20 ธันวาคม 2559: บริษัท วายแอลจีบูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เปิดเผยถึง สภาวะราคาทองคำ (20 ธ.ค.59) แกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,131.34-1,139.68 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,350 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,400 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ16 อยู่ที่ 19,410 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 40 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,450 บาท
สำหรับ แนวโน้มวันที่ 21 ธันวาคม 2559 สถานการณ์ความรุนแรงในตุรกีและเยอรมนีกระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากเอกอัครราชทูตรัสเซียประจาตุรกี ถูกยิงเสียชีวิต เมื่อกำลังกล่าวสุนทรพจน์ในแกลเลอรี่ศิลปะแห่งหนึ่งในกรุงอังการา ทั้งนี้ความวิตกด้านความมั่นคงเพิ่มขึ้นจากข่าวที่ว่า รถบรรทุกได้พุ่งเข้าใส่ฝูงชนกลางกรุงเบอร์ลิน ของเยอรมนี ซึ่งเป็นสถานที่จัดเทศกาลเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาส ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย บาดเจ็บอีก 50 ราย และ ทำให้นักลงทุนรำลึกถึงเหตุโจมตีที่เมืองนีซประเทศฝรั่งเศส ในเดือนกรกฎาคมซึ่งมีผู้เสียชีวิต 86 ราย
อย่างไรก็ตาม ทองคำยังคงถูกกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ได้แรงหนุนจากความเห็นเชิงบวกของ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เกี่ยวกับภาวะตลาดแรงงานสหรัฐมีความแข็งแกร่งมากที่สุดในรอบเกือบ 10 ปี และย้ำกับนักศึกษาที่เข้าฟังสุนทรพจน์ครั้งนี้ว่า การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญในการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจโดยอัตราว่างงานอยู่ในระดับที่ต่ำ ขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ)มีมติคงเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ -0.1%
พร้อมทั้งคงเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (เจจีบี) อายุ 10 ปีที่ราวระดับ 0% ซึ่งสกุลเงินเยนที่อ่อนค่าลงเพิ่มแรงหนุนให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นยิ่งเพิ่มแรงกดดันราคาทองคำ ทั้งนี้ แนวโน้มนโยบายการเงินของเฟดที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย สวนทางกับธนาคารกลางขนาดใหญ่ของประเทศอื่นๆ ที่ยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำต่อไป ยิ่งหนุนให้ดอลลาร์สหรัฐมีโอกาสแข็งค่าขึ้นได้ต่อเนื่อง ซึ่งสร้างมุมมองเชิงลบต่อราคาทองคำ
สถานการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้เมื่อราคาทองคำขยับขึ้น นักลงทุนยังคงแบ่งทองคำออกขายทำกำไรออกมา กลยุทธ์การลงทุนเน้นการลงทุนระยะสั้น โดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,122 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรก และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,144-1,152 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่า การลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้างก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน