30 พฤษภาคม 2567 : ต้องยอมรับว่าหุ้น บริษัท NVIDIA CORPORATION (NVDA) หนึ่งใน 7 หุ้นนางฟ้าสหรัฐฯ ที่แบกตลาดหุ้นสหรัฐฯและแบกความคาดหวังของนักลงทุนไว้พอสมควร ช่วงระหว่างรอการประกาศผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1 และก็ไม่ได้ทำให้นักลงทุนผิดหวังจริงๆ เมื่อ Nvidia กำไรออกมาดีกว่าตลาดคาด ทำให้หุ้นกลุ่ม AI ยังดูสดใส

ทางบริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวส เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ระบุว่า Nvidia ได้เปิดงบ ไตรมาสแรกปี 2024 และให้คาดการณ์ดีกว่าคาดโดยมีแรงหนุนหลักจากกลุ่ม Data Center ซึ่งสะท้อนได้ว่าอุปสงค์ AI ยังแกร่ง รวมถึงมีแนวโน้มดีจากการใช้จ่ายของลูกค้า โดย Nvidia มีรายได้ใน ไตรมาสแรก ปี 2024 พุ่งขึ้น 262% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ดีกว่าคาด หนุนจาก Data Center +428% สะท้อนความต้องการ AI ที่แกร่ง ขณะที่ธุรกิจอื่นมีภาพการฟื้นตัวดีขึ้น Gaming +16% Professional Visualization +45% Automotive +11%

ด้านกำไรต่อหุ้นและอัตรากำไรขั้นต้นแกร่งและสูงกว่าคาดอยู่ที่ $6.12 และ 78.9% ด้านคาดการณ์รายได้ 2Q24 สูงกว่าคาดที่ $28bn รวมถึงเพิ่มเงินปันผลขึ้น 150% เป็น $0.10 ต่อหุ้น และแบ่งหุ้นในอัตรา 10 ต่อ 1 เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง แม้มองว่า ผลตอบแทนจะเริ่มจำกัดลงจากการเติบโตชะลอตัวใน 2Q2024 แต่อย่างไรก็ดีด้วยภาพความต้องการ AI ที่แกร่งและการที่ลูกค้ายังคงเพิ่มการใช้จ่ายอยู่ ทำให้เราเชื่อว่าการเติบโตจะยังคงอยู่สูงกว่า Peer และอยู่ในระดับ 3 หลักต่อเนื่อง ซึ่งภาพนี้น่าจะเพียงพอลดเเรงกดดันเรื่อง Valuation ที่สูงได้ ประกอบกับด้วยภาพการฟื้นตัวของธุรกิจอื่นที่เริ่มสม่ำเสมอขึ้นทำให้เรามองว่าหุ้นยังคงมี Upside อยู่

ด้วยภาพนี้ทำให้มองว่ายังคงสามารถลงทุนได้ แต่ต้องรอจังหวะที่ราคาย่อตัวลง ประกอบกับด้วยภาพราคาหุ้นที่ปรับตัวสะท้อนข่าวดีมาแล้วระดับหนึ่งและแนวโน้มราคาที่ผันผวนจากความคาดหวังที่สูง จึงแนะเก็งกำไรอย่างระมัดระวัง นอกจากนี้ ชอบ TSMC, NVDA, MSFT, GOOGL, AMZN ที่มีสถานะที่ดีในการเติบโตของ AI โดยราคาเป้าหมายจาก Bloomberg ต่อหุ้น NVDA อยู่ที่ 1,111.65 USD

สำหรับหลังจาก NVDAเป็น1ในหุ้น 7 นางฟ้า และที่ผลงานที่ออกมาดีมาก แล้วผลการดำเนินงานของธุรกิจหุ้น7นางฟ้า(NVDA, META ,GOOG ,AMZN ,MSFT ,AAPL ,TSLA) เป็นอย่างไรบ้าง ทางบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (KS) ได้รวบรวมไว้อย่างน่าสนใจ

สำหรับธุรกิจ Data Center : มีรายได้ 22.6 พันล้านดอลลาร์ โต 427% จากแพลตฟอร์ม Blackwell, DGX SuperPOD มีการเปิดตัวแพลตฟอร์ม Blackwell และ DGX SuperPOD สำหรับคำนวณปัญญาประดิษฐ์ขนาดใหญ่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง NVIDIA Quantum, Spectrum X800 Switches ร่วมมือ TSMC, Synopsys ในการพัฒนาการผลิตซีมิคอนดักเตอร์ คอมพิวเตอร์สมรรถนะสูงใช้ชิป Grace Hopper พร้อมขยายพันธมิตรกับ AWS, Google, Microsoft, Oracle และร่วมงานกับ Johnson & Johnson ในการผ่าตัด

ธุรกิจ Gaming และ AI PC : รายได้ 2.6 พันล้านดอลลาร์ โต 18% มีการ เปิดตัวเทคโนโลยีเกม ACE และ Neural Graphics พร้อมปรับปรุงประสิทธิภาพปัญญาประดิษฐ์บน Windows สำหรับพีซี GeForce RTX และประกาศเกมใหม่ๆ ที่ใช้เทคโนโลยี RTX นวมถึง เพิ่มรองรับโมเดล Gemma สำหรับ ChatRTX บนพีซี RTX

ธุรกิจ Professional Visualization : มีรายได้ 427 ล้านดอลลาร์ โต 45% โดยเปิดตัวจีพียูแล็ปท็อปรุ่นใหม่ RTX 500, RTX 1000 พร้อมกับเปิดตัว RTX A400, A1000 สถาปัตยกรรม Ampere นอกจากนี้ เปิดตัว Omniverse Cloud APIs ขับเคลื่อนซอฟต์แวร์ดิจิทัลทวิน และนำ APIs Earth-2 ไปใช้จำลองสภาพภูมิอากาศโดย The Weather Company

ธุรกิจ Automotive และ Robotics : มีรายได้ 329 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 11% โดย BYD, XPENG, Nuro ใช้แพลตฟอร์ม DRIVE Thor พร้อม Blackwell GPU ส่วน Lucid, IM Motors ใช้ DRIVE Orin สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรป พร้อมกับ นำปัญญาประดิษฐ์แบบกำเนิดมาเพิ่มประสบการณ์บนรถยนต์ และเปิดตัว Project GR00T โมเดลปัญญาประดิษฐ์สำหรับหุ่นยนต์และอัปเดต Isaac Robotics

ส่วนกลยุทธ์ลงทุน บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด แนะนำ ลงทุนในกองทุนที่มีสัดส่วนการลงทุนในอุตสาหกรรม AI เช่น กอฃทุนTISCOAI โดยกองทุนTISCOAI ลงทุนในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว และกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ที่ดำเนินธุรกิจหลักเกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) การประมวลผลข้อมูล (Data Processing) และความปลอดภัยของข้อมูล (Data Security) โดยกองทุนได้คัดเลือกหุ้นที่มีสิทธิบัตรด้าน AI ถึง 88 บริษัทจาก 1,853 บริษัทในดัชนี Nasdaq และเน้นลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่มากกว่าหุ้น Growth ส่งผลให้ผลตอบแทนในช่วงที่ผ่านมาโดดเด่น

ปัจจัยที่สนับสนุนหุ้นกลุ่มนี้ คือ มองว่า ดัชนีหุ้นโลก MSCI ACWI นำโดย S&P 500 กลับมา All-time-high อีกในไตรมาส 2 ส่วนราคาน้ำมันหยุดเทรนด์ขาขึ้น จากการที่สหรัฐฯกลับมาผลิตน้ำมันได้จำนวนมาก พร้อมคาดหุ้นโลกสไตล์เติบโตกลับมา Outperform โดยเฉพาะ AI Theme โดยผู้ชนะในอุตสาหกรรมนี้ คือเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา, ผู้ผลิตชิป และ Cloud Provider ขณะที่หุ้นพลังงาน และหุ้นสไตล์ Value จะเข้าสู่ช่วง Underperform

นอกจากนี้ ได้เปิดรายชื่อกองทุนที่ลงทุนในหุ้น NVDA ในสัดส่วนสูง เพื่อเป็นหนึ่งในทางเลือกลงทุนของนักลงทุน ประกอบด้วย

1.กองทุนเปิดอีสท์สปริง US Information Technology (ES-USTECH) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง จำกัด มีสัดส่วนลงทุนประมาณ 17.5%

2.กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Semiconductor (ชนิดสะสมมูลค่า) (SCBSEMI(A)) และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Semiconductor (ชนิดเพื่อการออม) (SCBSEMI(SSF)) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด สัดส่วนประมาณ 10.4%

3.กองทุนเปิด MEGA 10 ชนิดสะสมมูลค่า (MEGA10-A) -A กองทุนเปิด MEGA 10 ชนิดเพื่อการออม (MEGA10-SSF) และกองทุนเปิด MEGA 10 เพื่อการเลี้ยงชีพ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทาลิส จำกัด สัดส่วนประมาณ 9.4%

4.กองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลเทคโนโลยีอิควิตี้-สะสมมูลค่า (KFGTECH-A) กองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลเทคโนโลยีอิควิตี้เพื่อการเลี้ยงชีพ (KFGTECHRMF) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด สัดส่วนประมาณ 9.2%

5.กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โรโบติกส์ & อาร์ติฟิเชียล อินเทลลิเจนซ์ อีทีเอฟ (UBOT) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ยูโอบี จำกัด สัดส่วนประมาณ 9.1%

6.กองทุนเปิดเค ยูเอสเอ หุ้นทุน-A ชนิดสะสมมูลค่า(K-USA-A(A)) กองทุนเปิด เค ยูเอสเอ หุ้นทุน-A ชนิดจ่ายเงินปันผล (K-USA-A(D)) กองทุนเปิดเค ยูเอสเอ หุ้นทุน ชนิดเพื่อการออม (K-USA-SSF) กองทุนเปิดเค ยูเอสเอ หุ้นทุน เพื่อการเลี้ยงชีพ (KUSARMF) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด สัดส่วนประมาณ 8.0%

7.กองทุนเปิดบัวหลวงยูเอสอัลฟ่า(B-USALPHA) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บัวหลวง จำกัด สัดส่วนประมาณ 7.8%

8.กองทุนเปิด ทิสโก้ AI $ Big Data ( TISCOAI) สัดส่วนประมาณ 7.6%