WELCOME TO SEQUEL ONLINE (ซีเคว้ล ออนไลน์)
วันอาทิตย์ ที่ 24 พฤศจิกายน 2567 ติดต่อเรา
ESG กับความหวังของโลก

10 กรกฎาคม 2567 : ความสาหัสของโลกร้อน ทำให้เป็นวาระแห่งโลกที่ต่างพากันเร่งดูแลทรัพยากรธรรมชาติแบบเร่งด่วน พร้อมกับลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (net zero) และจะเกิดขึ้นได้เมื่อก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดที่ปล่อยจากกิจกรรมของมนุษย์มีภาวะ ‘สมดุล’ กับการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่สะสมอยู่ในชั้นบรรยากาศของโลก

ขณะเดียวกันเทรนด์การพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน ESG : Environmental (สิ่งแวดล้อม) Social (สังคม) และ Governance (ธรรมาภิบาล) ยังคงเป็นกระแสหลักในยุคปัจจุบัน ยิ่งไปกว่านั้นในปี 2567 จะมีความเข้มข้นสูง เพราะผู้บริโภคนักลงทุนต่างให้ความสำคัญกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลกันมากขึ้นเรื่อยๆ ธุรกิจที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกขาดความรับผิดชอบต่อสังคมเสี่ยงถูกโจมตี ยิ่งเมื่อโลกให้ความสำคัญกับเรื่องของสิ่งแวดล้อม จนเกิดกฎระเบียบเพื่อให้ธุรกิจช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จึงเลี่ยงไม่ได้ที่ธุรกิจจะต้องให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม

โดยนางสาวธิดาศิริ ศรีสมิต รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (KAsset) กล่าวถึงความสำคัญของ ESG ต่อการลงทุนผ่านกองทุนรวม ว่า สำหรับภาพรวมกองทุน ESG ในประเทศไทย ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2567 มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) ของกองทุนรวมในประเทศไทยที่มีกลยุทธ์การลงทุนเน้นปัจจัยด้าน ESG มีจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 7 หมื่นล้านบาท หรือ 1.3% ของมูลค่า AUM กองทุนรวมทั้งหมดที่ 5.3 ล้านล้านบาท (ที่มา: สมาคมบริษัทจัดการลงทุน)

โดยประมาณ 60% เป็นกองทุนรวมประเภท Feeder Fund ที่ลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ ซึ่งได้รับความนิยมและมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปี 2564 กว่า 3 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ก่อนหน้าปี 2564 กองทุนรวมที่มีกลยุทธ์เน้นทางด้าน ESG ส่วนใหญ่จะเป็นกองทุนในประเทศและเน้นปัจจัยด้านธรรมาภิบาลเป็นหลัก เนื่องจากในอดีตการเปิดเผยข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนไทยรวมถึงตัวชี้วัดในด้านสังคม (Social) และสิ่งแวดล้อม (Environmental) เพื่อนำมาใช้ในการประวิเคราะห์และประเมินมีค่อนข้างจำกัดเมื่อเปรียบเทียบกับประเด็นในด้านธรรมาภิบาล (Governance)

ต่างกับในภูมิภาคยุโรปหรืออเมริกาที่ประเด็นด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมได้รับความสนใจเป็นวงกว้าง ซึ่งส่วนหนึ่งอาจจะมาจากค่านิยมและวัฒนธรรมที่ให้ความสำคัญรวมถึงระดับการพัฒนาการทางเศรษฐกิจ ประกอบกับหน่วยงานที่กำกับดูแลได้มีการเริ่มออกกฏเกณฑ์การเปิดเผยข้อมูลและบังคับใช้แล้วมาเป็นระยะเวลาหนึ่งซึ่งทำให้การเข้าถึงข้อมูลทำได้ง่าย

ดังนั้นปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมจะเป็นที่นิยมในการนำมาใช้ในการกำหนดกลยุทธ์การลงทุนแบบ ESG โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ทวีความรุนแรงขึ้น ในช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา และส่งผลกระทบต่อชีวิตและความเป็นอยู่เป็นวงกว้าง

สำหรับการเติบโตของกองทุนรวมที่มีกลยุทธ์ที่เน้นด้าน ESG ที่ลงทุนในตลาดหุ้นไทย ทั้งในด้าน AUM และจำนวนกองทุนไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงมากนักจากปี 2561 ภายหลังมีการจัดตั้งกองทุน Thai CG ธรรมาภิบาลไทยซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่าง 11 บลจ. ภายใต้การนโยบายการลงทุนที่เน้นเรื่องธรรมาภิบาลและการต่อต้านคอร์รัปชั่น จนมาถึงปลายปี 2566 ที่ทางรัฐบาลได้ออกมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืน

โดยมีการอนุมัติจัดตั้งกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) ซึ่งมีสิทธิพิเศษในการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในวงเงินไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ทำให้อุตสาหกรรมมีการออกกองทุน Thai ESG มาเสนอขายผู้ลงทุนกว่า 30 กองทุน โดย ณ สิ้นเดือน พฤษภาคม 2567 ทั้งอุตสาหกรรมมีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิรวมกว่า 6.8 พันล้านบาท

อย่างไรก็ตาม มูลค่ากองทุนรวมในประเทศไทยที่มีกลยุทธ์การลงทุนเน้นปัจจัยด้าน ESG ยังมีสัดส่วนที่ค่อนข้างต่ำคิดเป็นแค่ประมาณ 1.3% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวมกว่า 5.3ล้านล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับสัดส่วนของการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนทั่วโลกที่คิดเป็น 24.4% ของมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารทั้งหมด ณ สิ้นปี 2565 ที่ 124.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ (ที่มา: อ้างอิงจาก Global Sustainable Investment Review 2022 by GSIA) ข้อมูลภาพรวมของโลกสำหรับกองทุน Sustainable Investment อาจแตกต่างกันขึ้นกับแหล่งที่มาและวิธีการรวบรวม

ภายหลังจาก บลจ. กสิกรไทยมีการออกกองทุนเปิดเค Target Net Zero หุ้นไทย ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืน (K-TNZ-ThaiESG) ไปเมื่อปลายปี 2566 ซึ่งเป็นกองทุนแรกของไทยที่ใช้กลยุทธ์การลงทุนมีเป้าหมายในการช่วยสนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ในขณะที่มุ่งสร้างผลตอบแทนของกองทุนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี SET100 TRI

โดยในช่วงเดือนมีนาคม 2567 ทางบริษัทจัดการได้มีการจัดตั้งกองทุนในรูปแบบกองทุนเปิดทั่วไปชื่อ กองทุนเปิดเค Target Net Zero หุ้นไทย-A ชนิดสะสมมูลค่า หรือ K-TNZ-A(A) เพื่อเป็นทางเลือกการลงทุนเพิ่มเติมจากกองทุนประเภทภาษีในกลยุทธ์เดียวกัน ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2567 ทั้ง 2 กองทุนมีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิรวมกันประมาณ 1.5 พันล้านบาท โดยกองทุน K-TNZ-ThaiESG มีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 1 ของอุตสาหกรรมในกลุ่มกองทุน ThaiESG

อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและสังคมที่ยั่งยืนมีความต้องการใช้เงินทุนจำนวนมหาศาล อีกหนึ่งในแหล่งการระดมทุนที่ได้รับความสนใจ นั่นคือ การออกตราสารหนี้ด้านความยั่งยืน หรือ ESG Bond ซึ่งในประเทศไทยมีการออกทั้งจากภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง และมีการเติบโตอย่างชัดเจน ทาง บลจ. กสิกรไทยจึงได้ออกเสนอกองทุน ThaiESG กองที่ 2 คือ“K-ESGSI-ThaiESG” เพื่อเป็นทางเลือกเพิ่มเติมให้กับนักลงทุน โดยกองทุน K-ESGSI-ThaiESG เป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ มีนโยบายการลงทุนที่เน้นลงทุนตราสารหนี้ภาครัฐของไทยในกลุ่มความยั่งยืนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% 

การเงิน ดูทั้งหมด



COPYRIGHT © 2016 SEQUEL ONLINE. ALL RIGHTS RESERVED.
FOLLOW UP