WELCOME TO SEQUEL ONLINE (ซีเคว้ล ออนไลน์)
วันศุกร์ ที่ 22 พฤศจิกายน 2567 ติดต่อเรา
“เอสซีจี เอ็กซ์เพรส” ส่งด่วนแบบ “ควบคุมอุณหภูมิ” คงคุณภาพ ##

กรุงเทพฯ 31 มีนาคม 2560 : “เอสซีจี เอ็กซ์เพรส” เปิดแผนธุรกิจปี 60 รุกตลาดส่งด่วนเต็มรูปแบบ เดินหน้าสร้างการรับรู้ถึงจุดแข็ง “บริการที่มีคุณภาพ เอาใจใส่ ตรงต่อเวลา” และ การเป็นรายแรกและรายเดียวในประเทศไทยที่เปิดตลาด “ขนส่งพัสดุแบบควบคุมอุณหภูมิ” (COOL TA-Q-BIN) ตอบความต้องการลูกค้ากลุ่มธุรกิจรายย่อยที่ต้องการส่งสินค้าในรูปแบบควบคุมอุณหภูมิ อาทิ อาหารแช่แข็ง ผลไม้ ยา และเครื่องสำอาง ลุยขยายศูนย์บริการเอสซีจี เอ็กซ์เพรส (Service Point) และตัวแทนรับพัสดุเอสซีจี เอ็กซ์เพรส (Service Agent) อย่างต่อเนื่อง

k.นิธิ ภัทรโชค ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่-ตลาดในประเทศ ธุรกิจ เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง

นายนิธิ ภัทรโชค ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่-ตลาดในประเทศ ธุรกิจ เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง กล่าวว่า “เอสซีจี” ได้ร่วมกับ บริษัท ยามาโตะ กรุ๊ป จำกัด เปิดธุรกิจ “เอสซีจี เอ็กซ์เพรส” ธุรกิจส่งพัสดุย่อยแบบเร่งด่วน ภายใต้แนวคิด “Deliver Your Happiness” เพื่อต่อยอดการให้บริการจากธุรกิจเอสซีจี โลจิสติกส์ ที่ให้บริการด้านโลจิสติกส์และการขนส่งสินค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2560 ที่ผ่านมา โดยได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าที่ให้ความสนใจใช้บริการส่งพัสดุด่วน กว่า 150,000 ชิ้น ตลอดระยะเวลา 3 เดือน

SCG EXPRESS (1)

SCG EXPRESS (2)

“เอสซีจี เอ็กซ์เพรส มี 4 รูปแบบบริการให้เลือก โดยบริการที่นับว่าเป็นการเปิดตลาดครั้งแรกของประเทศไทย คือบริการขนส่งพัสดุแบบควบคุมอุณหภูมิ (COOL TA-Q-BIN) จัดส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสมตั้งแต่ต้นทางจนถึงมือผู้รับ ด้วยเทคโนโลยีและอุปกรณ์จากยามาโตะ กรุ๊ป ได้แก่ “กล่องรักษาความเย็น” (Cool Container) ที่สามารถเก็บรักษา ความเย็นได้นานถึง 12 ชั่วโมง ตลอดจนกระบวนการควบคุมคุณภาพและการรักษาความเย็นด้วยหลัก “530” คือ พัสดุควบคุมอุณหภูมิ ทุกชิ้นจะมีโอกาสสัมผัสกับอุณหภูมิปกติไม่เกิน 30 วินาที และจะถูกดำเนินการคัดแยกภายในระยะเวลา 5 นาที นับตั้งแต่เปิดกล่องรักษาความเย็น (Cool Container)

SCG EXPRESS_COOL TA-Q-BIN (2)

ตลอดจนมีกระบวนการเช็คอุณหภูมิทุกขั้นตอน เพื่อให้ ผู้บริการมั่นใจได้ว่าพัสดุถูกจัดเก็บภายใต้อุณหภูมิที่เหมาะสมจนส่งมอบถึงมือผู้รับ ทั้งนี้ผู้บริโภคสามารถส่งได้ทั้งพัสดุแบบแช่เย็น (Chilled) ระบบควบคุมอุณหภูมิที่รักษาความเย็นได้ 0-8 องศาเซลเซียส สินค้าแช่แข็ง (Frozen) ระบบควบคุมอุณหภูมิที่รักษาความเย็นได้ต่ำกว่า -15 องศาเซลเซียส ซึ่งบริการขนส่งพัสดุแบบควบคุมอุณหภูมิ (COOL TA-Q-BIN) จะสามารถตอบความต้องการลูกค้ากลุ่มธุรกิจรายย่อยที่ต้องการส่งสินค้าในรูปแบบควบคุมอุณหภูมิ อาทิ อาหารแช่แข็ง ผลไม้ ยา ขนม และเครื่องสำอาง

SCG EXPRESS_COOL TA-Q-BIN (5)

โดยคาดการณ์ว่าตลาดนี้มีมูลค่ากว่า 1,300 ล้านบาท และยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดให้บริการ นอกจากนี้ยังมีบริการอื่นๆ อีก ได้แก่ บริการขนส่งพัสดุย่อยแบบเร่งด่วนถึงบ้านหรือทัค-คิว-บิง (TA-Q-BIN) บริการรับพัสดุถึงบ้านลูกค้าและจัดส่งถึงปลายทางในวันถัดไป, บริการส่งเอกสารหรือพัสดุภัณฑ์ด่วนระหว่างบริษัทถึงบริษัท (DOCUMENT TA-Q-BIN), บริการเก็บเงินปลายทาง (TA-Q-BIN COLLECT)” นายนิธิกล่าว

โดยทิศทางการดำเนินธุรกิจของเอสซีจี เอ็กซ์เพรสในปี 2560 เน้นเดินหน้าสร้างการรับรู้ถึงจุดแข็งด้านคุณภาพใน การให้บริการและความทันสมัยของระบบการจัดส่งพัสดุ โดยเน้นสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์ และการเพิ่มจุดรับพัสดุ เอสซีจี เอ็กซ์เพรสอย่างรวดเร็ว เพื่อกระตุ้นให้เกิดการทดลองใช้ ตอกย้ำการเป็นรายแรกและรายเดียวในตลาดที่มีนวัตกรรมบริการส่งพัสดุด่วนแบบควบคุมอุณหภูมิ และการส่งมอบบริการด้วยความเอาใจใส่จากพนักงานที่ได้รับการอบรมมาตรฐานการให้บริการจาก ยามาโตะ กรุ๊ป โดยเจาะไปยังกลุ่มเป้าหมายหลักคือ กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ (B2C) กลุ่มนักช้อปออนไลน์ และประชาชนทั่วไป (C2C)

SCG EXPRESS_COOL TA-Q-BIN (4)

ขณะเดียวกันเตรียมเปิดจุดรับบริการในกรุงเทพฯ และปริมณฑลต่อเนื่องตลอดปี โดยจะเปิดศูนย์บริการเอสซีจี เอ็กซ์เพรส (Service Point) เพิ่มอีก 4 สาขา ได้แก่ พื้นที่เขตรัชดาภิเษก, รังสิต, ปทุมวันและบางนา ทั้งยังเตรียมจับมือกับพันธมิตรเพื่อเปิดจุดบริการตัวแทนรับพัสดุเอสซีจี เอ็กซ์เพรส (Service Agent) นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้องค์กรธุรกิจ หรือผู้ที่สนใจร่วมสมัครเป็นตัวแทนรับพัสดุเอสซีจี เอ็กซ์เพรส (Service Agent) ผ่านเว็บไซต์ www.scgexpress.co.th โดยวางเป้าหมายทั้งปีไว้ที่ 300 สาขา

ทั้งนี้ยังมีแผนในการรุกขยายพื้นที่ให้บริการไปพร้อมกับการพัฒนาคุณภาพ โดยตั้งเป้าขยายการให้บริการสู่ภาคตะวันออก, ภาคตะวันตก และภาคอีสานภายในปี 2560 พร้อมตั้งเป้าหมายขยายพื้นที่บริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศภายในปี 2561 ด้วยการนำจุดแข็งที่มีของทั้ง 2 บริษัทมาประยุกต์ใช้ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายของเอสซีจี โลจิสติกส์ ที่มีบริการและ จุดกระจายสินค้าอยู่ทั่วประเทศ และการใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญและบุคลากรจากยามาโตะ กรุ๊ป ซึ่งได้รับการยอมรับในระดับโลก ทั้งในเรื่องความสุภาพและความเต็มใจให้บริการ มาพัฒนาพนักงานขับรถ

“มั่นใจว่าเอสซีจี เอ็กซ์เพรส จะเป็นที่รู้จักและครองใจผู้บริโภคได้ในเวลาอันรวดเร็ว โดยตั้งเป้าภายใน 5 ปี มียอดขายมากกว่า 1,000 ล้านบาท และครองความเป็นผู้นำตลาดส่งพัสดุแบบควบคุมอุณหภูมิ” นายนิธิ กล่าวสรุป”

มร.ฉั่ว ขิ่ง เส็ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยามาโตะ เอเชีย จำกัด

ด้าน มร.ฉั่ว ขิ่ง เส็ง กรรมการผู้จัดการ “บริษัท ยามาโตะ เอเชีย จำกัด” (YAMATO ASIA PTE., LTD) ผู้นำตลาดการขนส่งพัสดุย่อยประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า ตลาดขนส่งพัสดุย่อยในประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จากพฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟนที่เข้ามามีบทบาทกับชีวิตประจำวันมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้เพื่อซื้อขายสินค้าระหว่างบุคคล ส่งผลให้ตลาดอีคอมเมิร์ซเติบโตอย่างรวดเร็ว ยามาโตะ กรุ๊ป จึงนำ จุดแข็งผสานกับนวัตกรรมและความเชี่ยวชาญด้านตลาดขนส่งสินค้าย่อยแบบเร่งด่วน มามอบความสะดวกด้านการขนส่งสินค้าและพัสดุ และตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยได้มากที่สุด

อนึ่ง : ยามาโตะ กรุ๊ป หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ “แมวดำ” บริษัทขนส่งพัสดุย่อยรายใหญ่เป็นอันดับหนึ่งในญี่ปุ่นด้วยส่วนแบ่งการตลาดมากถึง 46% ด้วยวิสัยทัศน์ ในการดำเนินธุรกิจที่ไม่หยุดนิ่งในการสร้างความแตกต่างและสร้างโอกาสทางธุรกิจอยู่เสมอ จึงมุ่งพัฒนาระบบ การให้บริการ โดยมีการนำเทคโนโลยีมาผสมผสานกับเทรนด์และความต้องการของผู้บริโภค จนเกิดเป็นรูปแบบการให้บริการที่หลากหลาย ครบครัน อาทิ บริการขนส่งพัสดุ แบบควบคุมอุณหภูมิ (COOL TA-Q-BIN) บริการขนส่งกระเป๋าเดินทางจากสนามบิน (Airport TA-Q-BIN) บริการขนส่งกระเป๋ากอล์ฟ (Golf TA-Q-BIN) บริการขนส่งอุปกรณ์เล่นสกี (Ski TA-Q-BIN) เป็นต้นlogo เล็ก (ปิดท้ายข่าว)

ธุรกิจ ดูทั้งหมด



COPYRIGHT © 2016 SEQUEL ONLINE. ALL RIGHTS RESERVED.
FOLLOW UP