6 มีนาคม 2560 : วิริยะประกันภัย ตั้งเป้าปี 2560 ปรับองคาพยพครั้งใหญ่ ผ่านเป้าหมายธงนำ “70 ปี วิริยะประกันภัย มุ่งสู่อนาคต ด้วยความเป็นธรรม ภายใต้ นวัตกรรมบริการ 4.0”
นายสยม โรหิตเสถียร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ว่าจ้าง The Boston Consulting Group บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำระดับโลก เข้ามาเป็นที่ปรึกษา และเป็นผู้ออกแบบแพลตฟอร์มให้มีระบบการทำงานที่คล่องตัวมากขึ้น ทั้งด้านการรับประกัน และสินไหมทดแทน ทำให้สามารถเชื่อมโยงการทำงานให้เป็นหนึ่งเดียว และสามารถบริหารจัดการข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
โดยสอดรับกับเป้าหมายการดำเนินงาน ปี 2560 ก้าวสู่การเป็นบริษัทนวัตกรรมประกันภัย ด้วยแนวคิด “70 ปี วิริยะประกันภัย มุ่งสู่อนาคต ด้วยความเป็นธรรม ภายใต้ นวัตกรรมบริการ 4.0” โดยการนำเทคโนโลยีสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ในการพัฒนา ปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการประกันภัยอย่างเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะการบริการด้านสินไหมทดแทน เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำบริการ กล่าวคือ ไอทีจะเข้ามามีบทบาทในการทำงานมากขึ้น ระบบการทำงานของบริษัทฯ ทั้งสำนักงานตัวแทน ทั้งศูนย์ซ่อมฯ คู่ค้า ลูกค้า และผู้เกี่ยวข้อง จะเชื่อมโยงถึงกันเป็นเครือข่ายออนไลน์ทั้งหมด ส่งผลให้การทำงานในทุกขั้นตอนเป็นไปด้วยความสะดวก รวดเร็ว
ล่าสุด บริษัทฯ ยังปรับปรุงสำนักงานตัวแทน ให้เป็นสำนักงานตัวแทนดิจิตอล ตกแต่งทั้งภายนอกและภายใน โดยเน้นรูปแบบ Office Automation เพิ่มเรื่องความสวยงาม ทันสมัย ตอบสนองทุกการใช้งาน และเน้นเรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศในระบบการทำงานของตัวแทน เพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ผ่าน Mobile Application อีกด้วย
นายสยมกล่าวต่อไปถึงการลงทุน บริษัทฯ มีสัดส่วนการลงทุนหลัก ได้แก่ เงินฝาก ตราสารหนี้ภาครัฐ และตราสารทุนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ รวมกว่า 39,000 ล้านบาท ในปี 2559 บริษัทฯ สามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้ร้อยละ 4.1
ทั้งนี้ ในเรื่องของทิศทางการลงทุนในปี 2560 บริษัทฯ เน้นการลงทุนเช่นเดียวกันกับในปีที่ผ่านมา โดยเพิ่มการติดตามอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยอย่างใกล้ชิดเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยในประเทศมีแนวโน้มที่จะปรับสูงขึ้น ส่วนการลงทุนในตราสารจดทะเบียนจะต้องดำเนินการลงทุนด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากมีปัจจัยเสี่ยงเพิ่มขึ้นในหลายด้าน โดยเฉพาะการเมืองภายในประเทศ
นายวิญญู อังศุนิตย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ เปิดเผยถึง แผนการดำเนินงานด้านนอนมอเตอร์ ด้วยว่า ปีนี้บริษัทฯ เพิ่มสัดส่วนงานนอนมอเตอร์ทุกประเภทจาก 9% เป็น 10% พร้อมๆ กับเดินหน้าขยายตลาดอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการประกันสุขภาพ เนื่องจากมีอัตราการขยายตัวมากเป็นอันดับหนึ่ง กอปรกับบริษัทฯ มีจุดแข็งในการให้บริการผ่านเครือข่ายสถานพยาบาลคู่สัญญามากกว่า 300 แห่งทั่วประเทศ
ล่าสุดบริษัทฯ ออกกรมธรรม์ประกันภัยสุขภาพและอุบัติเหตุส่วนบุคคลใหม่ที่ชื่อว่า “อุ่นใจรักษ์ V-Total Care” แผนประกันสุขภาพระดับพรีเมี่ยมสำหรับลูกค้าระดับกลางถึงบน ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่ต้องการดูแลรักษาทางการแพทย์และสุขภาพแบบวีไอพี
นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นการรับประกันโครงการที่เป็นงานของพันธมิตรทางธุรกิจ ควบคู่กับการสร้าง Underwriting tool หรือเครื่องมือช่วยการพิจารณารับประกันภัย สำหรับงานกลุ่ม Personal Line เพื่อให้ตัวแทน นายหน้ารายย่อยสามารถพิจารณารับงานเบื้องต้นด้วยตัวเองได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ พร้อมๆ กับการรับประกันภัยงานประกันภัยวินาศกรรม ในช่วง 1-5 ปีถัดไป เนื่องจากมองว่าประเทศไทย จะถูกขับเคลื่อนด้วยเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน Infrastructure หรือระบบขนส่งและสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2559 บริษัทฯ มีเบี้ยประกันภัยรับรวมทั้งสิ้น 33,272.52 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.63 % โดยแบ่งเป็นเบี้ยประกันรถยนต์ 30,267.30 ล้านบาท และเบี้ยประกันนอนมอเตอร์ 3,005.22 ล้านบาท
ส่วนฐานะทางการเงินของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559 มีสินทรัพย์ 67,265.05 ล้านบาท มีเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมาย 17,979.50 ล้านบาท แต่บริษัทฯ มีเงินกองทุนสูงถึง 39,991.73 ล้านบาท คิดเป็น 222.43 % และมีกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล 2,192.62 ล้านบาท