21 ธันวาคม 2559 : ซมโปะ ประกันภัย เปิดตัวกรมธรรม์ประกันการเดินทางแดนอาทิตย์อุทัย ขายบนมือถือเป็นเจ้าแรก เอาใจคนชอบเที่ยวญี่ปุ่น คาดกวาดเบี้ยประกันกว่า 80 ล้านบาทในปี 2560
นายอิศรศักดิ์ เทศรัตนวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซมโปะ ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทเปลี่ยนชื่อจาก สมโพธิ์ เจแปน นิปปอนโคอะ ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มาเป็น บริษัท ซมโปะ ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการบนพื้นฐานของเทคโนโลยีที่เหมาะสมและสอดคล้องกับการใช้ชีวิตของลูกค้าชาวไทย ที่ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่บนมือถือเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ที่ไม่ยุ่งยากในการซื้อประกัน
โดยได้เริ่มนำร่องระบบ ePass พร้อมกับการเปิดตัวแผนประกันเดินทาง “SOMPO GO JAPAN” สำหรับผู้ที่เดินทางไปญี่ปุ่นโดยเฉพาะ ซึ่งนอกจากความสะดวกสบายแล้วนั้น บริษัทยังเป็นเจ้าเดียวที่มีบริการ SOMPO ASSIST ที่คอยเป็นผู้ช่วยในการสื่อสารภาษากับแพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย รวมถึงไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาล ซึ่งมีโรงพยาบาลให้บริการกว่า 200 แห่งในประเทศญี่ปุ่น เบี้ยประกันเริ่มต้นเพียง 200 บาท ความคุ้มครองเบื้องต้น 1 ล้านบาท สูงสุด 5 ล้านบาท
“ในปี 2558 ที่ผ่านมานั้นมีจำนวนนักท่องเที่ยวไทยไปเที่ยวญี่ปุ่นกว่า 796,000 คน โดยคาดว่าในปี 2559 จะมีถึง 800,000 – 900,000 คน หรือโต 15% สำหรับเป้าหมายของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว คาดว่าน่าจะได้ประมาณ 80 ล้านบาท ในปี 2560 โดยนักท่องเที่ยวชาวไทยนั้นน่าจะซื้อผลิตภัณท์นี้ประมาณ 20-25% หรือที่ 200,000 คน โดยช่องทางการขายก็ยังคงเป็นทางด้านตัวแทนและออนไลน์ หลังจากเปิดตัวมากว่า 1 เดือนมีผู้ทำประกันแล้วประมาณ 500 ราย และในเดือนกุมภาพันธ์ 2560 จะเปิดตัวประกันดังกล่าวในกลุ่มคอปอเรทอีกช่องทางหนึ่ง เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าให้ทั่วถึง”นายอิศรศักดิ์ กล่าว
นอกจากนี้ สำหรับการขยายงานทางด้านแบงก์แอสชัวรันส์ ได้มีการเจรจาร่วมกันกับ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อม โดยจะเป็นพันธมิตรพร้อมกัน 4 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม คาดว่าจะเริ่มดำเนินการภายในปี 2560
ส่วนช่องทางการตลาดด้านดิจิตอลนั้น ปัจจุบันบริษัทมีการตั้งทีมพิเศษเพื่อดูแลทางด้านนี้โดยเฉพาะ โดยดูแลทางด้าน มาร็เก็ตติ้ง โอเปอเรชั่น ฝ่ายขาย และบริการ เพื่อพัฒนาให้ช่องทางนี้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพื่อมาเสริมตลาดในส่วนหลักที่มีกว่า 70% ผ่านทางลูกค้าองค์กร และ 30% มาจากดีเลอร์ไฟแนนซ์ ดังนั้น ในอนาคตจะทำการตลาดผนวกกันทั้งช่องทางดิจิตอลและพาร์ทเนอร์
ทางด้านผลการดำเนินงานปีสิ้นปี 2559 คาดว่าเบี้ยประกันรับรวมจะเติบโต 9% หรือ 3,000 ล้านบาท พร้อมคาดว่าปี 2560 นั้นจะโตไปอีกที่ 15% โดยบริษัทฯมุ่งหวังที่จะติด TOP10 ของธุรกิจประกันวินาศภัยไทยให้ได้ในปี 2563 โดยสัดส่วนทางการตลาดมาจาก รถยนต์ 40% Non-Motor 60% โดยปีนี้รถยนต์เติบโตมาขึ้นถึง 5% ทางด้านสัดส่วนของลูกค้านั้นมีลูกค้าองค์กรอยู่ที่ 70% ลูกค้ารายย่อย 30% แต่ในคาดว่าอนาคตสัดส่วนจะเพิ่มขึ้นเป็น 50/50%
อย่างไรก็ดี ผลประกอบการในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา (มกราคม-กันยายน 2559) บริษัทฯมีการเติบโตกว่า 7% ซึ่งธุรกิจประกันวินาศภัยไทยโตเพียง 1% ซึ่งบริษัทฯโตกว่า 5-6 เท่า แต่ยังคงมองว่าในปีหน้าธุรกิจประกันวินาศภัยนั้นจะโต 4-5%