12 กรกฎาคม 2567  :  นายดลเดช สัจจวีระกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึง ความสำคัญของตัวแทนประกันภัย ภายใต้หัวข้อ “บนเส้นทางวิชาชีพตัวแทน วันวาน> วันนี้> วันหน้า” เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์เกี่ยวกับหลักการดำเนินงานของตัวแทนประกันวินาศภัย ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการร่วมพัฒนาบริษัทฯ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน สู่แผนการพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานของตัวแทนฯ ในอนาคต ที่ยังคงเน้นการเข้าถึงลูกค้าโดยตรง ด้วยความซื่อสัตย์ จริงใจ และเป็นธรรม เป็นหลักพื้นฐาน โดยปีนี้มีเป้าหมายสร้างตัวแทนใหม่เพิ่มอีก 200 คน จากปัจจุบันที่มีจำนวนตัวแทนกว่า 3,000 คนทั่วประเทศ

"ตัวแทนถือว่าเป็นอาชีพที่ดี เป็นกำลังสำคัญในการร่วมพัฒนาบริษัทฯ ถ้าท่านใดรู้จักตัวแทนนายหน้า ลองไถ่ถามดู เนื่องจากอาชีพนี้ทำให้ชีวิตครอบครัวประสบความสำเร็จ ผมยืนยันว่าสิ่งที่ผมพูดในวันนี้เป็นเรื่องจริง และเป็นเรื่องที่เห็นการประสบความสำเร็จของตัวแทนนายหน้า ถ้าดูในมุมกว้าง ในกรุงเทพฯ อาจจะมองไม่ค่อยเห็น แต่ถ้าในต่างจังหวัดแทบทุกจังหวัดนับเป็นความสำเร็จของนายหน้าวิริยะประกันภัย

โดยทุกจังหวัดมีตัวแทนของเราที่เป็น ผู้บริหารและเป็นผู้กว้างขวางในจังหวัดนั้นๆ และได้รับการยอมรับของลูกค้าโดยรวม ส่วนหนึ่งเป็นการเสริมซึ่งกันและกัน ตัวแทนเสริมบริษัท บริษัทก็เสริมให้กับตัวแทน โดยทำธุรกิจร่วมกันด้วยความตรงไปตรงมา นี่คือความสำเร็จที่อยากจะเชิญชวนทุกท่านที่อยากจะเข้ามาสู่อาชีพนี้ และปีนี้บริษัทตั้งเป้าเพิ่มจำนวนตัวแทนอีก 200 ราย" นายดลเดชกล่าว

ปัจจุบัน จำนวนตัวแทนทั้งหมดกว่า 3,000 ราย นั้นแบ่งเป็น 40-50% ตัวแทนนายหน้าที่เพิ่งเริ่มเข้ามาทำงาน ซึ่งกลุ่มนี้บริษัทฯ เร่งสร้างสนับสนุนให้เขาแข็งแรง สนับสนุนสำนักงานให้เกิดความมาตรฐานขึ้น เพื่อให้ความสะดวกในการทำงานในอาชีพนี้อย่างจริงจัง ส่วนที่เป็นตัวแทนที่แข็งแรงอยู่แล้วก็จะเข้าไปช่วยดูว่าเขามีลูกหลานที่จะมาสืบต่ออาชีพนี้หรือไม่ เนื่องจากอาชีพนี้สามารถเป็นมรดกตกทอดได้  ถ้าหากเขามีผู้มารับช่วงงานต่อบริษัทฯ ก็ยังรักษาสิทธิ์ประโยชน์ให้ตัวแทน นี่คือมรดกชิ้นหนึ่งในอาชีพธุรกิจประกันภัย ซึ่งไม่ค่อยมีใครพูดถึง แต่ วิริยะประกันภัย สามารถสะท้อนให้เห็นได้อย่างชัดเจน

สำหรับกระแสของการแข่งขันจากความหลากหลายช่องทางการจำหน่ายนั้น นายดลเดช กล่าวเสริมว่า ตัวแทนจะต้องยึดความแข็งแกร่งของตัวเองเป็นหลัก อย่าไปใช้กระแสเป็นตัวปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน อะไรที่เคยสำเร็จต้องยึดแนวนั้นไว้ ในขณะเดียวกันเครื่องมือเครื่องใช้ให้ครบถ้วน ผมดูจากตัวเลขการขายผ่าน ON LINE ยืนยันว่าไม่ใช่ตัวเลขที่น่ากลัว เพราะลูกค้าอยากจะซื้อกับคนที่มีตัวตนจริง ให้คำปรึกษาได้มากกว่า ดังนั้น ตัวแทนนายหน้าต้องปรับตัวให้กระฉับกระเฉง เข้าไปพบลูกค้าให้มากขึ้น

ส่วนทางด้านตัวเลขการต่ออายุกรมธรรม์ของบริษัทฯปัจจุบันมีกว่า 80% และเป้าหมายการขยายการประกันภัยปี 2567 คาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้น 3% หรือเบี้ยประกันรับกว่า 4,000 ล้านบาท ซึ่งผ่านมา 6 เดือน (ม.ค.-มิ.ย.67) มีเบี้ยประกันรับแล้วกว่า 2,000 ล้านบาท

ทางด้าน นายวิชัยยุทธ เหลืองสุวรรณ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดองค์กร บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึง แบบประกันภัย "วิริยะตะกะฟุล" ภายใต้สโลแกน "คุ้มครองคุณ...อย่างคุ้มค่า" ว่า แบบประกัน "วิริยะตะกาฟุล" จัดตั้งขึ้นในปี 2566 รวมถึงมีการจัดตั้งคณะกรรมการชารีอะห์ โดยจุฬาราชมนตรี 4 ท่าน เป็นที่ปรึกษาเพื่อดูแลความถูกต้อง และนำเงินดังกล่าวไปลงทุนตามหลักศาศนาอิสลาม โดยผ่านทางธนาคารอิสลาม

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงจำนวนประชากรมุสลิมในประเทศไทยมีประมาณ 7-8 ล้านคน ขณะที่การประกันตะกะฟุลเพิ่งเริ่มดำเนินการเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา โดยเบี้ยประกันภัยรับเริ่มแรกยังมีน้อยทั้งระบบเพียง 4-5 ล้านบาทเท่านั้น แต่หลังจากนั้นก็เริ่มมีการเติบโตทีละเล็กทีละน้อยเรื่อยมาจนกระทั้งปัจจุบันมีเบี้ยประกันตะกะฟุลของอุตสาหกรรมประมาณ 100 ล้านบาท บริษัทจึงเริ่มหันมาขยายการรับประกันภัยตะกะฟุล โดยบริษัทตั้งเป้าหมายเติบโต 25% ของเบี้ยรวมอุตสาหกรรมตลาดหรือ 25 ล้านบาทภายในปีนี้

"การเข้ามาขยายตลาดประกันตะกะฟุลถือว่าวิริยะเข้ามาเป็นน้องเล็ก เนื่องจากปัจจุบันมีให้บริการแล้วประมาณ 4-5 บริษัท แต่ด้วยจุดแข็งในหลายด้านของวิริยะประกันภัย อาทิ การบริการที่เป็นเลิศ เครือข่ายหรือศูนย์สาขาครอบคลุมทั่วประเทศ จะมีส่วนช่วยผลักดันได้อย่างดี รวมถึงมีฐานลูกค้าเดิมปัจจุบันที่เป็นมุสลิม แต่ยังไม่ได้ใช้ประกันภัยที่ถูกต้องตามหลักศาสนา เมื่อเขาทราบว่าบริษัทฯ มีการบริการด้านนี้โดยตรง เขาก็ยินดีและเลือกที่จะเปลี่ยนจากกรมธรรม์แบบธรรมดาเป็น วิริยะตะกะฟุล รวมถึงยังช่วยบอกต่อในกลุ่มพี่น้องและเพื่อนๆ ให้อีกด้วย

ส่วนแบบประกันที่ส่งเสริมและตอบโจทย์กลุ่มนี้คือ การประกันภัยรถยนต์ส่วนบุคคลประเภท 3 ประเภท 5 รวมถึงแบบประกันอัคคีภัย ประกันภัยรถจักรยานยนต์ ลักษณะเบี้ยประกันภัยไม่เกิน 1,000 บาท ก็จะขยายตัวได้ดี แต่ถ้ามองขนาดเบี้ยประกันราคาเกิน 15,000 บาทนั้น ยังมีการขยายตัวไม่ได้มากนัก "นายวิชัยยุทธ กล่าวเสริม

ส่วนทางด้าน นางสาวกัญญา สุนทรวร ผู้จัดการฝ่ายการตลาดดิจิทัลและช่องทางพิเศษ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึง แบบประกันชั้น 1 PayLite จ่ายเท่าที่ขับ แบบประกันที่ตอบโจทย์สำหรับคนที่ใช้รถน้อย คุ้มครองเหมือนประกันชั้น 1 ทุกประการ โดยเบี้ยประกันภัยเริ่มต้นเพียง 4,850 บาท/ปี และจ่ายเพิ่มตามกิโลเมตรที่ใช้จริง หรือ 70 สตางค์/กิโลเมตร เมื่อลูกค้าซื้อกรมธรรม์ดังกล่าวก็จะมีเครื่อง GPS เสียบกับช่อง USB ในรถยนต์ เพื่อตรวจจับระยะทางการขับขี่

หลังจากนั้นลงทะเบียนผ่าน LINE หลงจากระบบคอนเน็คกันแล้วก็สามารถใช้งานได้ตลอด เมื่อสตาร์ตรถยนต์ขับออกไปเครื่องก็ทำงานวัดระยะทางที่ขับขี่ เมื่อถึงสิ้นเดือนจะมีใบเสร็จเตือนการใช้งาน สามารถชำระเงินผ่านบัตรเครดิตได้ทาง LINE โดยมีทุนประกันให้เลือกตั้งแต่ 1-5 แสนบาท โดยรถยนต์ต้องมีอายุ 2-15 ปี โดยมีเงื่อนไขข้อยกเว้นกรณี ประสบอุบัติเหตุเฉี่ยวชนโดยไม่มีคู่กรณี จะมีค่าเสียหายส่วนแรก 2,000 บาท

นางสาวจิราวรรณ อิ่มสิน ผู้จัดการฝ่ายการตลาด NON-MOTOR บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึง กรมธรรม์ V-MOTOR Add On แบบประกันที่ให้ความคุ้มครองกรณีที่รถชน และนำรถเข้าซ่อมเกิน 2 ชั่วโมงขึ้นไป บริษัทจะจ่ายค่าชดเชยให้สูงสุดถึง 3,000 บาท/ครั้ง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายถูกหรือฝ่ายผิด สูงสุดจ่ายให้ 5 ครั้ง/ปีกรมธรรม์ โดยมี 2 แผนคือ แผนแรกเบี้ยประกัน 500 บาท จ่ายความคุ้มครองให้ 2,000 บาท/ครั้ง และแผนที่สองเบี้ยประกัน 750 บาท ได้รับความคุ้มครองที่ 3,000 บาท/ครั้ง

"ผลิตภัณฑ์นี้เหมาะกับตัวแทนวิริยะที่เดิมให้บริการประกันรถยนต์อยู่แล้วและเริ่มที่จะขายประกัน NON-MOTOR เพราะสามารถขายคู่กับประกันรถยนต์ภาคสมัครใจได้เลย สำหรับรถยนต์ที่ให้บริการจะต้องเป็นรถยนต์ส่วนบุคคลสูงสุดไม่เกิน 7 ที่นั่ง โดยฐานลูกค้ารถยนต์ของวิริยะมีกว่า 1 ล้านกรมธรรม์หากผลิตภัณฑ์ตัวนี้เข้าไปเสริมสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ดีมาก โดยคาดว่าปีนี้จะมีเบี้ยประกันรับที่ 100-150 ล้านบาท" นางสาวจิราวรรณ กล่าว