13 มีนาคม 2567 : นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ XPG เปิดเผยว่า ปีนี้ XSpring ตั้งเป้าหมายรายได้รวมแตะ 1,000 ล้านบาท เติบโต 47% จากปี 2566 เป็นผลจากการขับเคลื่อนภายใต้การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ โดยปี 2566 บริษัทประกาศผลการดำเนินงานมีรายได้รวม 681.1 ล้านบาท รายได้หลักที่เป็นตัวผลักดันธุรกิจในปี 2566 ของบริษัท มาจากหลายด้าน ทั้งรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลที่สูงถึง 505.7 ล้านบาท รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการอยู่ที่ 87.2 ล้านบาท และ รายได้จากเงินลงทุน 75.7 ล้านบาท ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 106.09 ล้านบาท

ปีนี้บริษัทมุ่งสร้างรากฐานธุรกิจให้เติบโตแข็งแกร่ง มุ่งที่จะเป็นตัวเชื่อมระหว่างคนที่ต้องการเงินทุนในการนำเงินไปลงทุนกับคนที่มีเงินทุนให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด พร้อมกับปรับโครงสร้างธุรกิจ โดยเน้นธุรกิจที่ทำกำไรเป็นหลัก พร้อมพิจารณาลดสัดส่วนในธุรกิจที่ไม่คุ้มทุน ปัจจุบันบริษัทมีแหล่งเงินทุน 9,000 ล้านบาท โดย เดือน เม.ย.2567 มีการเพิ่มทุนเข้ามาอีกจำนวน 1,000 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทปีนี้มีเงินทุนสูงรวมถึง 10,000 ล้านบาท มั่นใจว่า เพียงพอต่อการสนับสนุนกลุ่มที่คนที่ต้องการเงินทุนแน่นอน

ทั้งนี้ บริษัทได้วางแผนนำเงินจากเงินเพิ่มทุนทีjจะเข้ามาใหม่ มาเป็นเงินทุนในการรับซื้อหนี้เสียเพิ่ม ของบริษัท บริหารสินทรัพย์ เอ็กซ์สปริง เอ เอ็ม ซี จำกัด (XAMC) ที่ปีนี้ตั้งเป้าวงเงินรับซื้อหนี้ไว้ที่ 1,000-1,500 ล้านบาท

สำหรับธุรกิจเรือธง ปีนี้ คือ ธุรกิจงานวาณิชธนกิจ ( (Investment Banking :  IB) จากบริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด (KTX) ที่มั่นใจว่าจะหนุนรายได้ปีนี้เติบโตอย่างมีนัย โดยช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา มีลูกค้าเข้ามาติดต่อจำนวนมาก ทำให้สามารถประเมินทิศทางลูกค้า IB ได้ ด้วยทีมงาน KTX มีศักยภาพไม่แพ้ บริษัทอื่น ทำให้สามารถได้ลูกค้า IB มากขึ้นในปีนี้

อีกหนึ่งเรือธง คือ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็กซ์สปริง จำกัด (XSpring AM) ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับกลุ่มธุรกิจได้ไม่แพ้กัน โดยมีแผนเพิ่มทีม XSpring AM เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น ด้วยทิศทางธุรกิจดังกล่าว มั่นใจว่า รายได้และกำไรของ XPG เติบโตเพิ่มขึ้นได้ตามแผนแน่นอน

ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ที่ 1,000 ล้านบาท เติบโต 47% ซึ่งการเติบโตดังกล่าวจากสามส่วนด้วยกัน คือ 1.รายได้จากดอกเบี้ย กำไรลงทุนธุรกิจ 600 ล้านบาท โต 60% 2.ค่าฟีจากบริการ 300 ล้านบาท โต 30% ซึ่งในส่วนนี้จะเติบโต จากธุรกิจกองทุน AMC ฯลฯ 3.จากบริษัทร่วมทุน (บล.กรุงไทย ฯ) 100 ล้านบาท โต 10% จากงาน IB ที่เพิ่มขึ้น 

"เทียบแล้วเอ็กซ์สปริงไม่ใช่ระดับโกลบอล คอมปานี แต่ถ้าจะเทียบระดับกลางๆ อย่าง SET 100 หรือ MAIแล้ว ถือว่ามีโอกาสไม่แพ้คนอื่น โดยเราตั้งสถานะของเราไว้ว่า จะเป็นผู้นำทางการเงินในโลกการเงินยุคใหม่ เชื่อมระหว่างผู้ที่ต้องการลงทุนกับผู้ที่ต้องการเงินทุน ซึ่งในสภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้ เราจะเห็นได้ว่ายังมีธุรกิจทื่ต้องการเงินทุนอีกไม่น้อยตรงนี้ก็เป็นโอกาสที่ดี ขณะเดียวกันทีมวาณิชธนกิจก็ยังเป็นจุดแข็งที่สำคัญที่จะเป็นธุรกิจที่ทำรายได้หลักของเราอยู่ ซึ่งหากมีการปรับโครงสร้างที่ดี ก็จะสามารถบรรลุตามแผนงานในอนาคตได้ "นายระเฑียร กล่าว

นางสาววรางคณา อัครสถาพร ผู้จัดการใหญ่ (MD) บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า XSpring ยังมุ่งมั่นดำเนินกิจการโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคมและบรรษัทภิบาล (ESG) เพื่อให้องค์กรและสังคมเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
โดยนอกจากจะให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมภายในองค์กรแล้ว บริษัทฯ ยังเข้าไปถือหุ้นในกลุ่มสตาร์ตอัปที่ดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืนหลายแห่ง ในปี 2566 บริษัทฯ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการวางแผนทางการเงินและได้วางแผนการส่งต่อความรู้ความเข้าใจด้านการเงิน (Financial Literacy) ที่มีประสิทธิภาพไปสู่สังคมในวงกว้าง เพื่อช่วยยกระดับการเข้าถึงเครื่องมือในการบริหารจัดการการเงินส่วนบุคคลอย่างเท่าเทียม ภายใต้โครงการ “PLAY TO WIN”

โดยเป็นการร่วมมือกับ วันแชมเปียนชิพ ประเทศไทย (ONE Championship) และ สนามมวยเวทีลุมพินีโดยศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบก เพื่อให้ความรู้ด้านการเงินและการวางแผนทางการเงินแก่นักมวยและบุคลากรในวงการมวย พร้อมยกระดับวงการกีฬาไทยด้วยองค์ความรู้ที่จะนำไปสู่ความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว โดยโครงการนี้จะจัดขึ้นต่อเนื่องทุกๆ ปีเพื่อขยายไปสู่ทุกประเภทกีฬา และในกลุ่มเปราะบางทางการเงินอื่น ๆ ซึ่งในปี 2567 นี้ บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาสังคมอย่างต่อเนื่องด้วยการส่งเสริมศักยภาพทางการเงินการลง ทุนให้กับผู้พิการหรือผู้ด้อยโอกาสในสังคมให้มีความรู้ด้านการเงินและสามารถป้องกันถูกการหลอกลวงทางการเงินได้อีกด้วย