12 มีนาคม 2567 : มร.ลาร์ส ไฮบุทสกี้ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย กล่าวว่า ปีนี้ 2567 หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญ คือ ขยายธุรกิจประกันภัยองค์กรอย่างต่อเนื่อง เพื่อรับกับความเสี่ยงขององค์กรขนาดใหญ่ ทั้งจากเหตุการณ์ที่ทำให้ธุรกิจหยุดชะงัก ความเสี่ยงด้านภัยพิบัติทางธรรมชาติ ความเสี่ยงด้านไซเบอร์ หรือ เทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงอันดับต้นของประเทศไทย
ล่าสุด เปิดตัว Allianz Commercial ซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจดูแลลูกค้าองค์กรขนาดกลางและขนาดใหญ่ ซึ่งอยู่ภายใต้ อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย ทั้งยังได้รับการสนับสนุน ด้านองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญ เครือข่ายของกลุ่มอลิอันซ์ ที่มีในกว่า 70 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งความแข็งแกร่งทางการเงิน เพื่อขับเคลื่อนการเติบโต และสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นองค์กรข้ามชาติ มีธุรกิจในหลายประเทศ หรือ มีลักษณะธุรกิจที่พิเศษ ต้องใช้ความรู้เฉพาะทางด้านการพิจารณาประกันภัย เพื่อดูแลความเสี่ยง ซึ่งปีที่ผ่านมา Allianz Commercial มีเบี้ยรับที่ 2,000 ล้านบาท คาดว่าปีนี้หากขยายการเติบโตอีก 20% จะมีเบี้ยรับประมาณ 2,400 ล้านบาท
มร.คริสเตียน แซนดริก ผู้อำนวยการบริหารภูมิภาคเอเชีย Allianz Commercial กล่าวเสริมว่า บริษัทที่อยู่ระดับโลก 3 ใน 5 เป็นลูกค้าของอลิอันซ์ คอมเมอร์เชียล ยกตัวอย่างการรับประกันการสร้างอุโมงค์รถไฟขนาดใหญ่ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ที่รับประกันการก่อสร้าง ทีมงานทุกคนในโปรเจคนี้ การรับประกันภัยทางทะเล การรับประกันธุรกิจหยุดชะงัก อสังหาริมทรัพย์ พลังงานสะอาด โซล่าเซลล์ พลังงานกังหันลม เทคโนโลยี ภัยไซเบอร์ และธุรกิจบันเทิงขนาดใหญ่ เช่นการถ่ายทำภาพยนต์ที่เข้าชิงรางวัลออสก้า เป็นต้น
โดยปีที่ผ่านมา 2566 มีผลกำไรสูงถึง 2.6 พันล้านยูโร ซึ่งจุดแข็งของบริษัทฯ คือมีพนักงานพิจารณารับประกันและเคลมที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละความเสี่ยงที่พรัอมให้การบริการต่อลูกค้า โดยเฉพาะโครงการที่ดูแลกลุ่มลูกค้าบรรษัทข้ามชาติขนาดใหญ่โดยมีกว่า 2,800 โปรแกรม
ดังนั้น การเข้ามาขยายตลาดในประทศไทย ก็เพื่อจะทำให้ลูกค้าในประเทศไทยเข้าถึง ความเชี่ยวชาญรวมถึงเครือข่ายที่บริษัทฯ มีอยู่ทั่วโลกได้ โดยประสานงานกับคนไทยและนำเข้าไปสู่การรับประกันในระดับโลกได้ ตลอดนนสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าองค์กรได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้น ความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตต่อเนื่อง ในฐานะศูนย์กลางเศรษฐกิจและการค้าของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กอปรกับความพร้อมของโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน ทำให้ประเทศไทยเป็นตลาดที่น่าดึงดูดในแง่ของการพัฒนาเศรษฐกิจ
นางเดือนฉาย โกศลเมธากุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานลูกค้าองค์กร บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย กล่าวว่า กลุ่มความเสี่ยงที่ อลิอันซ์ อยุธยา ให้ความสนใจ มี 5 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มประกันภัยทรัพย์สิน (Property) โดยมุ่งเน้นไปที่บริษัทข้ามชาติที่มีสำนักงานใหญ่ในประเทศไทยและมีเครือข่ายธุรกิจในประเทศอื่นๆทั่วโลก ที่มองหาความคุ้มครองที่ครอบคลุมจากบริษัทเดียวที่มีศักยภาพรอบด้าน 2.กลุ่มธุรกิจก่อสร้าง (Engineer) ที่ดำเนินโครงการสาธารณูปโภคต่างๆ โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ มีมูลค่าสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจก่อสร้างด้านพลังงานหมุนเวียนและโรงงานไฟฟ้า
3.กลุ่มประกันความรับผิดชอบ (Liability) เช่น สินค้าส่งออก ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่สาม ความเสียหายของสินค้าในการดำเนินธุรกิจ 4.กลุ่มธุรกิจที่อาศัยความเชี่ยวชาญพิเศษ เช่น ธุรกิจบันเทิง (Specialty eg entertainment) เช่น การจัดคอนเสิร์ตการแสดงขนาดใหญ่ระดับชาติ และ 5.กลุ่มธุรกิจเดินเรือและการขนส่งทางทะเล (Marine) ทั้งเพื่อธุรกิจส่งออกและนำเข้า รวมถึงเรือยอร์ชและเรือเพื่อการท่องเที่ยวด้วย
