WELCOME TO SEQUEL ONLINE (ซีเคว้ล ออนไลน์)
วันอาทิตย์ ที่ 24 พฤศจิกายน 2567 ติดต่อเรา
เลขาธิการ คปภ. กล่าวปิดหลักสูตร วปส. 11 brain storming เสนอ 6 โปรเจค ช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมประกันภัยไทย

25 กรกฎาคม 2566 : ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เป็นประธานในพิธีปิดการศึกษาอบรมหลักสูตรวิทยาการประกันภัยระดับสูง (วปส.) รุ่นที่ 11 ประจำปี 2566 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-23 กรกฎาคม 2566 ณ โรงแรม Phuket Marriott Resort & Spa, Merlin Beach จังหวัดภูเก็ต

โดยมีผู้เข้าอบรมซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และธุรกิจประกันภัย จำนวนทั้งสิ้น 90 คน ซึ่งตลอดหลักสูตรมีการอบรม แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในชั้นเรียนและเข้าศึกษาดูงานทั้งในประเทศ รวมทั้งร่วมทำกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคม (Corporate Social Responsibility : CSR) ตลอดจนจัดทำรายงานการศึกษากลุ่ม (Group Project : GP) ในหัวข้อต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อระบบประกันภัยของไทยอีกด้วย

ทั้งนี้ การจัดทำรายงานการศึกษากลุ่ม (Group Project : GP) เป็นกิจกรรมที่หลักสูตรฯ ให้ความสำคัญและกำหนดให้นักศึกษาทุกคนเข้าร่วม เพื่อช่วยกันระดมความคิดและแบ่งปันประสบการณ์ในแง่มุมต่าง ๆ มานำเสนอในรูปแบบรายงานวิชาการ โดยในการปิดหลักสูตร วปส. รุ่นที่ 11 ครั้งนี้ ได้กำหนดให้ผู้เข้ารับการอบรมนำเสนอรายงานการศึกษากลุ่ม GP และตอบข้อซักถามแก่คณะอาจารย์ที่ปรึกษา ประกอบด้วยอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ และผู้บริหารระดับสูงของสำนักงาน คปภ.

สำหรับรายงานวิชาการแบ่งเป็น 6 กลุ่ม 6 หัวข้อ ได้แก่ กลุ่มที่ 1 หัวข้อ แนวทางสำหรับภาครัฐเพื่อนำระบบประกันภัยมาใช้บริหารความเสี่ยงจากการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยเข้าสู่ Net Zero Emission เป็นเป้าหมายของประชาคมโลกที่ต้องการให้รัฐบาลทุกประเทศปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 ซึ่งประเทศไทยก็เป็นประเทศหนึ่งที่มีเป้าหมายที่จะลดก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ โดยภาครัฐและภาคธุรกิจจำเป็นต้องร่วมมือกันและปรับตัวในเรื่องดังกล่าว เพื่อลดความเสี่ยงต่อความสามารถในการแข่งขันและการเติบโตเศรษฐกิจของประเทศ

ซึ่งการศึกษานี้เสนอแนะให้ภาครัฐส่งเสริมให้มีการนำระบบประกันภัยมาใช้ในการบริหารจัดการความเสี่ยงและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น โดยแนะนำการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยคาร์บอนเครดิตให้เหมาะสมรองรับกับระบบนิเวศของประเทศไทยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปพร้อมกับการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ Net Zero Emission ซึ่งสามารถดำเนินการได้ผ่านมาตรการต่าง ๆ ทั้งระยะต้น ระยะกลาง และระยะยาว

กลุ่มที่ 2 หัวข้อ ปัจจัยในการนำเทคโนโลยีมาใช้เกี่ยวกับการประกันภัย หรืออินชัวร์เทค (InsurTech) โดยนำเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนางานด้านประกันภัยในรูปแบบต่างๆ หรือที่เรียกว่า อินชัวร์เทค (InsurTech) เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการด้านการประกันภัยที่ตอบโจทย์ความต้องการและการดำเนินชีวิตของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล ทั้งด้านให้คำแนะนำผลิตภัณฑ์ประกันภัย ด้านการให้บริการประกันภัย ด้านพัฒนาระบบด้านความเป็นไปได้ทางเทคโนโลยี ด้านสถานพยาบาล จึงเสนอให้นำเทคโนโลยี ChatGPT มาใช้ร่วมกับ Chatbot และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) ที่พัฒนาขึ้นจะสามารถตอบคำถามซับซ้อนและเข้าใจได้ดีขึ้น

กลุ่มที่ 3 หัวข้อ การใช้ปัญญาประดิษฐ์เพิ่มประสิทธิภาพระบบคุ้มครองสิทธิผู้ทำประกันภัย ด้านการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถยนต์ ปัญหาสำคัญอันหนึ่ง คือ จากการร้องเรียนของผู้ทำประกันภัยและประชาชนผู้ได้รับความเสียหายด้านค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถที่เป็นคู่กรณีหรือผู้เสียหาย กลุ่มนี้จึงเสนอการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยี “ระบบคุ้มครองสิทธิผู้ทำประกันภัยและประชาชน ด้านการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถยนต์ ช่วย ชด เชย” เพื่อพิจารณาค่าสินไหมทดแทนค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถยนต์ให้มีกระบวนการที่เป็นธรรม และเป็นมาตรฐาน

กลุ่มที่ 4 หัวข้อ ผลิตภัณฑ์ประกันภัยเพื่อยกระดับการเข้าถึงประกันสุขภาพให้กับผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม ศึกษาแนวทางที่จะเพิ่มสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตน ในระบบประกันสังคมให้มีความคุ้มครองที่เพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายที่น้อยลง สำหรับทั้งผู้ประกันตนและนายจ้าง หากใช้ระบบประกันภัยสุขภาพเอกชนเข้าไปช่วยระบบประกันสังคม ในการบริหารความเสี่ยงด้านสุขภาพ ทั้งแบบผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน โดยไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลเพิ่มเติม เป็นการ ONTOP หรือผูกกับระบบประกันสังคมในระบบประกันสังคมจ่าย เอกชนจ่าย และใช้ศูนย์บริการสินไหมทดแทนเดียวกัน และเป็นส่วนเพิ่มจากความคุ้มครองของประกันสังคมที่มีอยู่เดิมแต่ลดค่าใช้จ่ายทดแทนที่จะจ่ายในการประกันกลุ่ม

ดังน้ัน จะทำให้ผู้ประกันตนได้สิทธิค่ารักษาที่เพิ่มขึ้นจากการซื้อประกันภัยเพิ่มเติมโดยที่ลดค่าใช้จ่ายจากการซื้อประกันภัยส่วนบุคคลลง และสามารถเลือกซื้อประกันภัยเพิ่มเพื่อรับความคุ้มครองตามเพดานที่ตนเองต้องการได้ รวมถึงสามารถเลือกโรงพยาบาลที่ตนเองต้องการได้เนื่องจากนำไปผูกกับระบบประกันสังคม

กลุ่มที่ 5 หัวข้อ การเสริมสร้างและส่งเสริมการขายประกันการเดินทางเพื่อเป็นผู้นำในภูมิภาคเอเชีย สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 19 ลดลง ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด  พบว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มีแผนซื้อประกันภัยการเดินทางหากเกิดอุบัติเหตุหรือต้องเคลื่อนย้ายกลับประเทศแบบผู้ป่วยโดยไม่ต้องสำรองจากจ่ายเงินก่อน การพัฒนาเว็บแอพพลิเคชันให้นักท่องเที่ยวสามารถค้นหาประกันภัยการเดินทางที่ตรงกับต้องการและจุดประสงค์การเดินทางทั้งแบบรายบุคคลและรายกลุ่ม รวมถึงเปรียบเทียบประเภทผลิตภัณฑ์หรือเลือกปรึกษาผู้เชี่ยวชาญได้

กลุ่มที่ 6 หัวข้อ การพัฒนาเกมกระดาน (Board Game) เพื่อสร้างความตระหนักรู้ด้านการประกันภัยให้แก่นักเรียน นักศึกษา และบุคคลทั่วไป เพื่อเป็นรากฐานในการจัดการความเสี่ยง และต่อยอดไปสู่การเติบโตของธุรกิจในอนาคต การพัฒนาเกมกระดาน (Board Game) เป็นเครื่องมือที่เหมาะสมในการช่วยส่งเสริมความรู้และสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการประกันภัยให้แก่กลุ่มผู้เล่น โดยที่ยังคงสร้างความสนุกสนานพร้อมทั้งให้เกิดการเรียนรู้ด้านวิชาการไปพร้อมๆ กัน

ต่อจากนั้นเลขาธิการ คปภ. ได้นำคณะผู้บริหารสำนักงาน คปภ. และนักศึกษา วปส. 11 ร่วมทำกิจกรรมเพื่อสังคม (Corporate Social Responsibility : CSR) โดยนำสิ่งของอุปโภคบริโภคของนักศึกษาที่ร่วมบริจาค ประกอบด้วย ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม อุปกรณ์การเรียน เครื่องเขียน เป็นต้น และเงินร่วมบริจาค จำนวน 308,501 บาท ณ โรงเรียนภูเก็ตปัญญานุกูล เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2566  

ประกันภัย ดูทั้งหมด



COPYRIGHT © 2016 SEQUEL ONLINE. ALL RIGHTS RESERVED.
FOLLOW UP