WELCOME TO SEQUEL ONLINE (ซีเคว้ล ออนไลน์)
วันอาทิตย์ ที่ 22 ธันวาคม 2567 ติดต่อเรา
“วรรณ อัลติเมท โกลบอล อิควิตี้” กองทุนเปิด เพื่อการเลี้ยงชีพ(ONE-UGERMF) ที่น่าสนใจวันนี้ – 19 ธ.ค.นี้เท่านั้น###

6 ธันวาคม 2559 : บลจ.วรรณจับทางลงทุนหุ้นสหรัฐ พร้อมกระจายลงทุนหุ้นทั่วโลก เปิดเสนอขายกองทุนเปิด วรรณ อัลติเมท โกลบอล อิควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ(ONE-UGERMF) บลจ.วรรณ แนะกระจายลงทุนหุ้นต่างประเทศระยะยาว ให้น้ำหนักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯโดยวันนี้ ถึง 19 ธันวาคม นี้ เน้นลงทุนตลาดหุ้นทั่วโลกที่มีศักยภาพการเติบโตในอีก 10 ปีข้างหน้า

บลจ.วรรณ

นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจโลกในปีหน้า มีแนวโน้มการฟื้นตัวที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มพัฒนาแล้วนำโดยประเทศสหรัฐอเมริกา อีกทั้งยังมีนโยบายทางการคลังภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีคนใหม่ ผ่านการเพิ่มรายได้ขั้นต่ำและลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญสนับสนุนให้เศรษฐกิจของสหรัฐฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจน และจะส่งผลให้เงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และอาจจะกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยวันที่ 13-14 ธ.ค. นี้ประมาณ 0.25% และปรับขึ้นอีก 2 ครั้งในปีหน้า(2560)

ด้านการจัดพอร์ตการลงทุน บลจ.วรรณขอแนะนำกระจายการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ เพื่อสร้างผลตอบแทนในระยะยาว โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่วัฎรจักรของเศรษฐโลกกำลังเริ่มเข้าสู่การฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นจังหวะในการทยอยสะสมหุ้นที่มีแนวโน้มการเติบโตในระดับสูง

ล่าสุด บริษัทฯ เปิดเสนอขายกองทุนเปิด วรรณ อัลติเมท โกลบอล อิควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ(ONE-UGERMF) เป็นกองทุนประเภท Fund of Funds เน้นกระจายการลงทุนในกองทุน Baillie Gifford Long Term Global Growth Fund ในสัดส่วนประมาณ 70-80% เพื่อชนะเกณฑ์มาตรฐาน ในช่วงระหว่างวันนี้ ถึง วันที่ 19 ธันวาคม 2559 พร้อมกับกระจายการลงทุนในหน่วยลงทุน ETF บางส่วนเพื่อให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนีฯ ที่ใช้เป็นเกณฑ์มาตรฐาน ได้แก่

กองทุน iShares MSCI ACWI ETF กองทุน SPDR MSCI ACWI UCITS ETF ประมาณ 20-30% โดยจุดเด่นของกองทุน Baillie Gifford Long Term Global Growth Fund จะเน้นลงทุนในหุ้นทั่วโลกไม่จำกัดภูมิภาคที่มีศักยภาพเติบโตที่โดดเด่นและยั่งยืนในอีก 10 ปีข้างหน้า เช่น บริษัทที่มีนวตกรรมและมีแนวโน้มที่จะเติบโตรองรับกับผู้บริโภคในอนาคต อาทิ กลุ่มการแพทย์ กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ปฎิวัติเทคโนโลยี กลุ่มค้าปลีกออนไลน์ เป็นต้น จึงเหมาะสำหรับเป็นทางเลือกให้ผู้ลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุนในต่างประเทศ พร้อมรับสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษี

“พอร์ตการลงทุนของกองทุน Baillie Gifford ส่วนใหญ่ให้น้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯสัดส่วน 50-60% ของพอร์ตการลงทุน ซึ่งมองว่าเป็นโอกาสดีของการเข้าลงทุนในช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง อีกประมาณ 30% จะลงทุนตลาดหุ้นเอเชีย เช่น จีน ฮ่องกง และ 10% ในกลุ่มประเทศยุโรป โดยอุตสาหกรรม 3 อันดับแรก ที่เลือกกระจายการลงทุนได้ กลุ่ม Information Technology สัดส่วน 40-50% กลุ่ม Consumer Discretionary สัดส่วน 30% และ Health Care สัดส่วน 15% ทั้งนี้ หุ้นส่วนใหญ่ที่กองทุนหลักเลือกลงทุน เป็นหุ้นที่มีแนวโน้มการเติบโตในระดับสูงรองรับพฤติกรรมผู้บริโภค อาทิ หุ้น Amazon, Facebook, Alibaba เป็นต้น” นายพจน์ กล่าว

นายมณฑล จุนชยะ ประธานเจ้าหน้าที่ลงทุน กล่าวเสริมว่า ภาพการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงของปีหน้า ตลาดหุ้นสหรัฐมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งจะเอื้อต่อผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนให้เติบโตต่อเนื่องอีกทั้งยังมีเม็ดเงินไหลกลับเข้าสู่ตลาดหุ้นสหรัฐ ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปยังคงต้องติดตามความเสี่ยงปัจจัยทางการเมือง

อย่างไรก็ดี มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางยุโรปจะเป็นแรงหนุนให้มีสภาพคล่องในระบบยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยสนับสนุนตลาดหุ้นได้อีกทางหนึ่ง ในส่วนของตลาดหุ้นญี่ปุ่น ยังคงให้น้ำหนักการติดตามที่ปัจจัยด้านอัตราแลกเปลี่ยน โดยประเมินว่าค่าเงินเยนยังมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่อง“ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน” โดยประเมินกรอบค่าเงินเยนของปีหน้าอยู่ที่ระดับ 115-116 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

ขณะที่ตลาดหุ้นประเทศจีน ยังคงต้องติดตามระดับความรุนแรงของผลกระทบในช่วงที่ประเทศสหรัฐฯ มีการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีท่านใหม่ ซึ่งหากระดับความรุนแรงไม่มาก ตลาดหุ้นจีนยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจจีนเริ่มมีเสถียรภาพ กอปรกับมาตรการนโยบายการเงินและการคลังยังคงมีอยู่ต่อเนื่องรวมทั้งยังได้อานิสงส์จากโครงการเชื่อมโยงตลาดหุ้นเซินเจิ้น-ฮ่องกง

สำหรับตลาดหุ้นในแถบอาเซียน ซึ่งมีความกังวลถึงผลกระทบจากนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ บริษัทมองว่าผลกระทบดังกล่าวจะไม่มากนักเนื่องจากสหรัฐไม่ได้มุ่งเป้ากีดกันทางการค้ามายังแถบประเทศอาเซียน นอกจากนี้ ปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจประเทศกลุ่มอาเซียนส่วนใหญ่ฟื้นตัวได้ค่อนข้างดี ดังนั้นโอกาสการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นในแถบภูมิภาคอาเซียนยังคงมีอยู่เช่นกัน logo เล็ก (ปิดท้ายข่าว)

การเงิน ดูทั้งหมด



COPYRIGHT © 2016 SEQUEL ONLINE. ALL RIGHTS RESERVED.
FOLLOW UP