13 มีนาคม 2567 : นายฐากร ปิยะพันธ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB เปิดเผยถึงแผนธุรกิจปีนี้ 2567 มุ่งขยายฐานลูกค้าบุคคล พร้อมกับส่งมอบผลิตภัณฑ์ทางการเงินและประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น โดยยกระดับการบริการด้วยการใช้ Digital & Data Innovation ให้เข้าใจลูกค้าได้ในระดับบุคคล เพื่อชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นในทุกมิติ ผ่าน 4 กลุ่มลูกค้าหลักที่ธนาคารเชี่ยวชาญ ภายใต้แนวคิด Ecosystem Play ได้แก่ กลุ่มคนมีรถ คนมีบ้าน พนักงานเงินเดือน และลูกค้า Wealth โดยมีแอป ttb touch เป็นแพลตฟอร์มหลักในการเชื่อมต่อโซลูชันและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ จากพันธมิตรชั้นนำของธนาคาร ด้วยกลยุทธ์ LEAD the CHANGE for Financial Well-being of Retail Customers
สำหรับตัวเลขทางการเงินธุรกิจกลุ่มลูกค้าบุคคลปีนี้ คาดว่าสินเชื่อรวมกลุ่มรายย่อยปีนี้เติบโตประมาณ 1-2% เพื่มขึ้นจากช่วงปี 2566 ที่เติบโตทรวงตัวในระดับ 0% มั่นใจว่า สินเชื่อรวมมีโอกาสเพิ่มขึ้นกว่าเป้าหมาย หากเศรษฐกิจเติบโตขึ้น รวมถึงดอกเบี้ยนโนยบายมีความชัดเจน โดยเฉพาะในฝั่งขาลง จะหนุนให้สินเชื่อรายย่อยของธนาคารเพิ่มขึ้นได้ ด้านหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL)ยังคงคุมเข้มพร้อมเน้นปรับโครงสร้างหนี้ โดยเฉพาะกลุ่มรถยนต์
พร้อมกันนี้ ธนาคารฯเตรียมเปิดตัวสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ บนแพลตฟอร์มดิจิทัล 100% ภายในต้นเดือนเม.ย.2567 นี้ สินเชื่อดังกล่าว เป็นการนำร่องในช่วงแรก หากมีแนวโน้มที่ดีธนาคารพร้อมขยายสินเชื่อดังกล่าวต่อเนื่อง พวงกับควบคุมความเสี่ยง ส่วนรายได้ที่ไม่ใช่ค่าธรรมเนียม(ค่าฟี)ปีนี้คาดเติบโต 5-6% จากการขยายฐานลูกค้ากลุ่มมั่งคั่งมากขึ้น
นายฐากร กล่าวว่า สำหรับกลุ่มธุรกิจลูกค้าบุคคล ธนาคารมุ่งผลักดันการเติบโตของสินเชื่อในแต่ละส่วนปีนี้ ดังนี้ สินเชื่อบ้าน คาดว่าจะเติบโต 1-2% โดย Outstanding ปี2566อยู่ที่ 316,000 ล้านบาท สินเชื่อบ้านแลกเงิน คาดโต 10% ขณะที่ New Bookingปี 2566 อยู่ที่ 8,000 ล้านบาท สินเชื่อรถยนต์ คาดโต 1-2% ปี 2566 Outstanding ที่ 401,000 ล้านบาท สินเชื่อรถแลกเงิน คาดโต 15-20% โดย New Booking ปี2566 อยู่ที่ 85,000 คัน ส่วนธุรกิจบัตรเครดิต คาดปีนี้ ยอดการใช้จ่าย โต 20-25% ขณะที่ปี 2566 อยู่ที่ 130,000 ล้านบาท ส่วนยอดสินเชื่อคงค้างบัตรเครดิต คาดโต 10-15% โดยปี2566 อยู่ที่ 37,000 ล้านบาท
สำหรับสินเชื่อบุคคล ยอดสินเชื่อปล่อยใหม่ คาดปีนี้ 2567 โต 10-15% โดยปี 2566 อยู่ที่ 35,000 ล้านบาท ขณะที่ ยอดสินเชื่อคงค้างปีนี้คาดโต 10-15% โดยปี 2566อยู่ที่ 39,000 ล้านบาท พร้อมกันนี้ จากภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจในการลงทุน ทีทีบีจึงเน้นผลิตภัณฑ์ที่มุ่งรักษาเงินต้นและปิด ความเสี่ยง เช่น หุ้นกู้อนุพันธ์แฝงอ้างอิงดัชนี (Index Linked Note) เป็นทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทน ที่สูงขึ้น พร้อมคุ้มครองเงินต้นในเวลาเดียวกัน ช่วยต่อยอดความมั่งคั่งทางการเงิน ปีนี้ตั้งเป้าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) กลุ่มลงทุนปีนี้โต 15-20% โดยพอร์ตAUMสิ้นปี2566 แตะที่ 190,000 ล้านบาท
ปีที่ผ่านมา ทีทีบีประสบ ความสำเร็จในการส่งต่อความมั่งคั่งของกลุ่มลูกค้า Wealth โดยมีลูกค้าใหม่ กลุ่ม AUM 30 ล้านบาทขึ้นไป เพิ่มขึ้นกว่า 1,100 คน และ AUM เพิ่มขึ้นถึง 6% ธนาคารยังได้มีการจัดทีม Private Banking ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนเพื่อยกระดับ การให้บริการ พร้อมทั้งเพิ่มสิทธิประโยชน์เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มนี้ ผ่านบัตรเครดิต ttb reserve รวมถึงเดินหน้าเจาะกลุ่มลูกค้า Wealth ที่มีบุตร-หลานเรียนต่างประเทศ และมุ่งเน้นการส่งมอบ Wellness Solution เพื่อการลงทุนอย่างยั่งยืน 
