12 ธันวาคม 2567 : เข้าโค้งสุดท้ายของปี 2567 หลายคนเตรียมวางแผนลดหย่อนภาษีกันมาหลายเดือนแล้ว โดยเฉพาะการลงทุนผ่านกองทุนรวมอย่าง กองทุนเพื่อความเลี้ยงชีพ (RMF) กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) และกองทุนเพื่อการออมระยะยาว (SSF) และอีกผลิตภัณฑ์ทางการเงินอีกอันที่ไม่ควรมองข้าม คือ ประกัน เพราะประกันสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ แล้วการเลือกประกันเพื่อรับสิทธิลดหย่อนภาษีในปี 2567 ควรเลือกอย่างไร เรามีคำตอบ…
การเลือกซื้อประกันเพื่อรับสิทธิลดหย่อนภาษีในปี 2567 ควรพิจารณา ดังต่อไปนี้
1. ประเภทประกันที่ลดหย่อนภาษีได้
สำหรับประกันชีวิต : ลดหย่อนภาษีได้ตามเบี้ยประกันที่จ่าย สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท
ประกันสุขภาพ : ลดหย่อนได้สูงสุด 25,000 บาท (รวมกับประกันชีวิตต้องไม่เกิน 100,000 บาท)
ประกันชีวิตแบบบำนาญ : ลดหย่อนสูงสุด 15% ของรายได้ หรือไม่เกิน 200,000 บาท
2. เป้าหมายทางการเงินส่วนตัว หากต้องการออมเงินระยะยาว เลือก ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ หรือ ประกันบำนาญ หากต้องการป้องกันความเสี่ยงด้านสุขภาพ เลือก ประกันสุขภาพ หรือ ประกันชีวิตควบสุขภาพ
3. เงื่อนไขการลดหย่อนภาษี ตรวจสอบว่าเบี้ยประกันที่จ่ายนั้นตรงตามเกณฑ์ของกรมสรรพากร หากเป็นประกันชีวิตหรือประกันสุขภาพ ต้องมีระยะเวลาคุ้มครองไม่น้อยกว่า 10 ปี
4. เปรียบเทียบข้อเสนอ ศึกษาและเปรียบเทียบเบี้ยประกันและผลประโยชน์จากบริษัทประกันภัยต่างๆ ตรวจสอบความมั่นคงของบริษัทประกัน และประวัติการจ่ายสินไหม
5.สิทธิประโยชน์เพิ่มเติม ดูว่าประกันที่เลือกมีสิทธิประโยชน์อื่นๆ เช่น คุ้มครองครอบคลุมการรักษาโรคร้ายแรง หรือผลตอบแทนการลงทุน
6. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หากไม่แน่ใจ ลองปรึกษานักวางแผนการเงินหรือผู้เชี่ยวชาญด้านประกันภัน หมายเหตุ: อย่าลืมจัดเตรียมเอกสารสำหรับยื่นลดหย่อนภาษี เช่น ใบเสร็จรับเงินค่าเบี้ยประกันและเอกสารประกอบจากบริษัทประกัน
คำแนะนำเกี่ยวกับประกันที่เหมาะสมและตอบโจทย์ความต้องการ
1. ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ จุดเด่น นั้นมุ่งเน้นออมเงินพร้อมรับผลตอบแทนเมื่อครบกำหนดลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท เหมาะสำหรับคนที่ต้องการการันตีเงินคืน ประกันสะสมทรัพย์ 10/10 หรือ 20/20 (ชำระเบี้ย 10 หรือ 20 ปี) บางแผนการันตีผลตอบแทนรวมถึง 3-4% ต่อปี
2. ประกันชีวิตแบบบำนาญจุดเด่น : ได้รับเงินบำนาญรายปีในวัยเกษียณลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15% ของรายได้ หรือไม่เกิน 200,000 บาท เหมาะสำหรับผู้วางแผนเกษียณ ตัวเลือกที่น่าสนใจ :ประกันบำนาญที่เริ่มจ่ายตั้งแต่อายุ 55-60 ปี และจ่ายต่อเนื่องจนถึง 85-90 ปี
3. ประกันสุขภาพ จุดเด่น:ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาท (รวมประกันชีวิตต้องไม่เกิน 100,000 บาท) ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความคุ้มครองด้านสุขภาพ ตัวเลือกที่น่าสนใจ: ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย เช่น เบี้ยเริ่มต้น 10,000-20,000 บาท/ปี ประกันโรคร้ายแรง (Critical Illness)
4. ประกันชีวิตควบการลงทุน (Unit Linked) จุดเด่น: ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท โอกาสสร้างผลตอบแทนสูงจากการลงทุนในกองทุนรวม เหมาะสำหรับคนที่รับความเสี่ยงการลงทุนได้ ตัวเลือกที่น่าสนใจ: ประกัน Unit Linked ที่สามารถปรับเปลี่ยนกองทุนได้ตามความต้องการ
ส่วนบริษัทประกันที่น่าสนใจ..มีหลากหลายบริษัทให้เลือก แล้วแต่ความชื่นชอบแบบประกันและคัดสรรแบบที่ตนเองสามารถเข้าถึงได้และผลประโยชน์ที่ได้รับตรงกับวัตถุประสงค์ในการออมเงิน รวมถึงสามารถลดหย่อนภาษีได้ตามอัตราที่กำหนด