14 พฤศจิกายน 2566 : ดร.สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ประกันภัยไซเบอร์ถือว่าเป็นอีกหนึ่งรูปแบบของการประกันภัยที่มีความสำคัญ ดังนั้น ปีหน้า 2567 บริษัทฯ จึงตั้งเป้าหมายขยาย “ส่วนงานประกันภัยไซเบอร์” ขึ้นมาเฉพาะเป็นการส่งสัญญาณให้เห็นว่าจะบุกเรื่องนี้อย่างจริงจัง
การรับประกันภัยไซเบอร์ แบ่งกลุ่มลูกค้าเป็น 2 มิติ คือ มิติขององค์กรและมิติของปัจเจกบุคคล ซึ่งในมิติขององค์กร ทุกวันนี้มีกฎหมายที่ออกมาคุ้มครองสิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล Personal Data Protection Act หรือ PDPA ทำให้องค์กรต่างๆ นั้นมีความเสี่ยงในเรื่องของถ้าข้อมูลองค์กรรั่วไหลหรือถูกนำไปใช้ในทางมิชอบนั้นเป็นความผิดทางอาญาและทางแพ่งขององค์กร ดังนั้นองค์กรจะต้องมีการป้องกันอย่างดี แต่หลายองค์กรคิดว่าป้องกันเป็นอย่างดีแล้ว แต่แฮกเกอร์ก็ยังเก่งที่สามารถที่จะเจาะข้อมูลเข้ามาได้ เพราะฉะนั้นการประกันภัยไซเบอร์ ขององค์กรนั้นก็เป็นสิ่งใหม่ของสังคมไทยที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากหลากหลายองค์กรต้องการที่จะมี protection ในลักษณะอย่างนี้
ในขณะเดียวกันในปัจเจกบุคคลนั้นวันนี้ทุกคนต่างใช้ชีวิตอยู่กับโทรศัพท์มือถือ ไม่ว่าเพื่อความบันเทิงการใช้ทำงานซื้อขายสิ่งของหรือการทำธุรกรรมทางการเงินจึงได้เห็นปรากฏการณ์ที่ประชาชนถูกหลอกจากการซื้อของ ซื้อของแล้วไม่ตรงปก ซื้อของแล้วไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการทำให้สูญเสียเงินเป็นจำนวนมาก หรือมีคนปลอมตัวมาเป็นเราในการธุรกรรมทางการเงิน หากข้อมูลถูกแฮกมูลค่าเงินในบัญชีก็หายไป เป็นต้น สิ่งเหล่านี้กรมธรรม์ไซเบอร์ สามารถเข้ามาให้ความคุ้มครองได้ แต่บริษัทฯ อาจจะมีข้อจำกัดในเรื่องของความรับผิดชอบสูงสุดต่อกรณีและต่อกรมธรรม์ไว้ด้วย
"การเคลมในลักษณะขององค์กรที่ขนาดใหญ่ที่ถูกแฮก ตอนนี้ถือว่ายังมีค่อนข้างน้อย แต่กรณีการเคลมสำหรับปัจเจกบุคคลที่ซื้อของแล้วได้ของไม่ตรงปกกรณีนี้พอมีหรือทำธุรกรรมผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์แล้วข้อมูลทงบัญชีถูกแฮกไปดูดเอาเงินออกจากบัญชีนี้มีแต่ว่าไม่เยอะก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ ซึ่งบริษัทก็ไม่ได้มีการปรับเพิ่มเบี้ยประกันแต่อย่างใด" ดร.สมพร กล่าว
ทั้งนี้ ทิพยประกันภัยมีบริษัทต่างชาติรองรับ ทำให้มีความสามารถในการรับประกันค่อนข้างจะสูง ซึ่งยังไม่มีบริษัทไหนที่เสนอขอซื้อความคุ้มครองสูงเกินกว่าความสามารถที่บริษัทจะรับประกันภัยได้ ซึ่งสูงสุดตอนนี้บริษัทฯคุ้มครองอยู่ที่ประมาณวงเงิน 500 ล้านบาท/บริษัท
ดร.สมพร กล่าวต่อไปว่า สำหรับเรื่องความคืบหน้าของการประกันรถยนต์ไฟฟ้า (EV) นั้น ขณะนี้ทางสมาคมประกันวินาศภัยไทยได้ร่วมกับทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)ในการกำหนดเงื่อนไขเป็นการเฉพาะสำหรับรถยนต์ EV แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนที่สุดตอนนี้ คือได้มีการกำหนดในเรื่องเงื่อนไขของการคุ้มครองที่จะต้องมีการระบุตัวผู้ขับขี่ สามารถระบุได้มากกว่า 1 คน และจะมีการจำกัดความวงเงินความรับผิดชอบของแบตเตอรี่ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการหาข้อสรุป เนื่องจากตัวแบตเตอรี่นั้นมีมูลค่าถึง 70-80% ของราคาตัวรถยนต์ จึงทำให้เป็นมูลเหตุที่ทำให้ตัวรถมีมูลค่าเบี้ยประกันสูง แต่ถ้าหากจำกัดไว้วงเงินความคุ้มครองก็จะทำให้เบี้ยประกันของรถยนต์ EV ไม่สูงมากเกินไป โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์นี้แล้วจะมีการประกาศให้ประชาชนได้รับทราบต่อไป
ส่วนผลการดำเนินงานในช่วง 3 ไตรมาสปีนี้ ที่ผ่านมาบริษัทฯ มีผลการดำเนินงานที่ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายหรือดีกว่าเป้าหมายเล็กน้อย ทั้งในมิติของเบี้ยประกันภัยรับในเรื่องของ bottom line และได้เห็นแนวโน้มของการเติบโตทางด้านการประกันภัย ถึงแม้ว่าในภาพรวมจะดูเหมือนเศรษฐกิจชะลอตัวแต่ทิพยประกันภัยเองนั้นเรายังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือได้ว่าได้รับการตอบรับจากสังคมและประชาชนเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันยังได้มีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาสู่ประชาชนเพิ่มขึ้นอยู่เรื่อยๆโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่เจาะเฉพาะความต้องการของประชาชนมากขึ้น
ในขณะเดียวกันถ้าพิจารณาถึงเรื่องกลุ่มบริษัท ทิพย กรุ๊ป ที่ได้มีการเปิด บริษัท อินชัวร์เวิร์ส จำกัด (มหาชน) ขึ้นมาจับตลาดในช่องทางดิจิทัล เป็นบริษัทแห่งแรกของประเทศไทยซึ่งเปิดไปเมื่อวันที่ 9 เดือน 9 ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากประชาชนโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ทุกวันนี้มีคนที่เข้ามาดูเว็บไซต์ใน platform เพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยได้รับการกล่าวขานค่อนข้างมาก ขณะเดียวกันก็มียอดของเบี้ยประกันภัยรับเพิ่มขึ้นเข้ามาอย่างรวดเร็วจึงคิดว่าภายในปีหน้า 2567 บริษัทอินชัวร์เวิอร์ส จะเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในประเทศไทย
พร้อมกันนี้ บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ก็ได้มีการไปลงทุนในบริษัทลูกอีกหลายบริษัท รวมไปถึงปลายปีนี้จนถึงต้นปีหน้ามีนโยบายและแผนการที่จะไปลงทุนในประเทศกัมพูชาอีกด้วย