25 ธันวาคม 2566 : นายพีระพัฒน์ เมฆสิงห์วี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ธนชาตประกันภัย กล่าวว่า ในฐานะภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุบนท้องถนน และความห่วงใยที่มีให้กับลูกค้าที่ต้องการร่วมเฉลิมฉลองกับบรรยากาศความสุขและงานเลี้ยงสังสรรค์ในช่วงเวลานี้ ธนชาตประกันภัยขอมอบโครงการพิเศษที่มั่นใจว่าจะช่วยดูแลความปลอดภัยให้กับลูกค้าและลดความเสี่ยงให้กับผู้ใช้ถนนโดยรวม โดยมอบบริการ “U Drink I Drive” บริการพนักงานขับรถส่วนตัวที่ไว้วางใจได้ มีความเชี่ยวชาญในทุกเส้นทาง และสามารถขับรถได้ทุกยี่ห้อทุกรุ่น รวมถึงรับประกันความปลอดภัยสูงสุดจากเทคโนโลยี GPS Tracking ตรวจจับความเร็วและเส้นทางของรถ ซึ่งจะช่วยคลายความกังวลให้การเดินทางกลับบ้านหลังงานปาร์ตี้ได้
ธนชาตประกันภัย ร่วมรณรงค์เมาไม่ขับและพร้อมดูแลลูกค้า มอบสิทธิพิเศษด้วยบริการ “U Drink I Drive” จำนวน 100 สิทธิ์ โดยสามารถเรียกพนักงานไปขับรถแทนได้เมื่อดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในระยะทางจากสถานบริการถึงที่พักไม่เกิน 50 กิโลเมตร ซึ่งบริการนี้ จะช่วยให้ลูกค้าไม่ต้องกังวลเรื่องการขับรถ และยังมีส่วนรับผิดชอบต่อสังคม ดูแลทั้งชีวิตตัวเองและลดความเสี่ยงให้กับผู้ใช้ถนนร่วมกันด้วย โดยลูกค้าธนชาตประกันภัยต้องกดรับสิทธิ์ก่อนใช้บริการพนักงานขับรถล่วงหน้า 1 ชั่วโมง
โดยเข้าไปที่ Line Official Account “ธนชาตประกันภัย” ที่เมนู “สิทธิพิเศษ” จากนั้นโทรศัพท์ไปที่ Call center ของ U Drink I Drive ที่หมายเลขโทรศัพท์ 091-080-9108 หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน U DRINK I DRIVE เพื่อนัดหมายวันเวลาและสถานที่ สามารถใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่วันนี้ - 31 มกราคม 2567
นอกจากนี้ ธนชาตประกันภัย ได้ร่วมกับสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) และภาคีเครือข่ายเดินหน้ารณรงค์สร้างความตระหนักถึงความเสี่ยงจากเมาแล้วขับ ที่หลายคนยังเข้าใจผิดคิดว่าการดื่มเพียงเล็กน้อยนั้นคงไม่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ ซึ่งจากข้อเท็จจริงและสถิติที่ผ่านมา พฤติกรรมเมาแล้วขับเป็นสาเหตุที่สร้างความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุถึงแก่ชีวิตได้ โดยทางภาคีเครือข่ายรณรงค์การสร้างมาตรการ 3 ด่าน ด่านสกัดตนเอง ด่านครอบครัวและด่านชุมชน ที่มีเป้าลดอุบัติเหตุเป็นศูนย์
ทั้งนี้ พระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2546 และพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 มาตรา 29 ห้ามมิให้ผู้ใดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่บุคคลดังต่อไปนี้ (1) บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่า 20 ปี บริบูรณ์ (2) บุคคลที่มีอาการมึนเมาสุราจนครองสติไม่ได้ รวมถึงผู้ใช้บริการที่เป็นผู้ขับขี่ยานพาหนะทุกราย ให้สถานบริการตรวจวัดแอลกอฮอล์ทางลมหายใจก่อนอนุญาตให้ขับขี่ออกจากสถานบริการ
และในกรณีที่ผู้ขับขี่ยานพาหนะ ได้รับการวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดทางลมหายใจแล้วพบว่ามีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดสูงกว่า 50 mg% ให้สถานบริการจัดหาที่พักคอย และอำนวยความสะดวกเพื่อรอให้ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดทางลมหายใจลดลง ต่ำกว่า 50 mg% จึงอนุญาตให้ขับขี่ออกจากสถานบริการ หรือในกรณีที่ ผู้ขับขี่ยานพาหนะมีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดสูงกว่า 50 mg% ไม่ยินยอมพักคอย ให้สถานบริการประสานให้เพื่อน/ญาติ ของผู้ใช้บริการขับขี่แทน หรือจัดบริการยานพาหนะเพื่อส่งลูกค้าเดินทางกลับ