7 มกราคม 2560 : จากข้อมูลของกรมการขนส่งทางบก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559 พบว่ามีรถที่จดทะเบียนใช้อยู่ในประเทศไทยประมาณ 37 ล้านคัน โดยเป็นรถจักรยานยนต์มากถึง 21 ล้านคัน โดยในจำนวนนี้มีรถจักรยานยนต์ที่จัดทำประกันภัย พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ประมาณ 13 ล้านคัน หรือประมาณร้อยละ 60 เท่านั้น ที่เหลืออีกกว่า 8 ล้านคันเป็นรถที่ยังไม่มีการทำประกันภัย พ.ร.บ.
รถที่ไม่มีประกันภัย พ.ร.บ. นอกจากผิดกฎหมายแล้ว!! เมื่อไปเกิดอุบัติเหตุทำให้ตนเองหรือบุคคลอื่นได้รับอันตรายบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จะทำให้เขาเสียสิทธิ ทำให้บุคคลที่ถูกกระทำเสียสิทธิ ไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย และจากข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุทางถนนพบว่ารถจักรยานยนต์เป็นประเภทรถที่เกิดอุบัติเหตุมากเป็นอันดับหนึ่ง
พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ เป็นกฎหมายที่บังคับให้เจ้าของรถทุกคันต้องจัดทำ เพื่อคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถทุกคนที่ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต โดยเป็นค่ารักษาพยาบาลหรือค่าสินไหมทดแทนแล้วแต่กรณี เพื่อให้ผู้ประสบภัยจากรถได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
โดยบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด เป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นโดยกฎหมาย พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ มีสาขาให้บริการอยู่ครบทุกจังหวัดทั่วประเทศ ทำหน้าที่ดูแลผู้ประสบอุบัติเหตุจากรถให้ได้รับความคุ้มครองตามที่กฎหมายกำหนด สามารถจ่ายค่าสินไหมทดแทน ตาม พ.ร.บ. ให้แก่ผู้ประสบอุบัติเหตุจากรถแทนบริษัทประกันภัยทุกบริษัทได้ ผู้ประสบอุบัติเหตุจากรถคันที่ทำประกันภัย พ.ร.บ.จะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่ ผู้โดยสารหรือคนเดินถนน
วงเงินความคุ้มครองตาม พ.ร.บ. กฎหมายกำหนด ให้บริษัทประกันภัยจ่ายทันทีภายใน 7 วัน โดยไม่ต้องรอพิสูจน์ว่าฝ่ายใดถูกหรือฝ่ายใดผิด เรียกการจ่ายนี้ว่า “ค่าเสียหายเบื้องต้น” แยกเป็นค่ารักษาพยาบาลตามการรักษาจริง ไม่เกิน 30,000 บาท และความเสียหายต่อชีวิต จ่ายเป็นค่าปลงศพ 35,000 บาทและเมื่อมีการพิสูจน์ความรับผิดแล้ว วงเงินคุ้มครองค่าสินไหมทดแทนสูงสุด (รวมค่าเสียหายเบื้องต้น) กรณีบาดเจ็บ จ่ายตามการรักษาจริงสูงสุด ไม่เกิน 80,000 บาท กรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร 300,000 บาท
สำหรับผู้ป่วยในจะได้รับค่าชดเชยการรักษาตัว 200 บาท/วัน ไม่เกิน 20 วัน (ยกเว้นผู้ขับขี่ที่เป็นฝ่ายผิด จะได้รับความคุ้มครองเฉพาะค่าเสียหายเบื้องต้นเท่านั้น) ดังนั้นหน้าที่ของเจ้าของรถทุกคันจะต้องจัดทำประกันภัย พ.ร.บ ถ้าเจ้าของรถฝ่าฝืนจะมีความผิด มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท ซึ่งหากผู้ใช้รถจักรยานยนต์ที่ไม่มีประกันภัย พ.ร.บ.เมื่อเกิดอุบัติเหตุก็จะไม่ได้รับความคุ้มครอง โดยเจ้าของรถต้องรับผิดชอบในค่ารักษาทั้งของตนเองและผู้เสียหาย และยังมีความผิดตามกฎหมายที่นำรถที่ไม่ได้จัดทำ พ.ร.บ.มาใช้มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท
รถจักรยานยนต์ ไม่ว่าจะเป็นรถใหม่หรือรถเก่าที่ใช้มานานเป็นสิบปี หากนำมาใช้ขับขี่ก็ต้องทำประกันภัย พ.ร.บ.กรณีที่มีเล่มทะเบียน ให้ใช้สำเนาบัตรประชาชนพร้อมเล่มทะเบียนในการทำ พ.ร.บ. แต่หากเป็นรถเก่าที่ไม่มีเล่มทะเบียนรถ ให้ขูดเลขตัวถังรถบริเวณคอรถพร้อมทั้งแนบบัตรประชาชนและเบอร์โทรศัพท์ เพื่อเป็นหลักฐานในการทำ พ.ร.บ. โดยเจ้าของรถจักรยานยนต์สามารถติดต่อหาซื้อ พ.ร.บ.ได้ที่บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ซึ่งมีสาขาทุกจังหวัด ทั่วประเทศ
นอกจากนี้บริษัทกลางฯ ยังได้เพิ่มช่องทางในการจำหน่าย พ.ร.บ.รถจักรยานยนต์ ให้กับประชาชนเพื่อเป็น การส่งเสริมให้ประชาชนสามารถเข้าถึงและหาซื้อ พ.ร.บ.รถจักรยานยนต์ได้ที่ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น (ที่มีสัญลักษณ์เคาร์เตอร์เซอร์วิส) ทั่วประเทศ ตลอด 24 ชั่วโมง หรือที่ตัวแทนบริษัทกลางฯ ทั่วประเทศ
สำหรับผู้ประสบภัยจากรถทุกคนจะได้รับสิทธิความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ สามารถติดต่อบริษัทกลางฯได้ที่ Call Center 1791 ตลอด 24 ชั่วโมง