8 มีนาคม 2560 : นายสมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (PTTEP) กล่าวว่า การคัดเลือกบริษัท โททาล อีแอนด์พี เมียนมา จำกัด เป็นผู้ร่วมทุนในโครงการเมียนมาร์ MD-7 โดยให้สิทธิการเข้าร่วมทุนร้อยละ 50 เพื่อร่วมกันสำรวจและพัฒนาแหล่งปิโตรเลียมในอ่าวเมาะตะมะ ประเทศเมียนมานั้น สอดคล้องกับแนวทางการบริหารจัดการความเสี่ยงในโครงการสำรวจของปตท.สผ. อีกทั้งยังเป็นการเสริมความสามารถในการดำเนินงาน โดยดึงบริษัทที่มีประสบการณ์ในการสำรวจและพัฒนาแหล่งปิโตรเลียมในพื้นที่น้ำลึกมาร่วมทุนด้วย
“MD-7 เป็นแปลงสำรวจที่อยู่ในแหล่งน้ำลึก ดังนั้นการที่มีพันธมิตรซึ่งมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการสำรวจและพัฒนาแหล่งน้ำลึกในหลายประเทศเข้ามาร่วมสำรวจและพัฒนาแปลง MD-7 จะช่วยให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเกิดประโยชน์สูงสุดกับทุกฝ่าย รวมทั้งประเทศเมียนมาและโททาลเป็นพันธมิตรที่ดีของ ปตท.สผ. มายาวนาน โดยได้ร่วมทุนในหลายโครงการตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา”นายสมพร กล่าว
ปตท.สผ.ยังคงสัดส่วนการถือสิทธิร้อยละ 50 และเป็นผู้ดำเนินการในโครงการเมียนมาร์ MD-7 ดังกล่าว ซึ่งการให้สิทธิร่วมลงทุนครั้งนี้ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลเมียนมาแล้ว แปลง MD-7 มีพื้นที่ประมาณ 7,798 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ในอ่าวเมาะตะมะ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา โดย PTTEP South Asia Limited หรือ PTTEP SA ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ ปตท.สผ. ได้รับสิทธิการสำรวจตามสัญญาแบ่งปันผลผลิตในปี 2556 โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการประมวลผลข้อมูลคลื่นไหวสะเทือนแบบ 3 มิติ เพื่อศึกษาโครงสร้างธรณีวิทยาและประเมินศักยภาพของแหล่งกักเก็บในแปลง
ปตท.สผ. มีการลงทุนสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในเมียนมา รวม 8 โครงการ โดยโครงการที่ปตท.สผ. เป็นผู้ดำเนินการ ได้แก่ โครงการซอติก้า โครงการเมียนมาร์ MD-7 โครงการเมียนมาร์ พีเอสซี จี และอีพี 2 โครงการเมียนมาร์ เอ็ม 11 โครงการเมียนมาร์ เอ็ม 3 โครงการเมียนมาร์ เอ็มโอจีอี 3 และเป็นผู้ร่วมทุนในโครงการยาดานาและโครงการเยตากุน