9 กุมภาพันธ์ 2560 : จากที่สมาคมโรงสีข้าวได้ทำหนังสือถึงปลัดกระทรวงพาณิชย์ ขอให้ช่วยแก้ปัญหาธนาคารกรุงไทยปรับนโยบายการให้วงเงินตั๋วระยะสั้นและแพ็กกิ้งสต๊อกที่เคยให้กับผู้ประกอบการโรงสีข้าวนั้น นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ในปัจจุบัน ธนาคารมียอดการปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้ากลุ่มนี้มากที่สุดในระบบธนาคารพาณิชย์สูงถึง 70,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 57 ของอุตสาหกรรม
และแม้ว่าตลาดข้าวในปี 2558-2559 มีความผันผวนอย่างหนัก ทำให้โรงสีข้าวหลายรายประสบปัญหาในการดำเนินธุรกิจ ส่งผลถึงการชำระหนี้ แต่ธนาคารก็ได้พิจารณาผ่อนปรนการชำระหนี้ให้ตามสภาพปัญหาของลูกค้าแต่ละราย รวมทั้งช่วยหาพันธมิตรทางการค้า เพื่อระบายสต๊อกข้าวสู่ตลาด
“สำหรับกลุ่มลูกค้าธุรกิจโรงสีข้าวที่ดำเนินธุรกิจตามปกติ ธนาคารไม่ได้เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการใช้วงเงินของลูกค้า แต่เนื่องจากภาพรวมภาระหนี้ของธุรกิจโรงสีของธนาคารมีจำนวนสูงถึงระดับที่จำเป็นต้องพิจารณาภาระหนี้โดยรวมให้อยู่ในระดับที่ไม่สูงเกินไป ดังนั้น ธนาคารจึงเน้นให้กู้เฉพาะโรงสีข้าวที่นำเงินไปซื้อข้าวจากชาวนาเพิ่ม เพราะต้องการให้เงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ นอกจากนี้ คณะกรรมการธนาคารยังได้อนุมัติให้ปล่อยกู้เพิ่มกับผู้ส่งออกข้าวอีก 5,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับอุตสาหกรรมข้าวทั้งระบบ”
นายผยง ศรีวณิช กล่าวต่อไปว่า วงเงินใหม่ 5,000 ล้านบาทนี้ จะช่วยให้สถานการณ์ข้าวในปัจจุบันดีขึ้น ช่วยระบายข้าวจากชาวนาในฤดูการผลิตใหม่ อย่างไรก็ตาม สำหรับเรื่องที่มีลูกค้าโรงสีข้าวหลายรายที่ไม่ยอมระบายสต๊อกหรือมีความกังวลเกี่ยวกับการเบิกเงินกู้ จึงชะลอการชำระหนี้คืนนั้น เป็นเรื่องที่ไม่เป็นผลดีต่อทั้งตนเองและภาพรวมอุตสาหกรรม นอกจากนี้ มีความจำเป็นที่สถาบันการเงินต่างๆ ควรพิจารณาร่วมให้การสนับสนุนสินเชื่อแก่ธุรกิจโรงสีข้าว ซึ่งเป็นตัวจักรสำคัญในอุตสาหกรรมข้าวด้วยเช่นกัน