4 กรกฎาคม 2567 : จากการปรับลดลงของราคารถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในประเทศไทย อาจจะส่งผลกระทบร้ายแรงกับบริษัทประกันภัย จนเกิดความเสี่ยงและความเสียหายร้ายแรงที่ไม่คาดคิดก็เป็นได้
เมื่อวันที่ 2 กรกฏาคม ค่ายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ยักษ์ใหญ่อย่าง BYD ประกาศปรับลดราคาครั้งใหญ่
● BYD ATTO 3 ลดราคาสูงสุดกว่า 340,000 บา
● ต่อเนื่องจากก่อนหน้านี้ที่ BYD DOLPHIN ลดราคาไปกว่า 160,000 บาท
โดยรถทั้ง 2 รุ่นถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้า (EV) รุ่นฮิตที่มียอดจดทะเบียนสูงมากในช่วงปี 2566 อีกด้วย เกิดผลกระทบแง่ลบกับความรู้สึกของเจ้าของรถทั้ง 2 รุ่น ที่ซื้อมาก่อนจะประกาศลดราคาและอาจจะเกิดความไม่มั่นใจให้กับคนที่กำลังจะออกรถยนต์ไฟฟ้า (EV) มากพอสมควร
แต่จริงๆแล้ววงการที่จะโดนผลกระทบจากการปรับราคารถยนต์ไฟฟ้า (EV) ลงอย่างมากในครั้งนี้ อาจจะเป็นบริษัทประกันภัยที่รับประกันรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในปัจจุบันก็เป็นได้ โดยสถานการณ์ในตอนนี้มีความเสี่ยงสูงมากที่จะเกิด ‘Moral Hazard’ หรือ ‘การจงใจเกิดอุบัติเหตุ’ สาเหตุมาจาก ทุนประกันที่สูงเกินกว่าราคารถใหม่ ยกตัวอย่างดังนี้ครับ
● หากเราซื้อ BYD ATTO 3 เมื่อปีที่แล้ว ทำประกันชั้น1 จะได้ ทุนประกันอยู่ราวๆ 900,000 บาท
● แต่ล่าสุดในปี 2567 หลังจากการปรับราคาลงนี้ เราสามารถซื้อ BYD ATTO 3 คันใหม่ได้ในราคา 859,900 บาท
จะเห็นว่าทุนประกันของรถ BYD ATTO 3 หลายๆคันในปัจจุบัน มีความเป็นไปได้ว่าจะสูงกว่าหรือเท่ากับราคาออกรถ BYD ATTO 3 ใหม่ในปีนี้ ถ้าหากมีกลุ่มลูกค้าที่รู้สึกว่าเสียเปรียบจากการลดราคาของ BYD ในครั้งนี้ แล้วต้องการจะถอนทุนคืน อาจจะมีช่องทางที่สามารถทำได้ คือการ ‘จงใจนำรถไปเกิดอุบัติเหตุจนคืนทุนประกัน’
โดยถ้าหากรถเกิดอุบัติเหตุจนไม่สามารถซ่อมได้ หรือ เสียหายสิ้นเชิง บริษัทประกันภัยจะต้องคืนเงินทุนประกันภัย 100% ให้กับเจ้าของรถ นั่นหมายความว่า ถ้าทำประกันไว้ มีทุนประกันมูลค่า 900,000 บาท ก็จะได้เงินคืน 900,000 บาทเต็มจำนวน หลังจากนั้นเจ้าของรถก็อาจจะนำเงินที่ได้ไปซื้อรถใหม่ได้ในราคา 859,900 บาทก็ได้
โดยเฉพาะกับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่แค่ชนโดนแบตเตอรี่ก็อาจจะทำให้ไม่สามารถซ่อมได้จนเกิดการคืนทุนประกัน ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงที่เจ้าของรถอาจจะมีแรงจูงใจในการ ‘จงใจนำรถไปเกิดอุบัติเหตุจนคืนทุนประกัน’ เพิ่มมากขึ้นไปอีกก็เป็นได้
เราจึงเห็นบริษัทประกันภัยอย่าง คุ้มภัยโตเกียวมารีน รีบออกมาประกาศเกี่ยวกับการระงับอัตราเบี้ยที่เคยใช้ชั่วคราว และต้องทำการปรับเบี้ยและทุนประกันใหม่หมดนั่นเอง
นี่คือจุดที่วงการและบริษัทประกันภัยจำเป็นต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก ถ้าไม่อยากให้เกิดความเสียหายที่ไม่คาดคิดในระดับวิกฤติ โดยถ้ามีการลดราคารถยนต์ไฟฟ้า (EV) ลงแบบนี้อีกเรื่อยๆ และเกิดการเคลมคืนทุนประกันแบบไม่คาดคิด คำว่า ประกันรถยนต์ไฟฟ้าจะซ้ำรอยประกันโควิด ก็อาจจะใกล้เคียงความจริงขึ้นมาก็ได้ครับ 
