19 กรกฎาคม 2566 : นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีแรก 2566 บริษัทฯ ยังคงรักษาการเติบโตที่มั่นคงอย่างต่อเนื่อง ดีมานด์ตอบรับดีทั้งสินค้าแนวราบและคอนโดมิเนียม สามารถสร้างยอดขายรวมได้แล้วถึง 17,285 ล้านบาท คิดเป็น 48% จากเป้าหมายยอดขาย 36,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนยอดขายโครงการแนวราบ 11,304 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดใหม่และสร้างเสร็จพร้อมอยู่ 5,981 ล้านบาท
โดยมาจากการตอบรับที่ดีของลูกค้าในทุกทำเลโครงการที่มีสินค้าสร้างเสร็จพร้อมอยู่ รวมถึงโครงการที่เปิดตัวใหม่ ทั้งนี้ยอดขายที่เพิ่มขึ้นมาจากโครงการภูมิภาคของศุภาลัย ยังคงได้รับความสนใจและเติบโตโดดเด่นอย่างต่อเนื่อง ทั้งยอดขายคอนโดมิเนียม 570 ล้านบาท เติบโต 72% โครงการแนวราบ 7,214 ล้านบาท เติบโต 6% เมื่อเทียบกับยอดขายครึ่งปี 2565 ทั้งนี้ โครงการใหม่ ที่สามารถสร้างยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง อาทิ ศุภาลัย ปาร์ค เอกมัย - พัฒนาการ , ศุภาลัย บลูเวล หัวหิน , ศุภาลัย เอเลแกนซ์ พหลโยธิน 50 และ ศุภาลัย เลค วิลล์ ภูเก็ต
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีสินค้าสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ในมือทั้งโครงการแนวราบและคอนโดมิเนียม มูลค่ามากกว่า 20,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเข้ามารองรับการเติบโตของยอดขายในครึ่งปีหลัง โดยล่าสุด ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา โครงการศุภาลัย ลอฟท์ สาทร - ราชพฤกษ์” ได้เปิดให้ลูกค้าเข้าตรวจรับห้องชุดและได้รับการตอบรับจากลูกค้าทยอยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดไปแล้ว ประมาณ 75%
สำหรับครึ่งปีหลัง 2566 บริษัทฯ เดินเครื่องพัฒนาโครงการใหม่รวม 27 โครงการ มูลค่ารวม 28,610 ล้านบาท เปิดตัวโครงการแนวราบ 26 โครงการ และคอนโดมิเนียม 1 โครงการ โดยมีการออกแบบผลิตภัณฑ์และเปิดตัวแบรนด์ใหม่ การพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมลุยเปิดตลาดอสังหาฯ ในจังหวัดใหม่ๆ ในทำเลศักยภาพ
สำหรับโครงการแนวราบเปิดเพิ่ม 4 จังหวัดใหม่ คือ นครปฐม ลำปาง ราชบุรี และจันทบุรี และคอนโดมิเนียมแบรนด์ใหม่อีกด้วย เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า ซึ่งจะช่วยหนุนยอดขายให้เติบโตได้ตามเป้าหมาย อีกทั้งไตรมาส 3 ยังเตรียมพร้อมโอนฯ ห้องชุดให้ลูกค้ากับโครงการศุภาลัย พรีเมียร์ สี่พระยา-สามย่าน ทำให้บริษัทฯ มั่นใจว่าจะได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากการโอนฯ ของลูกค้าเช่นกัน และคาดว่าจะทยอยโอนกรรมสิทธิ์ได้ครบภายในปี 2566 ช่วยผลักดันรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 36,000 ล้านบาท ด้วยการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแล้วครอบคลุม 28 จังหวัด