถรักษาระดับการเติบโตได้ที่ 1.8% ในส่วนของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง 8.6% เมื่อเทียบกับสิ้นปีก่อนหน้า และอัตราส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวม ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2560 ลดลงจาก 2.50% ณ สิ้นปี 2559 มาอยู่ที่ 2.37% ในขณะเดียวกัน สัดส่วนเงินสำรองหนี้สูญต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 164%

ด้านต้นทุนการดำเนินงาน ยังคงแข็งแกร่งมีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้รวมอยู่ในระดับต่ำที่ 40.9% ประมาณการอัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์ (BIS Ratio) อยู่ที่ 19.8% สูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำที่ 9.75% ซึ่งกำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีอัตราเงินกองทุนชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ 14.9% และ 4.9% ตามลำดับ logo เล็ก (ปิดท้ายข่าว)

การเงิน ดูทั้งหมด



COPYRIGHT © 2016 SEQUEL ONLINE. ALL RIGHTS RESERVED.
FOLLOW UP