6 มีนาคม 2560 : หุ้นไอเฟกภาคแรกก็ว่าเร้าร้อนแล้วกับ “ฆ่าได้แต่หยามไม่ได้” ไอเฟกภาคสองนี่ก็ไม่มีน้อยหน้าไปกว่ากันกับ “เล่นซ่อนหากรรมการที่รัก” ภาคนี้ร้อนซะจนหลังแทบไหม้ แต่ที่เด็ดกว่าอยู่ตรงนี้ ไอเฟกภาคสามกับ “มหาประลัยกับคนหัวหมอ” ภาคนี้เล่นเอาซะเจ้าหนี้ไอเฟก ผู้ถือหุ้นไอเฟก ถึงกับเกาหัวเบาๆแล้วถามว่า”อย่างนี้ก็ได้เหรอ…..?” ได้ไม่ได้ไม่รู้ แต่ที่รู้ๆคือ“หมอวิชัย”ทำไปแล้ว
หลายคนคงได้ติดตามเรื่องร้อนๆของธุรกิจพลังงานทดแทนอย่างไอเฟกไปพอสมควร จุดเริ่มต้นมาจากการแตกคอกันภายในธุรกิจระหว่างหมอวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ กับนายสิทธิชัย พรทรัพย์อนันต์ ถึงขั้นฟ้องร้องกันเลยทีเดียว ส่งผลให้ตั๋วเงินระยะสั่น หรือ บีอี ที่ครบกำหนดไม่สามารถชำระเงินคืนได้ ล่าสุด นายทวิช เตชะนาวากุล ผู้ถือหุ้นใหญ่ไอเฟกทนไม่ไหวก็ขอเข้ามาช่วยสางปัญหา แต่ทว่าทางหมอวิชัยไม่ยอมให้ผู้ใดมามีอำนาจเหนือตน ก็ใช้เทคนิคไปมา สุดท้ายก็ต้านแรงผู้ถือหุ้นไม่ไหวยอมให้กรรมการฝ่ายนายทวิชเข้ามามีบทบาทในบริษัทฯ
แต่อย่าคิดว่าจะเข้ามาง่ายๆนะ หมอยึกยักไปมากว่าจะนำเอกสารกรรมชุดใหม่ ไปขอขึ้นทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์ได้ก็ปาเข้าไปวันสุดท้าย ที่ทาง ก.ล.ต.กำหนด แต่อีกแหละ หลายคนเริ่มงงงวยว่าเกิดอะไรทำไมไม่รีบกระทำการจดทะเบียน เพื่อทีจะได้จัดประชุมบอร์ดแก้ปัญหา ฝั่งหมอรีบออกมาแจ้งทันทีว่า ที่ล่าช้าไม่ใช้ยื้อ แต่ต้องใช้เวลาตรวจเอกสารให้ละเอียดเพราะกลัวผิดพ.ร.บ.หลักทรัพย์และอีกอย่างทางกระทรวงพาณิชย์บอกว่ายังจดทะเบียนให้ไม่ได้ เพราะมีหลายบริษัทแจ้งมาเหมือนกัน จึงทำให้ไม่ทัน
งานนี้ก็ว่ากันไป แต่ก็ยังไม่คลายความสงสัยที่ว่า อยู่ๆเมื่อวันที่ 28 ก.พ.60 ที่ผ่านมา หมอวิชัย MOU ส่วนตัวในการขายโรงแรมดาราเทวี ให้กับกลุ่มกองทุนจีน มันช่างน่าสงสัยไหมละ กรรมการยังไม่ได้แต่งตั้ง แล้วหมอมีสิทธิอะไรที่ไป MOUส่วนตัวขายโรงแรมดาราเทวี ดูชอบกลยังไงๆ เจ้าหนี้ก็ไม่เข้าใจ ฝั่งผู้ถือหุ้นก็ยิ่งไม่เข้าใจ ทำไมไม่รีบจัดการเรื่องจดทะเบียนกรรมการชุดใหม่เพื่อแก้ปัญหาแต่กับมารีบขายโรงแรม ทั้งๆที่ขบวนการขายไม่ได้จบในขบวนการเดียวนะดูเหมือนกำลังเล่นปาฮี่อยู่ก็ไม่ป่าน
อย่างไรก็ตาม ที่แน่ๆเจ้าหนี้ไอเฟกไม่ปลื้ม เพราะแก้หนี้ล่าช้า ผู้ถือหุ้นก็ไม่ปลื้มเพราะเครื่องหมาย SP ก็ยังอยู่จะขายจะซื้อไอเฟกก็ไม่ได้ และยิ่งไปกว่านั้น ก.ล.ต.ถึงกับเอ่ยปากเลยว่า “ส่งจดหมายไปเตือนแล้ว ไม่ส่งจดหมายเตือนรอบสองแน่นอน และถ้ายังยื้อทำให้บริษัทเสียหาย เจอพ.ร.บ.หลักทรัพย์จัดการแน่”
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 27 ก.พ.60 ที่ผ่านมา นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ก.ล.ต. ยังคงเฝ้าติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นของบริษัทอินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ หากพบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นส่อแววยืดเยื้อและสร้างความเสียหายเพิ่มเติมต่อตัวบริษัท ก.ล.ต. อาจจะจำเป็นต้องลงโทษ IFEC ตามกฎของก.ล.ต. อย่างจริงจังตามเงื่อนไขของพ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ว่าด้วยเรื่องของการไม่ปฎิบัติหน้าที่ที่ควรกระทำและก่อความเสียหายให้กับบริษัทนั้นๆ ซึ่งทางก.ล.ต.มีความกังวลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพอๆกับทางเจ้าหนี้ IFEC เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม จากนี้ไปต้องมาดูว่า IFEC เดินหน้าจดทะเบียนกรรมการชุดใหม่ได้เร็วและไม่กระทบต่อตัวบริษัทหรือไม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง ก.ล.ต.เองได้ทำหนังสือเตือนไปยัง IFEC เรียบร้อยแล้วและจะไม่มีการส่งจดหมายเตือนเป็นครั้งที่ 2 แน่นอน “ปัญหาของ IFEC ที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องของเขาที่จะแก้ไข ต้องมาดูว่าตัวผู้บริหารเองไม่จดทะเบียนกรรมการชุดใหม่ ทำให้เกิดความล่าช้าแล้วเสียหายเพิ่มเติมหรือไม่ หากสร้างควาเสียหายเพิ่มเติม ก็จะลงโทษตามกฎของก.ล.ต. หากเขากระทำผิดเราก็ดำเนินการผู้กระทำผิด
ก่อนหน้านี้ทางก.ล.ต.ได้มีการส่งจดหมายเตือนไปแล้ว และไม่จำเป็นต้องส่งจดหมายเตือนเป็นครั้งที่สอง เพราะรอบเดียวก็ชัดเจนและเพียงพอ หากกระทำผิดก็จะมีโทษตามพ.ร.บ.หลักทรัพย์ ว่าด้วยการไม่ปฎิบัติหน้าที่ที่ควรกระทำและก่อความเสียหายให้กับบริษัท ซึ่งวานนี้(27ก.พ.)เป็นวันที่ครบในการจดทะเบียนกรรมการชุดใหม่เราก็ต้องมาดูกัน และการที่เจ้าหนี้กังวลก็สมควรกังวล ก.ล.ตก็มีความกังวลเช่นกัน” นายรพี กล่าว
