กรุงเทพฯ ประเทศไทย, 4 กรกฎาคม 2567 : สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) หรือ Hakuhodo Institute of Life and Living ASEAN (THAILAND) จัดทำผลสำรวจฉบับพิเศษเรื่องการคาดการณ์พฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในประเทศไทยประจำเดือนมิถุนายน พ.ศ.2567 โดยในการทำผลสำรวจฉบับพิเศษครึ่งปีแรกนี้ เผยให้เห็นถึงกระแสความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตามเทรนด์ ด้วยมุมมองใหม่และกระแสใหม่นี้ ทำให้ภาพรวมคะแนนความต้องการในการใช้จ่ายของคนไทยในครึ่งปีแรกมีค่าเฉลี่ยที่สูงขึ้นว่าปีที่ผ่านมา โดยอยู่ที่ 66 คะแนน ในขณะที่ช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 64 คะแนน
ผลสำรวจฉบับนี้ นับว่าเป็นผลสำรวจฉบับพิเศษที่รวบรวมผลรวมจากครึ่งปีแรก ภาพรวมสดใสกว่าปีที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับผลสำรวจประจำเดือนมิถุนายน พ.ศ.2566 โดยเฉพาะในเทศกาลต่าง ๆ ที่คนไทยได้ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ผ่านประสบการณ์ใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลตรุษจีนหรือเทศกาลสงกรานต์ที่จัดงานอย่างยิ่งใหญ่ และล่าสุดกับการฉลอง Pride Month ที่จัดขึ้นทั่วประเทศในฐานะ Top Pride Friendly Destination สำหรับชาว LGBTQ+ ทั่วโลก ทั้งที่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ พัทยา ภูเก็ต และเกาะสมุย โดยมีทั้งการเดินขบวนพาเหรด การแต่งตัวอย่างสร้างสรรค์ และการจัดนิทรรศการศิลปะ
ด้วยกระแสใหม่และเทรนด์ใหม่ที่กำลังเป็นที่น่าจับตามอง คุณธีรเมศร์ นิติจรรยาวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ ได้ให้คำแนะนำกับแบรนด์ต่าง ๆ เพื่อนำไปปรับใช้ให้เข้ากับความต้องการของผู้บริโภคไว้ 3 ข้อใหญ่ ดังนี้
1. BrandFest: Celebrate the values that brand believes in.
เทศกาลต่างๆ นับว่าเป็นโอกาสสำคัญในการจับจ่าย ด้วยโอกาสนี้แบรนด์สามารถสร้างโอกาสในการขายได้ด้วยการสร้างเทศกาลประจำแบรนด์ขึ้นมา เพื่อสร้างภาพที่น่าจดจำและเปิดประสบการณ์ใหม่ เพื่อสะท้อนค่านิยมและความเชื่อของแบรนด์ เช่น Equlity Festival มหกรรมลดเท่ากันทั้งร้าน โดยเป็นการส่งเสริมความเท่าเทียม
2. Emphasize Thainess: Set brand’s communication mood & tone with Thai identity.
การเชื่อมโยงแบรนด์กับคนไทยด้วยความเป็นไทย โดยแบรนด์สามารถเพิ่มคาแรคเตอร์แบบไทย ๆ ให้กับตัวตนของแบรนด์ได้ เช่น ความเป็นมิตร ความใจดีและอารมณ์ดี หรือการเปิดกว้างในการรับสิ่งใหม่ ๆ เช่น การทำ Realtime Marketing Implication เติมลูกเล่นเพิ่มสีสันในการพูดคุยกับแฟนเพจด้วยศัพท์ใหม่ที่ฮิตติดกระแส
3. New wave of Mutelu: Adopt Mutelu to be one of brand’s signature.
เรื่องมู ๆ เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่อยู่คู่กับคนไทยสายมูเตลู โดยเฉพาะเมื่อคนไทยยังต้องเจอกับความไม่แน่นอนในสังคม ดังนั้น แบรนด์สามารถใช้โอกาสนี้ในการก้าวไปสู่การเป็นที่พึ่งทางใจให้กับคนไทย ผ่านการเชื่อมโยงเรื่องมู ๆ ให้มาเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์แบบถาวร เช่น Annual Mutelu Trip หรือทริปไหว้ แวะ เที่ยว เสริมความปัง รับนักษัตรใหม่
นอกจากการให้คำแนะนำกับแบรนด์ต่าง ๆ แล้วนั้น การทำผลสำรวจฉบับพิเศษนี้ สามารถชี้มุมมองอินไซด์ของคนไทยผ่านสิ่งใหม่ ๆ ที่ทำให้แนวโน้มหลาย ๆ อย่างของคนไทยมีการปรับเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลต่าง ๆ ที่ประเทศไทยได้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อเพิ่มโอกาสในการท่องเที่ยวและการจับจ่ายเพื่อเติมความสุขของคนไทย รวมไปถึงข่าวสารบ้านเมืองที่เกิดขึ้นรายวัน มีส่วนช่วยกระตุ้นความสนใจให้กับคนไทยเป็นอย่างมาก โดย คุณกรรณ ทองศรี ผู้จัดการส่วนวางแผนกลยุทธ์ ได้เผยข้อมูลที่น่าสนใจไว้ดังนี้
1. เปิดประสบการณ์ที่มากกว่า ช่วยกระตุ้นคนไทยใช้จ่ายมากขึ้น!
ภาพรวมครึ่งแรกของปีนี้ กลับมามีสีสันและคึกคักกว่าที่เคย ด้วยโอกาสที่เปิดกว้างมากยิ่งขึ้น ทำให้คนไทยสามารถเอ็นจอยกับประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น กางเกงช้าง ที่กลับมาฮิตติดกระแสจากการโปรโมทของรัฐบาล รวมไปถึงความฮอตของกระแส Art Toy ที่กำลังเป็นที่นิยมในวงกว้าง ยังรวมไปถึงประสบการณ์ความบันเทิงต่าง ๆ ทั้งจากศิลปินจากไทย เกาหลี และตะวันตก ที่มาจัดแสดงคอนเสิร์ตกันไว้เว้นแต่ละเดือน ส่งผลให้ภาพรวมค่าเฉลี่ยในการช้อปของคนไทยปรับตัวขึ้นมาเป็น 66 คะแนน ในขณะที่ช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 64 คะแนน
2. บรรยากาศสดใส แต่ใจยังสุขไม่สุด ภาพรวมคะแนนความสุขคนไทยทรงตัว ไม่เพิ่ม ไม่ลด
ในครึ่งปีแรกนี้ ความสุขของคนไทยยังคงทรงตัว ด้วยปัจจัยหลายอย่างที่เข้ามาช่วยฟื้นฟูจิตใจของคนไทย แต่ก็ยังมีปัจจัยแฝงที่ทำให้คนไทยมีความสุขได้อย่างไม่เต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและสังคม ข่าวสารบ้านเมืองที่เกิดขึ้นรายวัน ยังนับว่าเป็นความท้าทายหลักของคนไทย โดยเฉพาะค่าครองชีพที่สูงขึ้นและอากาศที่ร้อนจากปรากฎการณ์เอลนีโญ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความสุขของคนไทย
3. ต่างวัย ต่างใจ ต่างจ่าย: เทศกาล เป็นโอกาสจับจ่ายสำคัญสำหรับตัวเองและครอบครัว
กว่าครึ่งของคนไทยใช้ช่วงเวลาเทศกาลเป็นโอกาสและเหตุผลพิเศษในการใช้จ่าย และที่น่าสนใจคือ 29% เน้นใช้จ่ายเพื่อ self-love และยังมีอีกจำนวนไม่น้อยที่เลือกใช้จ่ายเพื่อ family-love และเมื่อแยกเป็นภาพรวมความต้องการใช้จ่ายตามช่วงอายุ จะเห็นได้ว่า วัย 40-49 ปี เน้นใช้จ่ายช่วงเทศกาลตามธรรมเนียมประเพณีรวมไปถึงการใช้จ่ายเพื่อคนในครอบครัว และวัย 20-29 ปี มีแนวโน้มหยุดพักการใช้จ่ายเพื่อรอจังหวะที่เหมาะสมหรือช่วงเวลาแห่งโปรโมชัน
ในส่วนท้ายของผลสำรวจในครั้งนี้ สถาบันวิจัยฮาคูโฮโด อาเซียน ประเทศไทย ยังแสดงให้เห็นถึงความสนใจของคนไทยในช่วงครึ่งปีแรก เมื่ออ้างอิงจากกระแส และแทรนด์ใหม่แล้วนั้น ยังมีเรื่องที่ทำให้คนไทยเป็นกังวล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปัญหาอากาศและมลภาวะเป็นพิษที่ยังแก้ไม่หาย ข่าวสารรายวันเรื่องศีลธรรม รวมไปถึงความรุนแรงทางสังคม แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีเรื่องที่ทำให้คนไทยใจฟู ไม่ว่าเทรนด์ใหม่จะมาเยอะแค่ไหนคนไทยก็พร้อมอินทุกกระแส เช่น Art Toy หรือเพลงเมร่อน ที่กำลังมาแรงในตอนนี้