7 กันยายน 2566 : คุณนพพร บุญลาโภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายของเบี้ยประกันชีวิตปีนี้ (2566) ไว้ 8,000 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 20% โดยมากกว่าปี 2565 ที่ขยายเบี้ยประกันชีวิตรับรวมได้ 6,600 ล้านบาท โดยมีกำไรประมาณ 1,000 ล้านบาท ถึงแม้อัตราดอกเบี้ยจะผันผวนที่ 2.5-2.6% ก็ตาม ดังนั้นปีนี้คาดว่าหากอัตราดอกเบี้ยคงอยู่ในเกณฑ์ 2.9-3.1% ก็จะทำให้เป้าหมายของผลกำไรเป็นไปตามที่คาดไว้
ส่วนผลการดำเนินงาน 6 เดือนของปี 2466 ที่ผ่านมา มีเบี้ยประกันรับ 4,083 ล้านบาท โดยมาจากช่องทางจำหน่ายของธนาคารออมสิน 80% ส่วนที่เหลืออีก 20% เป็นช่องทางอื่นๆ ได้แก่ ตัวแทน โบรกเกอร์ นายหน้า และช่องทางดิจิทัล และมีกำไร 400 ล้านบาท โดยปัจจัยหลักมาจากอัตราดอกเบี้ยที่ผันผวน
ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่บริษัทฯ กำหนดไว้ จึงวางกลยุทธ์การขยายตลาดในแต่ละช่องทางดังต่อไปนี้ การขยายผ่านพันธมิตรหลักหรือธนาคารออมสิน และบมจ.ทิพยประกันภัย ก็ยังเป็นช่องทางหลัก แต่จะหันไปเพิ่มช่องทางตัวแทนหรือที่ปรึกษาการเงินปัจจุบันมีประมาณ 200 คน แอ็คทีฟประมาณ 100 คน นับว่ายังมีจำนวนน้อยมาก บริษัทฯ จึงคาดว่าจะสร้างเพิ่มอีก 50 คน ภายในปีนี้ โดยหันมาจับตลาดใหม่ที่ไม่ใช่ตัวแทนด้วยวิธีการ “ไลฟ์สด” ผ่านช่องทางออนไลน์ของเซียนพระ
โดยนำผู้ที่เป็นเซียนพระเข้ามาเชื่อมธุรกิจประกันชีวิต เพื่อแตกไลน์ช่องทางการสร้างบุคลากรแบบใหม่ๆ เพื่อต่อยอดผู้ที่ดูไลฟ์สดของเซียนพระ ที่มีความต้องการเข้าสู่อาชีพ "ที่ปรึกษาการเงิน" ซึ่งบริษัทฯก็จะมีหลักสูตรการฝึกอบรมให้อย่างเต็มรูปแบบก่อนที่จะออกไปประกอบอาชีพ ปัจจุบันมีคนรุ่นใหม่ที่สนใจเข้าสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตแล้วประมาณ 20 คน และคาดว่าในเดือน ธันวาคม 2566 จะขยายช่องทางดังกล่าวอย่างเป็นทางการต่อไป เพื่อมุ่งเน้นตัวแทนรุ่นใหม่ที่สนใจเข้ามาอยู่ในอาชีพที่ปรึกษาทางการเงินให้มากขึ้น
ส่วนช่องทางดิจิทัล ขณะนี้เด็กรุ่นใหม่ๆ ให้การตอบรับอย่างดีมาก โดยย้อนไปจุดเริ่มต้นของการขายประกันชีวิตผ่านช่องทางออนไลน์ ปีแรกมีเบี้ยรับประมาณ 1 ล้านบาท ปีถัดมาเติบโตขึ้นเป็น 7-10 ล้านบาท จนขณะนี้เพียง 6 เดือนของปี 2566 เบี้ยประกันรับเพิ่มขึ้นถึง 27 ล้านบาท จากเดิมที่ซื้อประกันที่มีเบี้ยเพียงหลักพัน แต่ก็มีคนจำนวนหนึ่งที่กล้าซื้อเบี้ยประกันหลักแสนบาท นั่นแสดงให้เห็นว่า ผู้เอาประกันเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อเนื่องจากเชื่อมั่นในระบบช่องทางการชำระเงินของบริษัท อีกทั้งยังมีความเชื่อมั่นข้อมูลที่เขาอ่านรายละเอียดมาจากบริษัทฯ จึงไม่จำเป็นต้องอาศัยตัวแทนมากนักที่จะตัดสินใจซื้อ
สำหรับผลกระทบในช่วงโควิดที่ผ่านมาทำให้บริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากการลงทุนขององค์กรใหญ่ คือ บริษัทการบินไทย ส่งผลให้บริษัทฯขาดทุน แต่มาถึงปัจจุบันนี้ได้ดำเนินการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว ซึ่งในปี 2565 บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานของเบี้ยประกันรับปีแรกอยู่อันดับที่ 11 ของอุตสาหกรรม มาถึงปัจจุบันก้าวขึ้นมาอยู่อันดับที่ 7 จึงคาดว่าจะทำให้เป้าหมายที่จะเติบโตของเบี้ยรับรวมไปถึง 8,000 ล้านบาทจะสำฤทธิ์ผลตามที่ตั้งเป้าหมายไว้อย่างแน่นอน
คุณนพพร กล่าวต่อไปว่า บริษัทฯ ยังสนับสนุนและส่งเสริมให้นักศึกษา คนรุ่นใหม่ มีเวทีได้คิดและทำในสิ่งสร้างสรรค์ มีประโยชน์เพื่อสังคม ได้จัดให้มี โครงการประกวดหนังสั้น TIPlife Short Flim Contest 2023 ภายใต้แนวคิด TIPLIFE LIFE PARTNER LIFE BETTER เพราะเชื่อว่าชีวิตที่ดีย่อมต้องมีหุ้นส่วนที่ดีเสมอ TIPlife จึงขอเป็นหุ้นส่วนให้กับน้องๆ เยาวชน นักศึกษาได้แสดงความสามารถผ่านการประกวดหนังสั้น 3 นาที ภายใต้หัวข้อ “มุมมองประกันชีวิตกับคนรุ่นใหม่” ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 150,000 บาท
"โดยเชื่อมั่นว่ากิจกรรมนี้จะสามารถช่วยตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ในการเลือกรูปแบบการทำประกันชีวิตและทรัพย์สินได้อย่างคุ้มค่า อีกทั้งยังสร้างแรงบันดาลใจในการบริหารจัดการวางแผนการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ได้อย่างมั่นคงและปลอดภัย เพราะประกันชีวิตเป็นเรื่องใกล้ตัวที่เราทุกคนไม่ควรมองข้าม ทิพยประกันชีวิตจึงขอเป็นหุ้นส่วนชีวิตที่ดีของคนรุ่นใหม่ด้วยเช่นกัน ดั่งสโลแกนของทิพยประกันชีวิตที่ว่า อนาคตคุณกำหนดได้ เราพร้อมช่วยคุณวางแผน ที่จะทำให้คุณไปถึงวันที่อนาคตเป็นไปได้ตามที่คุณต้องการ”
คุณวีรยุทธ ล้อทองพานิชย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วิ้งค์วิ้งค์ โปรดักชั่น จำกัด หรือ “พี่อู๋วิ้งค์วิ้งค์”(อู๋ winkwink) โปรดิวเซอร์มือทองที่เคยมีผลงานโฆษณาคุณภาพทางจอโทรทัศน์มากมายและเป็นหนึ่งในคณะกรรมการตัดสินกิจกรรมครั้งนี้ ได้กล่าวให้ความรู้ในการสร้างวีดีโอ โปรดักชั่นที่ถูกต้องและสามารถชนะใจคณะกรรมการตัดสินได้ว่า “การคิดหนังสั้นอย่างไรให้โดนใจคณะกรรมการตัดสินหรือถูกใจผู้ชมนั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อนเพราะการทำหนังสั้นคือการทำงานศิลปะที่มีชีวิต มีภาพเคลื่อนไหว มีนักแสดงคือคนที่มีชีวิตโลดแล่นในสังคมอยู่จริง คือเรื่องจริงของหลายชีวิต เป็น Real Time และ Real Life
ขณะเดียวกันก็มีการนำเสนอซึ่งเป็นเรื่องของการใช้สื่อเข้ามาเกี่ยวข้องที่ปัจจุบันเมื่อสื่อเปลี่ยน คนก็ต้องปรับ เพราะกระบวนการคิดโฆษณามีทั้งที่ต้องตอบโจทย์ทั้งลูกค้าและผู้บริโภคกับกระบวนการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ต้องตอบโจทย์ผู้ใช้หรือประชาชน ภายใต้แนวคิดแตกต่างอย่างสร้างสรรค์และให้คิดค้นความคิด (Idea) ใหม่ๆ การคิดนอกกรอบ การเข้าใจปัญหาที่ถูกต้องหรือเป็นการตีโจทย์ให้แตก เป็นต้น จึงจะเป็นการทำหนังสั้นที่ดีมีคุณภาพและประสบผลสำเร็จได้”
ทั้งนี้ นักศึกษาที่สนใจส่งผลงานหนังสั้นเข้าร่วมโครงการประกวดหนังสั้น TIPlife Short Flim Contest 2023 ของบริษัททิพยประกันชีวิตจะต้องมีคุณสมบัติเป็นนักศึกษาระดับอุดมศึกษา / ไม่จำกัดชั้นปี ไม่จำกัดคณะ (อยู่ต่างสถาบันได้) ไม่จำกัดจำนวนสมาชิกต่อทีม (ส่งผลงานได้ไม่เกิน 1 เรื่องต่อทีม / มีบัตรนักศึกษา) หนังสั้นจะต้องมีความยาวไม่เกิน 3 นาที และมีเนื้อหาตรงตามหัวข้อ “มุมมองประกันชีวิตกับคนรุ่นใหม่” ผลงานที่ส่งเข้าประกวดต้องมีคำว่า “LIFE PARTNER LIFE BETTER” (เป็นบทพูดของตัวละคร หรือตัวหนังสือ อย่างน้อย 1 ครั้ง
ผลงานที่ส่งเข้าประกวดต้องเป็นผลงานที่สร้างสรรค์ ขึ้นใหม่ ไม่เคยส่งเข้าประกวดที่ใดมาก่อน ไม่เคยได้รับการเผยแพร่ในสื่อทุกประเภท (รวมทั้งสื่อสังคมออนไลน์ เช่น Facebook, YouTube เป็นต้น) และเป็นผลงานที่ผู้ส่งเข้าประกวดสร้างสรรค์ด้วยตนเอง มิได้ทำซ้ำ คัดลอก เลียนแบบ หรือดัดแปลงของผู้อื่น อันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์
ผลงานที่ได้รับรางวัลทุกเรื่องถือเป็นกรรมสิทธิ์ของ TIPlife โดยแบ่งเงินรางวัลออกเป็น
- รางวัลที่ 1 : เงินรางวัลมูลค่า 50,000 บาท + โล่รางวัลชนะเลิศ
- รางวัลที่ 2 : เงินรางวัลมูลค่า 30,000 บาท + ใบประกาศนียบัตร
- รางวัลที่ 3 : เงินรางวัลมูลค่า 20,000 บาท + ใบประกาศนียบัตร
- รางวัลชมเชย 4-10 : เงินรางวัลมูลค่า 5,000 บาท + ใบประกาศนียบัตร
โดย ทีมที่ผ่านเข้ารอบทั้ง 10 ทีมจะได้รับ กรมธรรม์ประกันคุ้มครองอุบัติเหตุเป็นเวลา 1 ปี รางวัลพิเศษ : รางวัล Popular Vote 1 รางวัลๆ มูลค่า 10,000 บาท (Vote หนังสั้นที่เข้ารอบสุดท้ายจากผู้ชมในออนไลน์) และพิเศษ รางวัลประกันอุบัติเหตุ 5,000 บาท (จับฉลากจากรายชื่อผู้ส่งผลงาน) พร้อมโอกาสได้โชว์ผลงาน ตามสื่อหลักในฐานะสื่อประชาสัมพันธ์ของ TIPlife ในปีนี้
โครงการประกวดหนังสั้นฯ เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2566 และจะประกาศผลทีมที่ผ่านเข้ารอบ 10 ทีมสุดท้าย วันที่ 17 พฤศจิกายน 2566 เวลา 18.00 น. ผ่านช่องทาง Facebook Page
โดย 10 ทีมที่เข้ารอบสุดท้ายนี้จะได้พรีเซนผลงานต่อหน้าคณะกรรมการ TIPlife ในรอบ FInal ที่โรงภาพยนตร์ SFX CINEMA RAMA9 เซ็นทรัลพระราม9 พร้อมประกาศรางวัลค้นหาผู้ชนะเลิศ อันดับ 1-3 รางวัลชมเชย Popular Vote โดยคณะกรรมการที่มีชื่อเสียงในวงการโฆษณา ประกาศผลผู้ชนะ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 เวลา 14.00 น ผู้สนใจสามารถสมัครและส่งผลงานผ่าน www.tiplifeshortfilm.com