กรุงเทพฯ 6 กุมภาพันธ์ 2567 : นางสาวณญาณี เผือกขำ ประธานกรรมการ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ผู้ให้บริการบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล อันประกอบไปด้วย บัตรเครดิต กรุงศรี, บัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์, บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน และบัตรเครดิตโลตัส กล่าวว่า ในปี 2567 ธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลจะเติบโตต่อเนื่อง ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรและสินเชื่อน่าจะเติบโตได้ดี จากการจับจ่ายและการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในไตรมาสแรกที่คาดว่าจะได้รับผลบวกจากมาตรการลดหย่อนภาษีภาครัฐ รวมถึงเทศกาลจับจ่าย เช่น ปีใหม่ ตรุษจีน และการท่องเที่ยว
กรุงศรี คอนซูมเมอร์ จึงได้จัดโปรโมชันสุดพิเศษ เพื่อเพิ่มยอดใช้จ่ายผ่านบัตร เช่น บัตรเครดิต กรุงศรี ชวนเที่ยว ช้อป กิน ฟินทั่วโลก เพียงมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรสะสมในสกุลเงินเยนและสกุลต่างประเทศ รวมช้อปออนไลน์ ตามเงื่อนไข ตั้งแต่ 1 มกราคม - 30 เมษายน 2567 รับเครดิตเงินคืนรวมสูงสุด 40,200 บาท, บัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน รับคะแนน The 1 สูงสุด 3 เท่าที่โซนร้านค้า ในศูนย์การค้าเซ็นทรัล ทั่วประเทศ เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรตามเงื่อนไข ตั้งแต่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2567, บัตรเครดิตกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ วีซ่า แพลทินัม ชวนช้อปห้างดังที่ร่วมรายการ ตอบทุกไลฟ์สไตล์การใช้จ่าย เพียงใช้จ่ายผ่านบัตรตามเงื่อนไข รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 5%
พร้อมแลกคะแนนรับเครดิตเงินคืนเพิ่ม 10% และรับสิทธิ์เปลี่ยนทุกยอดใช้จ่ายบัตรเครดิตเป็นยอดแบ่งชำระรายเดือน 0% นาน 3 เดือน ผ่านแอป UCHOOSE ตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2566 - 29 กุมภาพันธ์ 2567, บัตรเครดิตโลตัส Cash Back ช้อปติดปีก รับเงินคืนเร็ว สะสมยอดการใช้จ่าย 10 หมวดร้านค้าที่ร่วมรายการตามเงื่อนไข รับเครดิตเงินคืนตลอดรายการสูงสุด 12,000 บาท ตั้งแต่ 1 มกราคม - 30 เมษายน 2567 เป็นต้น ทั้งนี้ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ตั้งเป้ายอดใช้จ่ายผ่านบัตร 393,000 ล้านบาท ยอดสินเชื่อใหม่ 100,000 ล้านบาท ยอดสินเชื่อคงค้าง 151,000 ล้านบาท ภายในปี 2567
สำหรับผลประกอบการของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ในปี 2566 ที่ผ่านมา เติบโตเป็นที่น่าพอใจ สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว โดยมียอดใช้จ่ายผ่านบัตร 365,000 ล้านบาท เติบโต 10% ยอดสินเชื่อใหม่ 92,000 ล้านบาท เติบโต 6% ยอดสินเชื่อคงค้าง 148,400 ล้านบาท เติบโต 3% เทียบกับปีก่อน
อันเป็นผลจากความสำเร็จในการนำนวัตกรรมและข้อมูลมาสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ทางการเงินและโปรโมชันที่ตอบโจทย์ลูกค้า และยกระดับคุณภาพการบริการต่อเนื่อง รวมถึงการประสานความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในเครือกรุงศรีผ่านกลยุทธ์ Krungsri One Retail และพันธมิตรชั้นนำในธุรกิจอื่นๆ เพื่อสร้างโมเดลธุรกิจและผลิตภัณฑ์การเงินที่ตรงใจลูกค้ายิ่งขึ้น เพื่อสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืน
สำหรับอัตราส่วนคงค้างของสินเชื่อของลูกหนี้ที่มีค่างวดค้างชําระเกินกว่า 90 วัน อยู่ที่ระดับ 1.1% สำหรับบัตรเครดิต และ2.5% สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อผ่อนชำระ ซึ่งนับว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในธุรกิจ สืบเนื่องจากการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุม ทั้งนี้ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ยังคงยึดมั่นในนโยบายการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบ เพื่อดูแลช่วยเหลือลูกค้าต่อเนื่อง
จากข้อมูลการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ในปี 2566 หมวดที่มียอดใช้จ่ายสูงสุด ได้แก่ 1.ประกันภัย 2.ปั๊มน้ำมัน 3.ช้อปออนไลน์และกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ 4.ตกแต่งบ้านและเครื่องใช้ในครัวเรือน 5.ไฮเปอร์มาร์ทและซุปเปอร์มาร์เก็ต ส่วนหมวดที่เติบโตสูง ได้แก่ 1.ตัวแทนท่องเที่ยว (+83%) 2.สายการบิน (+53%) 3.รถเช่า (+30%) และโรงแรม (+30%) แสดงให้เห็นถึงการท่องเที่ยวและการบริโภคที่เติบโตต่อเนื่อง ส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลขยายตัว
ในปี 2566 ที่ผ่านมา กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ โดยมุ่งเน้นด้านผลิตภัณฑ์ทางการเงินดิจิทัล เช่น การขยายตลาดบัตรเครดิตและสินเชื่อผ่านช่องทางดิจิทัล ด้วยการสมัครผ่านช่องทาง U CARD & LOAN และ U CASH ในแอป UCHOOSE, การพิจารณาสินเชื่อด้วยข้อมูลทางเลือกสำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น สินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล เฟิร์สช้อยส์ สแนปแคช, สินเชื่อ HomePay by Krungsri Genesis ที่ช่วยเพิ่มโอกาสเข้าถึงสินเชื่อให้ครอบคลุมกลุ่มต่าง ๆ ยิ่งขึ้น, การนำเอาเทคโนโลยีมาพัฒนาคุณภาพบริการให้สะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้น เช่น AI Manow ผู้ช่วยอัตโนมัติซึ่งช่วยรับสายลูกค้า และเป็นผู้ช่วยในการโทรแจ้งเตือนในการชำระบัตรเครดิตและสินเชื่อ พร้อมพัฒนาบริการแชทผ่าน Chatbot ในแอป UCHOOSE
รวมทั้งพัฒนาแอป UCHOOSE ให้มีบริการแบบ Self-Service ที่หลากหลายยิ่งขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้า นอกจากนี้ ยังได้ประสานความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในเครือกรุงศรี ผ่านกลยุทธ์ Krungsri One Retail และพันธมิตรชั้นนำในธุรกิจอื่น ๆ เพื่อนำเทคโนโลยีทางการเงินไปต่อยอดสร้างธุรกิจและผลิตภัณฑ์การเงินที่ตอบโจทย์ลูกค้าเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน